แบงก์กรุงเทพจะหั่นดบ.Q3 ไฟเขียวประกันเอื้ออาทร1บ.


ผู้จัดการรายวัน(6 สิงหาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์กรุงเทพ (BBL) เตรียมลดดอกเบี้ยกู้-ฝาก ไตรมาส 3 อีก 0.25% หากธนาคารกลางมะกันนำร่องหั่นดอกเบี้ยลุงแซมอีกครั้ง ขณะที่แบงก์กรุงศรีอยุธยา แบงก์ขนาดกลางของไทยอีกแห่ง หวังกองทุนวายุภักษ์ช่วยดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดเงินไทยปัจจุบัน ที่ยังสูงถึง 8 แสนล้านบาท เพื่อให้แบงก์ไม่หั่นดอกเบี้ยอีกรอบ ด้าน ครม. ไฟเขียวกระทรวงพาณิชย์ ขายประกันเอื้ออาทร คิดเบี้ยประกันสุดถูกวันละบาท

นายเดชา ตุลานันท์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) แบงก์ใหญ่อันดับ 1 ของไทย กล่าววานนี้ (5 ส.ค.) ถึงแนว โน้มดอกเบี้ยระบบธนาคารพาณิชย์ไทยและธนาคารกรุงเทพว่า ไตรมาส 3 ปีนี้ ธนาคารอาจปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25%

การปรับลดดอกเบี้ยของไทย จะขึ้นกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของนายอลัน กรีนสแปน ประธานเฟด เขาส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ย อ้างอิงสหรัฐฯ 0.25% จะทำให้ธนาคารพาณิชย์ไทย ปรับลดดอกเบี้ยตาม

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของไทยลดลงอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝาก ออมทรัพย์ ขณะนี้เหลือไม่ถึง 1% ซึ่งหากหักเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยเงินฝากแท้จริงดังกล่าวติดลบแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าดอกเบี้ยของไทยจะไม่ต่ำจนเหลือ 0% เหมือนประเทศอื่นๆ

สำหรับธนาคารกรุงเทพติดตามสถานการณ์ ทิศทางดอกเบี้ยใกล้ชิด โดยเฉพาะการปรับลดดอกเบี้ยตลาดเงินมะกันของเฟด จะเป็นปัจจัย ส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกรวมทั้งไทย นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาสภาพคล่อง ระบบธนาคารในไทย ซึ่งขณะนี้เขายอมรับว่ายังมี ส่วนเกินเหลืออยู่มาก รวมทั้งทิศทางตลาด ยังแข่งขันกันอยู่ ทั้งหมดนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

การตั้งกองทุนวายุภักษ์ของรัฐบาล นายเดชามองว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดการตั้งกองทุนฯ ที่ชัดเจน แต่การตั้งกองทุนฯ จะช่วยลดสภาพคล่องส่วนเกินในระบบได้ระยะหนึ่งเท่านั้น

"หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ธนาคารไทยคงไม่พ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามซึ่งในไตรมาส 3 ก็มีโอกาสที่ดอกเบี้ยจะปรับลงได้อีก 0.25% ทั้ง 2 ขา แต่หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น และเฟดไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย ลง ดอกเบี้ยไทยก็คงจะไม่ลง" นายเดชากล่าว

BAY พร้อมลดดอกเบี้ยตามแบงก์อื่น

ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) แบงก์ขนาดกลางของไทยอีกแห่ง ประกาศพร้อมปรับลดดอกเบี้ยของธนาคาร หากธนาคารใดปรับลดลงก่อน ยืนยันจะไม่เป็นผู้นำปรับลด ระบุปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินตลาดเงินไทยเหลือถึง 8 แสนล้านบาท

นายพงศ์พินิต เดชะคุปต์ กรรมการบริหารและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่าธนาคาร พร้อมจะปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก อีกรอบ หากธนาคารใดเป็นผู้นำปรับลดก่อน แต่เขายืนยันว่า ธนาคารจะไม่เป็นผู้นำปรับลดดอกเบี้ยไทยรอบใหม่แน่

ขณะนี้ เขากำลังจับตาดูว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยมะกันหรือไม่ หากลดสัดส่วนเท่าใด ซึ่งจะมีผลกระทบทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลก รวมทั้งดอกเบี้ยไทย นอกจากนี้ สภาพคล่องในระบบตลาดเงินไทยยังคงสูง รัฐบาลกำลังจะออกกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดเงินไทย เขายังไม่แน่ใจว่า กองทุนฯนี้ จะดูดซับสภาพคล่องได้มากน้อยแค่ไหน โดยรวมดอกเบี้ยไทยยังคงลดลงได้อีกแน่นอน ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา สภาพคล่องยังมีส่วนเกินอยู่บ้าง

