คาราบาวแดงดีลร่วมทุนจีนทุ่มพันล้านตั้งโรงงานผลิต


ผู้จัดการรายวัน(1 สิงหาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

คาราบาวแดงโกอินเตอร์ เปิดตัวมาถึงปีส่งออกอาเซียนตะวันออกกลาง 10 ประเทศ คุย 50 ประเทศติดต่อขอไปจำหน่าย ผู้ประกอบการเบียร์และน้ำแร่ติดท็อป 5 ในจีนรุมจีบ เผยกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตคาราบาวแดงกระป๋องในจีนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทปลายปีนี้ ด้วยเงื่อนไขขอดูแลการผลิตและวางกลยุทธ์ตลาด ชี้โอกาสตลาดจีนโตสูงมี 2 แบรนด์หลักทำตลาด คือ เรดบูล และลิโพ

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง คาราบาวแดง เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวคาราบาวแดงสู่ตลาดไทยเมื่อเดือน ต.ค. 2545 พบว่าได้รับความนิยมจากผู้บริโภคสูงมาก โดยมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ ติดต่อเพื่อนำคาราบาวแดงไปจำหน่ายในต่างประเทศ เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่มีรสชาติดีมีต้นกำหนดมาจากประเทศไทย

ปัจจุบันคาราบาวแดงได้เริ่มส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียนและตะวันออกกลางกว่า 10 ประเทศแล้ว โดยเป็นลักษณะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเป็นการทำตลาดของ บริษัทเอง ไม่เกี่ยวกับบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) ที่รับผิดชอบการจำหน่ายในไทย ในจำนวนประเทศที่มาติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่าย คาราบาวแดง มี 2-3 ประเทศ ต้องการให้บริษัทเข้าไปร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการจากจีนเข้ามาเจรจาให้บริษัทเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานในจีน ซึ่งบริษัทสนใจมาก และขณะนี้เหลือการเจรจาอีกเพียง 2 บริษัทเท่านั้น คือ รัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ผลิตเบียร์ อีกรายเป็นผู้ผลิตน้ำแร่ ซึ่งทั้ง 2 องค์กรมีขนาดใหญ่ติดอันดับท็อป 5 ของประเทศ คาดว่าการเจรจาเพื่อหาผู้ร่วมทุนในจีนจะสรุปผลได้ในเร็วๆ นี้

สำหรับรูปแบบการลงทุนจะเป็นการถือหุ้นร่วมทุนในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ สัดส่วนเปอร์เซ็นต์การถือหุ้นจะพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง โดยเครื่องดื่มชูกำลังที่จะเข้าไปทำตลาดจีนในครั้งนี้จะต้องใช้แบรนด์ "คาราบาวแดง"

ส่วนรูปแบบการดำเนินงาน บริษัทต้องการดูแลการผลิตสินค้า เพราะเชี่ยวชาญด้านนี้ รวมทั้งต้องการมีส่วนร่วมวางกลยุทธ์การตลาดด้วย เพราะมีประสบการณ์จากตลาดไทยมาแล้ว โดยต้องการให้ผู้ร่วมทุนจีนเป็นผู้รับผิดชอบด้านช่องทางจำหน่าย และกระจายสินค้า เนื่องจากเข้าใจสภาพตลาดและพฤติกรรมของคนท้องถิ่นได้ดีกว่า

นายเสถียร กล่าวต่อว่า แผนการเข้าไปลงทุนในประเทศจีน บริษัทจะเข้าไปตั้งโรงงานผลิตใหม่ คาดว่าต้องใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิตวันละ 2-3 ล้านกระป๋อง ซึ่งการผลิตบรรจุกระป๋อง เพราะวางตำแหน่งให้เป็นเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มวัยรุ่น

สำหรับเงินลงทุนของฝ่ายไทยส่วนหนึ่ง จะกู้จากธนาคารและอีกส่วนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทในไทย ที่ขณะนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปร่วมทุนกับฝ่ายจีน หากการเจรจาร่วมทุนสำเร็จ บริษัทวางแผนจะก่อสร้างโรงงานช่วงปลายปีนี้ และใช้เวลาก่อสร้าง 6 เดือน

ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในจีนยังมีขนาดเล็ก ยอดขายต่อปีประมาณ 20,000 ล้านบาท มีสินค้าระดับอินเตอร์แบรนด์ทำตลาดอยู่ 2 ราย คือ เรดบูล (กระทิงแดง) และลิโพ ในตลาดจีนผู้บริโภคจะมองเครื่องดื่มชูกำลังเป็นซอฟต์ดริ้งค์ เหมือนเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม จึงไม่ถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มไม่มีประโยชน์เหมือนประเทศไทย ทำให้กฎระเบียบที่จะมาควบคุมไม่ยุ่งยากเหมือนไทย และเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรที่มีจำนวนมหาศาลแล้วประเทศจีนถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ และน่าเข้าไปลงทุนอย่างยิ่ง

นอกจากนี้บริษัทได้นำสินค้าไปให้ผู้บริโภคจีนทดลองดื่มแล้ว ซึ่งได้รับการยอมรับด้านรสชาติสินค้าเป็นที่น่าพอใจ ในประเทศจีนจะจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังราคากระป๋องละ 8 หยวน หรือประมาณ 40 บาท ขนาดบรรจุ 250 ซีซี.

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้จำกัดการลงทุนไว้เฉพาะประเทศจีนเท่านั้น โดยมองว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย มีความน่าสนใจเข้าไปลงทุนอย่างยิ่ง เพราะการผลิตสินค้ามีลักษณะคล้ายกับประเทศไทย คือไม่ผสมคาร์บอเนต เหมือนเครื่องดื่มชูกำลังในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้ขั้นตอนการผลิตสินค้าในภูมิภาคนี้ไม่ต้องปรับเปลี่ยนสูตรมากนัก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.