ประสาน นิลมานัตต์ "เขาคือเงาของเสี่ยเล็กแห่งธนบุรีพานิช"

โดย ภัชราพร ช้างแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2532)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อเอ่ยชื่อเสี่ยเล็ก วิริยะพันธ์ คนย่อมรู้ดีว่าเขาร่ำรวยมหาศาลเป็นเจ้าของกิจการประกอบและขายรถเบนซ์ เจ้าของบริษัทประกันภัยเจ้าของเมืองโบราณ และอื่น ๆ อีกมากมาย

แต่ถ้าในวงการประกันภัยแล้วทุกคนจะรู้จักมากขึ้นไปอีกว่า บริษัทวิริยะประกันภัยของเสี่ยเล็กซึ่งครองอันดับหนึ่งด้านการประกันรถยนต์นั้น เสี่ยเล็กได้มอบหมายให้ "เงา" ของเขาเป็นผู้บริหารมานานแล้ว

"เงา" ที่ว่านี้คือ ประสาน นิลมานัตต์ อดีตมือดีคนหนึ่งของสำนักงานประกันภัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยที่ยังเป็นกองประกันภัย

ด้วยบุคลิกคล่องแคล่วว่องไว พูดจาฉาดฉานติดไปข้างจะโวยวายสักหน่อย ประสานได้เข้ามาร่วมงานกันเสี่ยเล็กในราวปี 2519 โดยเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป และนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้จนถึงปัจจุบันซึ่งนั่นก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ที่เสี่ยเล็กมอบความไว้วางใจให้มากขนาดไหน

ก่อนที่ประสานจะลาออกจากสำนักงานประกันภัยนั้น เขากินเงินเดือน 3,000 กว่าบาทซึ่งถือว่าเต็มขั้นแล้วและควรที่จะได้รับการปรับตำแหน่งสูงขึ้น แต่แทนที่เขาจะได้รับแต่งตั้งให้เลือกตำแหน่งขึ้นไปปรากฎว่าผู้อำนวยการสำนักงานในเวลานั้นซึ่งคือ โพธิ์ จรรย์โกมล ได้เสนอแต่งตั้งผู้อื่นแทนเขา เขาน้อยใจมากจึงลาออก

และนั่นก็ทำให้หน่วยงานราชการเสียมือดีไปอีกคนหนึ่ง ด้วยสาเหตุธรรมดาที่เกดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนในหน่วยงานราชการไทย

เมื่อออกมาจากสำนักงานฯแล้ว ประสานก็กินเงินเดือนเหยียบหมื่นที่วิริยะฯ และหลังจากผ่านมา 10 ปีคงไม่ต้องถามอีกแล้วว่าป่านฉะนี้เงินเดือนของเขาจะทะลุไปถึงเท่าไหร่

ประสานแต่งงานแล้ว มีภรรยาเป็นข้าราชการระดับสูง ซี 7 มีลูกสาว 2 คนซึ่งคนโตนั้นถอดบุคลิกความปราดเปรียวของพ่อเอาไว้ได้มาก

ประสานเป็นคนที่ในวงการประกันภัยรู้กันดีว่ามีไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ มาเสนอให้ผู้คนในวงการฮือฮาสนใจไม่ขาดสาย อย่างไอเดียเรื่องประกันชีวิตกุ้งกุลาดำ เขาก็เป็นผู้ริเริ่มคิด ก่อนที่จะแพร่หลายไปให้หลาย ๆ บริษัททำเรื่องศึกษาวิจัยกัน แต่ไอเดียนี้วิริยะฯไม่เคยทดลองทำแต่อย่างใด

หรือในเรื่องของ "น็อค ฟอร์ น็อค" เขาก็เป็นผู้ริเริ่ม เป็นตัวตั้งตัวตีดำเนินงานจนสำเร้จออกมาได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการประกันภัยโทรศัพท์ และการให้ประกันอวัยวะสำคัญของมนุษย์นอกเหนือไปจากชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่บริษัทรับทำประกันอยู่แล้ว

การเข้าไปรับเทคโอเวอร์บัวหลวงประกันภัยก็เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่เขาพยายามผลักันออกมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แม้วาในแง่ของการก่อตั้งบริษัทใหม่และการบริหารที่จะให้ออกมาเป็นแบบเดียวกับบริษัทไทยรับประกันต่อ จำกัด ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลมากก็ตาม

ประสานเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการผลักดันให้สมาคมรับช่วยแก้ไขปัญหาบัวหลวง เขาเป็นตัวกลางในการวิ่งเจรจาระหว่างสมาคมประกันวินาศภัยและสำนักงานประกันภัย รวมทั้งเป้นผู้รวบรวมลายเซ็นจากตัวแทนบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เพื่อลงนามในหนังสือของสมาคมฯยื่นขอเทคโอเวอร์บัวหลวงฯ

ในวันสุดท้ายก่อนที่จะล่าลายเซ็นเพื่อลงนามในหนังสือของสมาคมฯ ประสานก็ถูกเสี่ยเล็กเรียกตัวไปพบด่วนที่เมืองโบราณ หมายกำหนดการเดิมที่เขาต้องเข้าพบชลอพร้อมวิรัช จึงต้องมอบหมายให้วรวุทธเข้าไปแทน

ต่อมาประสานและวิรัชได้บอกกับ "ผู้จัดการ" เป็นนัยว่าเรื่องบัวหลวงฯคงกินเวลาอีกไม่นาน เมื่อสมาคมฯทำหนังสือขอซื้อกิจการแล้วก็รอแต่ให้ผู้ใหญ่เซ็นอนุมัติเท่านั้น

ประสานกล่าวกับ "ผู้จัดการ" หลายครั้งว่า การซื้อกิจการบัวหลวงฯไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับวิริยะฯ แต่หากจะมีการซื้อจริง ๆ ก็ควรที่จะให้ผ่านทางสมาคมฯจะเหมาสมกวา

เขากล่าวเพื่อจูงให้ทุกคนหันออกจากความสงสัยว่า งานนี้เขาคือตัวแทนของเสี่ยเล็ก หรือเปล่า

ดังนั้นการแก้ไขปัญหาบัวหลวงฯในครั้งนี้ หากจะเรียกว่าเป็นความสำเร็จ ก็ต้องยกให้แก่ประสานด้วยเป็นจำนวนมาก ค่าที่สามารถทำหน้าที่ประสานได้สมชื่อสมตัว สมกับเป็นมือกระบี่ไร้เงาของเสี่ยแล้วอย่างแท้จริง



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.