สภาพคล่องเหลือ 8 แสนล้านบาท

เขายอมรับว่าสภาพคล่องในระบบตลาดเงินไทยปัจจุบัน ยังมีส่วนเกินเหลือถึงประมาณ 8 แสนล้านบาท สำหรับสัดส่วนปรับลดดอกเบี้ย ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากต้องขึ้นกับสภาพคล่องช่วงนั้น

หากรัฐบาลตั้งกองทุนวายุภักษ์สำเร็จ และหากกองทุนฯ มีผลทำให้สภาพคล่องในระบบลดลง อาจทำให้ธนาคารไม่ต้องปรับลดดอกเบี้ยอีก ส่วนมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้นักลงทุนสถาบัน 6 ประเภท ลงทุนได้ในต่างประเทศ ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง ทั้งผลตอบแทนและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนในต่างประเทศ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งยังไม่พร้อมต้องพิจารณารอบคอบ

ครม.ไฟเขียวขายประกันเอื้ออาทร

นายภูมิ สาระผล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรีวานนี้ (5 ส.ค.) รับทราบโครงการรณรงค์เพื่อประกันภัยรถภาคบังคับ และประกันภัยเอื้ออาทรโดยผู้นำท้องถิ่น ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการดังนี้

1. ประสานกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีส่วนร่วมสนับสนุนส่งเสริมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่รณรงค์รถทุกคันทำประกันภัยภาคบังคับและแนะนำประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรแก่ประชาชน โดยสามารถรับค่าตอบแทนจากบริษัทประกันภัย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการได้

2. ประสานกับกระทรวงการคลัง และมหาดไทย ออกระเบียบจ่ายเงินรางวัลจากส่วนแบ่งเงินค่าปรับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการทำหน้าที่แจ้งความนำจับเจ้าของรถที่ไม่ทำประกันภัย และผู้ทำผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 เพื่อจูงใจให้ดำเนิน การจริงจัง และเพื่อประโยชน์บังคับใช้กฎหมาย

โครงการรณรงค์ให้ประชาชนทำประกันภัยเอื้ออาทร ประกับภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับผู้มีรายได้น้อย และประกันภัยโดยสมัครใจ จะเป็นอีกทางเลือกของประชาชน สร้างหลักประกันชีวิตดีขึ้น สรุปสาระสำคัญ

1. ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร ประกันภัย ตามความสมัครใจ 2. ประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร ประกันภัยที่บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กรณีผู้เอาประกันประสบอุบัติเหตุ จนเสียชีวิต หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรเท่านั้น 3. เบี้ยประกันภัยประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทร 365 บาทต่อปี

และ 4. ความคุ้มครองประกอบด้วย 4.1 ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรภายใน 365 วัน นับแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุจะได้รับชดใช้ค่าสินไหม ทดแทน เป็นเงิน 300,000 บาท

4.2 กรณีผู้เอาประกันภัยและคู่สมรสถูกต้องตามกฎหมายเสียชีวิต หรือตกเป็นบุคคลทุพพลภาพถาวรพร้อมกันในอุบัติเหตุเดียวกัน จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเป็นพิเศษอีกกรมธรรม์ประกันภัยฉบับละ 100,000 บาท รวม 400,000 บาทต่อกรมธรรม์

4.3 ทุพพลภาพถาวร หมายถึงทุพพลภาพ ถึงขนาดไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ ได้ตลอดไป หรือมือทั้ง 2 ข้างถูกตัดตั้งแต่ข้อมือ หรือขาทั้ง 2 ข้างถูกตัดตั้งแต่ข้อเท้า หรือสูญเสียสมรรถภาพการใช้งานของมือหรือเท้าทั้ง 2 ข้างตลอดไป หรือตาบอดสนิททั้ง 2 ข้างไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไป

ผู้เอาประกันภัยต้องมีอายุระหว่าง 15-70 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อประกันภัยอุบัติเหตุเอื้ออาทรได้เพียงคนละ 1 ฉบับ กรณีที่ซื้อมากกว่า 1 ฉบับ จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ แต่จะได้รับเบี้ยประกันคืนสำหรับสัญญาฉบับอื่นที่ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว สัญญาประกันภัยระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีนับจาก วันทำสัญญา

ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย ต่างไม่มีสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยนี้ บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ผู้รับประโยชน์กรณีเสียชีวิต และจ่ายให้ผู้เอาประกันภัยกรณีทุพพลภาพถาวร ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ได้รับหลักฐานครบถ้วนและถูกต้องแล้ว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.