ไอเอ็นจีสะเทือน

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

ปัญหาวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบสถาบันการเงินในกลุ่มยุโรปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่ธนาคารไอเอ็นจี ประเทศเนเธอร์แลนด์ 1 ใน 20 ธนาคารขนาดใหญ่ของโลกก็ยังได้รับแรงกระแทกจนซวนเซเช่นเดียวกัน

ธนาคารไอเอ็นจีไม่ใช่สถาบันการเงินแรกของยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินของสหรัฐอเมริกา แต่ก่อนหน้านี้ธนาคารฟอร์ติส สถาบันการเงินรายใหญ่อันดับ 1 ของเบลเยียมต้องรับความช่วยเหลือมูลค่า 1.12 แสนล้านยูโรจากรัฐบาลเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก

แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ สถาบันปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของอังกฤษก็ถูกรัฐบาลเข้าไปควบคุมกิจการไปแล้ว

รวมถึงรัฐบาลเยอรมนีร่วมกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทประกันภายในประเทศจัดตั้งวงเงินกู้ฉุกเฉินให้กับบริษัท ไฮโป เรียล เอสเตท สถาบันการเงินด้านการจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเยอรมนี หลังจากบริษัทขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

ผลกระทบที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศยุโรปยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา รัฐบาลเนเธอร์ แลนด์ได้ประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 1 หมื่น ล้านยูโร หรือ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับธนาคารไอเอ็นจีเพื่อเสริมสภาพคล่องจากผลกระทบวิกฤติการเงินของสหรัฐอเมริกา ซึ่งความช่วยเหลือนี้เกิดขึ้นภายหลังที่ธนาคารไอเอ็นจีได้ประกาศว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 อาจต้องขาดทุนราว 500 ล้านยูโร

เพื่อป้องกันความแตกตื่นของลูกค้า ไอเอ็นจี 85 ล้านรายทั่วโลกที่ใช้บริการผ่านธนาคารและบริษัทลูกที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในปัจจุบัน อาทิ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และธุรกิจประกันภัย

การเร่งดำเนินการนี้เพื่อสยบข่าวลือ ที่แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วถึงความไม่มั่นคงของธนาคารทำให้ฝ่ายสื่อสารองค์กรต้องทำงานอย่างหนักเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านทั้งงานแถลงข่าวและเอกสาร ข่าวไปยังสื่อสารมวลชนทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

ไอเอ็นจีเข้ามาลงทุนธุรกิจในเมืองไทยหลายประเภท ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการ กองทุน ธุรกิจประกันชีวิต ล่าสุดได้เข้าไปถือหุ้นในธนาคารทหารไทยในฐานะผู้ถือหุ้น ใหญ่ จำนวน 26.4%

ในเอกสารข่าวได้เปิดเผยคำพูดของ Michel Tilmant CEO ของไอเอ็นจี กรณีภาครัฐเข้ามาเพิ่มทุน เขาบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเพิ่มสำรองเงินทุนเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขันของธนาคารภายใต้สภาพตลาดที่เปลี่ยน แปลงไป

พร้อมกันนี้ในเอกสารข่าวยังได้ชี้แจงถึงจำนวนเงิน 1 หมื่นล้านยูโรจะไปอยู่ ณ จุดใดบ้าง และไอเอ็นจีได้วางแผนนำเงินจำนวนดังกล่าว โดยเงินจำนวน 5 พันล้านยูโรจะนำไปเพิ่มสัดส่วนของผู้ถือหุ้นในธนาคารไอเอ็นจี ส่วนเงินอีก 2 พันล้านยูโรจะเพิ่มในงบดุลธุรกิจประกันชีวิตและอีก 3 พันล้านยูโรจะนำไปลดสัดส่วนของหนี้รวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในไอเอ็นจี กรุ๊ป จาก 15% ให้เหลือประมาณ 10%

ฮานส์ แวนเดอร์ นอร์ดา ผู้บริหารไอเอ็นจีที่ดูแลธุรกิจประกันชีวิตในเอเชียแปซิฟิกบอกว่ายังเชื่อมั่นในการทำธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกและถ้ามีโอกาสจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม

การรับมือกับข่าวที่แพร่กระจายออกไปทั่วโลกเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาของผู้บริหารไอเอ็นจีจากสำนักงานใหญ่และผู้บริหารที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยยืนยันถึงความแข็งแกร่งของไอเอ็นจีที่ยังคงมีอยู่และการที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือกลับกลายเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าและถือเป็นความเท่าเทียม ที่ได้รับความช่วยเหลือเฉกเช่นสถาบันการเงินอื่นๆ

ราเจช เสฐฐี กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด ประจำประเทศ ไทย พยายามชี้ให้เห็นรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ไม่ได้เข้ามาถือหุ้นแต่เงินช่วยเหลือเปรียบเหมือนกับเป็นเกราะป้องกันไอเอ็นจี

ส่วนสถานภาพธุรกิจประกันในประเทศไทย เขายืนยันว่าไทยมีเงินทุน สำรอง 300% มีความแข็งแกร่งแต่ก็ยอมรับ ว่ามีความกังวลเช่นเดียวกันแต่หลังจากชี้แจงจะทำให้ลูกค้าเกิดความผ่อนคลายและบริษัทก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนการตลาดที่กำหนดไว้รวมทั้งการตลาดจะร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้นโดยเฉพาะร่วมทำตลาดกับบริษัทในเครือของไอเอ็นจี

ยิ่งกว่านั้นบริษัทยังกำหนดเป้าหมาย อัตราการเติบโตปีละ 20-40% เช่นเดิม โดยในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 6 พันล้านบาทจากปี 2550 มีรายได้ 5 พันล้านบาทและปัจจุบันที่มีลูกค้า 225,000 ราย

ในส่วนของธนาคารทหารไทยที่มีไอเอ็นจีถือหุ้นหลักยังไม่มีความเคลื่อนไหวกรณีเรื่องดังกล่าวมากนัก และรามากริชนาน สุบรามาเนียน ประธานเจ้าหน้าที่บริการลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ยังยืนยันในความมั่นคงของไอเอ็นจี และการทำธุรกิจธนาคารภายใต้โมเดล Universal Banking ยังเหมาะสมกับสภาวะวิกฤติในปัจจุบันโดยเน้นให้บริการพื้นฐานผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ส่วนวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากสถาบันการเงินที่เน้นให้บริการในรูปแบบ Universal Banking แต่การล่มสลายเกิดจากบริการวาณิชธนกิจ หรือ Investment Banking (IB)

อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากวิกฤติ ครั้งนี้ไอเอ็นจีจะได้รับมากน้อยเพียงใดอาจยังไม่สามารถบอกได้ในเวลานี้เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน แต่ต้องดูผลในอีกสักระยะหนึ่งเพราะนักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะซึมนานถึง 2 ปี

แต่ที่แน่ๆ ผู้ถือหุ้นได้รับผลไปแล้วเพราะไอเอ็นจีได้ตัดสินใจงดจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปี 2551 นั่นหมายถึงในปีนี้ไอเอ็นจีจ่ายเงินปันผลรวม 0.74 ยูโรต่อหุ้นตามที่ได้จ่ายไปแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทของไอเอ็นจีทุกคนตัดสินใจงดรับเงินโบนัสประจำปีที่มาจากผลการดำเนินงานปีนี้ไม่ว่าจะเป็นในรูปเงินสด option หรือหุ้นก็ตาม และกำหนดการชดเชยหากผู้บริหารลาออกก็จะได้เงินชดเชยไม่เกินเงินเดือน 1 ปีเท่านั้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.