แบงก์กรุงเทพ (BBL) เตรียมลดดอกเบี้ยกู้-ฝาก ไตรมาส 3 อีก 0.25% หากธนาคารกลางมะกันนำร่องหั่นดอกเบี้ยลุงแซมอีกครั้ง
ขณะที่แบงก์กรุงศรีอยุธยา แบงก์ขนาดกลางของไทยอีกแห่ง หวังกองทุนวายุภักษ์ช่วยดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดเงินไทยปัจจุบัน
ที่ยังสูงถึง 8 แสนล้านบาท เพื่อให้แบงก์ไม่หั่นดอกเบี้ยอีกรอบ ด้าน ครม. ไฟเขียวกระทรวงพาณิชย์
ขายประกันเอื้ออาทร คิดเบี้ยประกันสุดถูกวันละบาท
นายเดชา ตุลานันท์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) แบงก์ใหญ่อันดับ
1 ของไทย กล่าววานนี้ (5 ส.ค.) ถึงแนว โน้มดอกเบี้ยระบบธนาคารพาณิชย์ไทยและธนาคารกรุงเทพว่า
ไตรมาส 3 ปีนี้ ธนาคารอาจปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25%
การปรับลดดอกเบี้ยของไทย จะขึ้นกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของนายอลัน กรีนสแปน ประธานเฟด เขาส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ย
อ้างอิงสหรัฐฯ 0.25% จะทำให้ธนาคารพาณิชย์ไทย ปรับลดดอกเบี้ยตาม
เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของไทยลดลงอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝาก
ออมทรัพย์ ขณะนี้เหลือไม่ถึง 1% ซึ่งหากหักเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยเงินฝากแท้จริงดังกล่าวติดลบแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าดอกเบี้ยของไทยจะไม่ต่ำจนเหลือ 0% เหมือนประเทศอื่นๆ
สำหรับธนาคารกรุงเทพติดตามสถานการณ์ ทิศทางดอกเบี้ยใกล้ชิด โดยเฉพาะการปรับลดดอกเบี้ยตลาดเงินมะกันของเฟด
จะเป็นปัจจัย ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกรวมทั้งไทย นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาสภาพคล่อง
ระบบธนาคารในไทย ซึ่งขณะนี้เขายอมรับว่ายังมี ส่วนเกินเหลืออยู่มาก รวมทั้งทิศทางตลาด
ยังแข่งขันกันอยู่ ทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
การตั้งกองทุนวายุภักษ์ของรัฐบาล นายเดชามองว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดการตั้งกองทุนฯ ที่ชัดเจน
แต่การตั้งกองทุนฯ จะช่วยลดสภาพคล่องส่วนเกินในระบบได้ระยะหนึ่งเท่านั้น
"หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ธนาคารไทยคงไม่พ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามซึ่งในไตรมาส
3 ก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับลงได้อีก 0.25% ทั้ง 2 ขา แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น
และเฟดไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย ลง ดอกเบี้ยไทยก็คงจะไม่ลง" นายเดชากล่าว
BAY พร้อมลดดอกเบี้ยตามแบงก์อื่น
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แบงก์ขนาดกลางของไทยอีกแห่ง ประกาศพร้อมปรับลดดอกเบี้ยของธนาคาร
หากธนาคารใดปรับลดลงก่อน ยืนยันจะไม่เป็นผู้นำปรับลด ระบุปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินตลาดเงินไทยเหลือถึง
8 แสนล้านบาท
นายพงศ์พินิต เดชะคุปต์ กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่าธนาคาร พร้อมจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก
อีกรอบ หากธนาคารใดเป็นผู้นำปรับลดก่อน แต่เขายืนยันว่า ธนาคารจะไม่เป็นผู้นำปรับลดดอกเบี้ยไทยรอบใหม่แน่
ขณะนี้ เขากำลังจับตาดูว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมะกันหรือไม่ หากลดสัดส่วนเท่าใด
ซึ่งจะมีผลกระทบทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลก รวมทั้งดอกเบี้ยไทย นอกจากนี้ สภาพคล่องในระบบตลาดเงินไทยยังคงสูง
รัฐบาลกำลังจะออกกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดเงินไทย
เขายังไม่แน่ใจว่า กองทุนฯนี้ จะดูดซับสภาพคล่องได้มากน้อยแค่ไหน โดยรวมดอกเบี้ยไทยยังคงลดลงได้อีกแน่นอน
ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา สภาพคล่องยังมีส่วนเกินอยู่บ้าง
สภาพคล่องเหลือ 8 แสนล้านบาท
เขายอมรับว่าสภาพคล่องในระบบตลาดเงินไทยปัจจุบัน ยังมีส่วนเกินเหลือถึงประมาณ
8 แสนล้านบาท สำหรับสัดส่วนปรับลดดอกเบี้ย ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องขึ้นกับสภาพคล่องช่วงนั้น
หากรัฐบาลตั้งกองทุนวายุภักษ์สำเร็จ และหากกองทุนฯ มีผลทำให้สภาพคล่องในระบบลดลง
