AIA-กรุงเทพฯ ขอลงทุนตปท.


ผู้จัดการรายวัน(1 สิงหาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

กรุงเทพประกันชีวิตยื่นกรมการประกันภัย ขนเงินลงทุนนอกประเทศ ลดภาระอุ้มพอร์ตลงทุนที่รายได้การลงทุนไม่คุ้มจ่ายดอกเบี้ย การันตีกรมธรรม์ขณะนี้ อธิบดีกรมการประกันภัยยอมรับเงินล้น ผลตอบแทนต่ำ ต้องหาช่องระบายไปต่างประเทศ ด้าน "ประกันเอื้ออาทร" ต้องเลื่อนจากตารางเดิม 1 ก.ย. เป็นกลางเดือน เพราะทักษิณติดภารกิจต้อนรับผู้นำอินโดนีเซียเดินทางเยือนไทยช่วงนั้น

นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยวานนี้ (31 ก.ค.) ว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุญาตสถาบันการเงินสามารถลงทุนต่างประเทศได้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท) บริษัทประกันชีวิต 2 บริษัทสนใจลงทุน คือบริษัทอเมริกันอินเตอร์ แนชชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด และบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด ทั้ง 2 บริษัทยื่นเรื่องขอนำเงินลงทุน ต่างประเทศต่อกรมการประกันภัย เพื่อพิจารณามูลค่าเงินลงทุนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากต้องนำเงินออกต่างประเทศ ต้องขออนุญาต ธปท.ด้วย

"ตอนนี้ ยังไม่มีบริษัทประกันรายใดที่นำเงินไปลงทุนที่ต่างประเทศ เพียงแต่ส่งเรื่องเข้ามา ที่กรมฯ เพื่ออนุมัติหลักเกณฑ์ เช่น จะนำเงินไปลงทุนเมื่อไร เมื่อนำไปลงทุนแล้ว ก็ต้องแจ้งกลับมาให้ทางกรมฯ รับทราบภายใน 30 วัน ที่ผ่านมา ธุรกิจประกันภัยไม่ได้รับอนุญาตให้นำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากทางรัฐเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นมากนัก จึงให้ลงทุนได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น ปัจจุบันมีบริษัทประกันชีวิตขอเข้ามาเพียง 2 ราย ขณะที่ประกันวินาศภัยยังไม่มีการขอ" เธอกล่าว

สำหรับการอนุญาตให้บริษัทประกันชีวิตนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้ กรมฯจะพิจารณา หลักเกณฑ์ โดยดูจากส่วนเกินเงินกองทุนบริษัทประกัน ซึ่งจะเป็นไปตามเกณฑ์ที่กรมการประกันภัยกำหนด เพราะกรมฯ มีหน้าที่คุ้มครองผู้เอาประกันภัย แต่ส่วนเกินเงินกองทุน ถ้ามีมากและไม่ได้ใช้อะไรก็สามารถใช้สิทธิ์ที่จะลงทุนได้

"ธปท.เพิ่งอนุมัติสถาบันการเงินสามารถลงทุนต่างประเทศได้ เมื่อประมาณวันพฤหัสฯที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ คิดว่าทางรัฐยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ แต่ขณะนี้ สภาพคล่องในประเทศไทยมันล้นมาก และไม่รู้ว่าจะเอาเงินในส่วนนี้ไปทำอะไร ดังนั้นจึงเปิดช่องให้สามารถลงทุนในต่างประเทศได้ ตรงนี้ คือนโยบายภาพรวมของประเทศ ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ออกมา ก็ต้องทำให้สอดคล้องตามความ จำเป็นของประเทศด้วย" นางสาวพจนีย์กล่าว

ทางด้านนายสุทธิ รจิตรังสรรค์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารบริษัท บริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนล อินชัวรันส์ เปิดเผยว่าแม้กรมการประกันภัยจะอนุมัติวงเงินที่ขอไปแล้ว แต่บริษัทก็ต้องทำเรื่องส่ง ธปท.ด้วย การจะนำเงินออกนอกประเทศ ธปท.จะดูว่ายอดเงินเท่าไร ส่วนเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดให้บริษัท ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าอนุมัติเท่าไร

