|
ทีคัพสวีทโฮม : อนุบาลสร้างมูลค่าเจ้าตูบ
โดย
สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
"ตาก็โต หัวก็โต ดูยังไงก็ตัวไม่โต say Hello!! ออกมาโชว์ โผล่ออกจากแก้ว กระเป๋า รองเท้า....บ้านหลังนี้ มีสีสันสดใส ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ก็สุดแสน happy ถ้าใครที่อยากได้น้องชิแสนดี ก็ต้องมาที่ทีคัพสวีทโฮมๆๆ" นี่เป็นบทเพลงที่วรุทัย แก้วกำแหง ร้องโปรโมตสินค้าของเธอผ่านเว็บไซต์ www.tcupsweethome.com
"ทีคัพสวีทโฮม" ถือเป็นแหล่งจำหน่ายลูกชิวาว่า หมาพันธุ์เล็กที่บางตัวเล็กกว่าถ้วยกาแฟ ราคาของหมาที่นี่ขั้นต่ำอยู่ 3 หมื่นบาท สูงสุดประมาณ 120,000 บาท เหตุหนึ่งที่ราคาแพงก็เพราะทุกตัวมีประกันชีวิตซึ่งมีทุนประกันสูงถึง 5-6 หลักเลยทีเดียว... แม้ฟังดู "แพงเว่อร์" แต่เท่าที่ผ่านมาทีคัพฯ ก็มีลูกค้ามาซื้อหมาออกไปแล้วร่วม 300-400 ตัว
ที่นี่ไม่ใช่ฟาร์ม ดูคล้ายกับ "นายหน้า" หรือ "โมเดลลิ่ง" เสียมากกว่า โดยวรุทัย จะเลือกหมาตัวที่มีลักษณะสมบูรณ์แล้วซื้อคืนจากลูกค้าและเพื่อน แล้วพามาอนุบาลและทำประกันให้หมาทุกตัว ก่อนจะขายต่อในราคาสูงดังกล่าว
"เราฝึกให้เขาขับถ่ายเป็นเวลา นอนเป็นเวลา เจ็ดโมงทานข้าว บ่ายทานข้าวกลางคืนนอน แล้วที่นี่เราเลี้ยงไม่เหมือนชาวบ้าน เราเลี้ยงเขาเหมือนนักเรียนอนุบาล" วรุทัยกล่าวในฐานะเจ้าของบ้านทีคัพฯ ชิวาว่าที่นี่ไม่ได้ถูกเลี้ยงในกรงเหมือนฟาร์มหมาทั่วไป แต่ทุกตัวนอนเตียง บนเตียงมีของเล่นและตู้เสื้อผ้าที่สั่งทำพิเศษ ส่วนโมบายกุ๊งกิ๊งสีสันสดใสแขวนไว้ให้หมา เพราะเธอเชื่อว่าพอหมาได้ฟังจะช่วยปรับสภาพจิตใจของหมาให้ดี โตขึ้นมาไม่เป็นหมา กาวราว
หมาๆ ที่นี่มีทั้งอาหารหมาแบรนด์ "เหนือกว่าพรีเมียม"มีวิตามินและอาหารเสริมให้กินทุกวัน อีกทั้งยังมีเพลงคลาสสิกให้ฟัง มีหนังการ์ตูนให้ดู เรื่องที่เปิดประจำ ได้แก่ Tom & Jerry และ Cinderella นอกจากนี้ก็ยังมีสระว่ายน้ำไว้ให้ออกกำลัง วันไหนอากาศดีก็พาไปเที่ยวทะเล
"ค่าใช้จ่ายเลี้ยงหมาที่นี่เหยียบหกหลักขึ้นไป เพราะเราเลี้ยงเขาแบบเด็ก 1 ชีวิต 1 สุนัข 1 ภาระที่มี เรามีลูก (หมา) 20 คน (ตัว) ตอนนี้ส่วนตัวอาจจะเป็นเพราะเราเป็นลูกคนเดียว เคยได้รับอะไรมา เราก็อยากให้ลูกเราได้ด้วย เรามีความสุข ลูกเราก็ต้องมีความสุขด้วย" วรุทัยอธิบาย
แม้จะมีคนบอกว่า "เว่อร์" เกินไปแต่เมื่อทำด้วยความสุข ความสบายใจและยังมีลูกค้าเรื่อยๆ เธอก็ยังคงเชื่อมั่นว่าเธอมาถูกทางแล้ว และทำต่อมา...เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่เธอเปลี่ยนจากการเลี้ยงเพื่อความสุขส่วนตัวมาเป็นเพื่อธุรกิจและพลิกผันชีวิตจากว่าที่นักดนตรีดาวรุ่งในต่างประเทศ มาเป็นคนขายหมา ควบคู่กับอาชีพครูสอนร้องเพลง
"เราจำหน่ายสุนัขเป็นธุรกิจก็จริง แต่เราไม่ได้ขายแล้ว จบกัน ไม่เหมือนฟาร์ม เราจะมีมีทติ้งและจัดกิจกรรมกันเรื่อยๆ ผ่านไป 1 ปี 2 ปี หลายปี ก็ยังมาคุยกันดูว่าเด็กๆ เป็นยังไงบ้าง เหมือนเป็นศิษย์เก่าชิวาวาทีคัพฯ มาคุยกัน" สมแล้วที่วรุทัยบอกว่า ธุรกิจของเธอเป็นการซื้อขายความรักและได้เพื่อน
...ไม่ว่าเพื่อนหรือความรัก สำหรับใครหลายคนถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจจนไม่สามารถประเมินค่าได้..แต่พอตีราคาออกมาเป็นตัวเลข 5-6 หลัก คงมีเพียงบางคนเท่านั้นที่ยังเห็นว่าคุ้ม!!
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|