อาจทำให้ธนาคารไม่ต้องปรับลดดอกเบี้ยอีก ส่วนมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้นักลงทุนสถาบัน
6 ประเภท ลงทุนได้ในต่างประเทศ ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง ทั้งผลตอบแทนและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน
การลงทุนในต่างประเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังไม่พร้อมต้องพิจารณารอบคอบ
ครม.ไฟเขียวขายประกันเอื้ออาทร
นายภูมิ สาระผล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีวานนี้ (5
ส.ค.) รับทราบโครงการรณรงค์เพื่อประกันภัยรถภาคบังคับ และประกันภัยเอื้ออาทรโดยผู้นำท้องถิ่น
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการดังนี้
1. ประสานกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีส่วนร่วมสนับสนุนส่งเสริมกำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่รณรงค์รถทุกคันทำประกันภัยภาคบังคับและแนะนำประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรแก่ประชาชน
โดยสามารถรับค่าตอบแทนจากบริษัทประกันภัย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการได้
2. ประสานกับกระทรวงการคลัง และมหาดไทย ออกระเบียบจ่ายเงินรางวัลจากส่วนแบ่งเงินค่าปรับให้กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน ในการทำหน้าที่แจ้งความนำจับเจ้าของรถที่ไม่ทำประกันภัย และผู้ทำผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พ.ศ.2535 เพื่อจูงใจให้ดำเนิน การจริงจัง และเพื่อประโยชน์บังคับใช้กฎหมาย
โครงการรณรงค์ให้ประชาชนทำประกันภัยเอื้ออาทร ประกับภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับผู้มีรายได้น้อย
และประกันภัยโดยสมัครใจ จะเป็นอีกทางเลือกของประชาชน สร้างหลักประกันชีวิตดีขึ้น
สรุปสาระสำคัญ
1. ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร ประกันภัย ตามความสมัครใจ 2. ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร
ประกันภัยที่บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กรณีผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุ จนเสียชีวิต
หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรเท่านั้น 3. เบี้ยประกันภัยประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร
365 บาทต่อปี
และ 4. ความคุ้มครองประกอบด้วย 4.1 ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต
หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรภายใน 365 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุจะได้รับชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทน เป็นเงิน 300,000 บาท
4.2 กรณีผู้เอาประกันภัยและคู่สมรสถูกต้องตามกฎหมายเสียชีวิต หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรพร้อมกันในอุบัติเหตุเดียวกัน
จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเป็นพิเศษอีกกรมธรรม์ประกันภัยฉบับละ 100,000 บาท รวม
400,000 บาทต่อกรมธรรม์
4.3 ทุพพลภาพถาวร หมายถึงทุพพลภาพ ถึงขนาดไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ ได้ตลอดไป
หรือมือทั้ง 2 ข้างถูกตัดตั้งแต่ข้อมือ หรือขาทั้ง 2 ข้างถูกตัดตั้งแต่ข้อเท้า
หรือสูญเสียสมรรถภาพการใช้งานของมือหรือเท้าทั้ง 2 ข้างตลอดไป หรือตาบอดสนิททั้ง
2 ข้างไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไป
ผู้เอาประกันภัยต้องมีอายุระหว่าง 15-70 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรได้เพียงคนละ
1 ฉบับ กรณีที่ซื้อมากกว่า 1 ฉบับ จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ แต่จะได้รับเบี้ยประกันคืนสำหรับสัญญาฉบับอื่นที่ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
สัญญาประกันภัยระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีนับจาก วันทำสัญญา
ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย ต่างไม่มีสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยนี้
บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้รับประโยชน์กรณีเสียชีวิต และจ่ายให้ผู้เอาประกันภัยกรณีทุพพลภาพถาวร
ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ได้รับหลักฐานครบถ้วนและถูกต้องแล้ว