"การอนุมัติวงเงินลงทุนออกมานั้นไม่ได้หมายความว่า บริษัทลงทุนได้ในวัน หรือ 2 วันนี้ทันที แต่เราจะต้องไปดูว่าลงทุนในอะไร ที่ไหน บ้าง ตามกรอบที่ทางรัฐกำหนดไว้ให้" นายสุทธิกล่าวว่า หลักเกณฑ์เลือกลงทุนต่างประเทศ สิ่งที่บริษัทพิจารณาอันดับแรก คือความมั่นคง โดยต้องเป็นพันธบัตรรัฐที่มั่นคงสูงผลตอบแทน ระยะยาวดีกว่าการลงทุนในประเทศ อีกทั้งขณะนี้พันธบัตรในไทยมีไม่น้อยที่ไม่ค่อยเพียงพอกับความต้องการ เชื่อว่าการเปิดช่องให้ลงทุน ต่างประเทศจะเป็นหนทางที่ดี เพิ่มผลตอบแทนการลงทุน

หลักเกณฑ์หนึ่งที่กรมฯจะพิจารณาให้สามารถนำลงทุนต่างประเทศ ดูจากเงินส่วนเกิน กว่ากองทุน ซึ่งส่วนเอไอเอ เงินส่วนเกินกองทุน ถึงประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตาม การพิจารณาวงเงินลงทุนต่างประเทศ บริษัทไม่สามารถบอกได้ว่าเท่าไร

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เปิดเผยว่าขั้นตอนประกันภัยเอื้ออาทร จะเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันอังคารหน้า เพื่อรองรับหลักเกณฑ์การปฏิบัติ เนื่องจากโครงการดังกล่าว มีความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เช่น กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น คาดว่าเรื่องจะออกทัน ก.ย.นี้แน่นอน

เลื่อนขายประกันเอื้ออาทรเป็นกลาง ก.ย.

ก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถขายประกันภัยเอื้ออาทรได้ 1 ก.ย. อาจต้องเลื่อนเป็น ช่องกลาง ก.ย. นายวัฒนาอ้างว่า เนื่องจากอยากให้นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานพิธีเปิดงาน เพราะเป็นต้นคิดเรื่องดังกล่าว

แต่เนื่องจากช่วงต้นเดือนดังกล่าวไม่ว่าง ต้องต้อนรับนางเมกาวาตี ซูกาโน บุตรี ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่เดินทางเยือนไทยระยะเวลาใกล้ๆ ออกสินค้า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องเลื่อนขายสินค้าดังกล่าว

นายวัฒนากล่าวว่า ประกันเอื้ออาทรจะเป็นปัจจัยหนึ่ง เพิ่มจำนวนผู้ถือกรมธรรม์เป็นไปตามเป้าหมาย 5 ปีข้างหน้า คือผู้ถือกรมธรรม์ 30% ของคนไทยทั้งหมด เมื่อประกันเอื้ออาทรเป็นตัวนำร่องให้ประชาชนเข้าใจเรื่องการประกันชีวิตมากขึ้น จะนำไปสู่การซื้อกรมธรรม์ประเภทอื่นมากขึ้น ทำให้ระยะยาวธุรกิจเติบโตได้แข็งแรง

เพิ่มอายุคนทำประกันตามบัตร ปชช.

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับเงื่อนไขส่วนอายุผู้เอาประกันชีวิต จาก 12-70 ปี เป็น 15-70 ปีเนื่องจากมองว่า วัยต่ำกว่า 15 ปี ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากต่อการทำประกัน อย่างไรก็ตาม แม้ปรับอายุขึ้นใหม่ ยังมั่นใจว่าทำได้ตามเป้า คือจะมีผู้ถือกรมธรรม์เอื้ออาทร 10 ล้านคน ไม่กระทบฐานแน่ เพราะสถิติประชาชนไทยช่วง อายุ 15-70 ปี มีถึง 46 ล้านคน ขณะที่อายุ 12 ปี จะเพิ่มฐานอีกแค่ 3 ล้านคน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.