ทศทโชว์ผลงาน6เดือน กำไรกว่า 7 พันล้าน


ผู้จัดการรายวัน(1 สิงหาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ทศท โชว์ผลงาน 6 เดือนแรก รายได้กว่า 3 หมื่นล้านบาท ฟันกำไรกว่า 7 พันล้านบาท โดยรายได้ 1 ใน 3 มา จากสัญญาร่วมการงานหรือประมาณ 8,500 ล้านบาท หลังครบรอบแปรสภาพ 1 ปี เตรียมใช้โครงสร้างธุรกิจใหม่วันนี้(1ส.ค.) "สิทธิชัย" เอ็มดีใหญ่มั่นใจ โครงสร้างธุรกิจใหม่จะสร้างศักยภาพการแข่งขันให้ทัดเทียมเอกชน หลังกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะที่ทดลอง ใช้ก่อนหน้านี้สร้างผลตอบแทนน่าพอใจ

นายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2546 (ม.ค.-มิ.ย.) ว่า ทศท มีรายได้ประมาณ 3.05 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากโครงข่ายของทศท ประมาณ 16,700 ล้านบาท จากสัญญาร่วมการงาน ประมาณ 8,500 ล้านบาทและจากค่าเชื่อมโยงโครงข่ายประมาณ 4,700 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิทั้งสิ้น 7,578.6 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิที่หักภาษี สรรพสามิตแล้วจำนวน 4,339.3 ล้านบาท

ในวันนี้(1 ส.ค.) ทศท จะเริ่มใช้โครงสร้างธุรกิจใหม่ที่แบ่งเป็น 8 กลุ่มธุรกิจคือ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่,กลุ่มธุรกิจสื่อสารไร้สาย,กลุ่มธุรกิจสื่อสารข้อมูล,กลุ่มธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคม, กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะ,กลุ่มธุรกิจบริษัทในเครือ,กลุ่มธุรกิจบริการลูกค้า และกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศ

"จุดเด่นของโครงสร้างใหม่คือ แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีคนรับผิดชอบหรือมีเจ้าภาพโดยตรง"

ทศท เริ่มให้กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะ นำร่องไปก่อนตั้งแต่ 1 มิ.ย. ซึ่งได้ผลดีโดยตรง โดยเฉพาะในเรื่องการติดตั้งผลประกอบการและการสั่งงานจากกรรมการผู้จัดการใหญ่มาถึงรองกรรมการผู้ จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะ

เขากล่าวว่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จะมีฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ ฝ่ายการตลาดรับผิดชอบโดยเฉพาะ จากเดิมที่การตลาดจะรวมอยู่กับงานด้านประชาสัมพันธ์ ซึ่งบทบาทไม่เด่นชัด แต่ตอนนี้แต่ละกลุ่มธุรกิจก็จะมีฝ่ายการตลาดของตัวเอง

"เรามีกลุ่มธุรกิจที่ดูแลลูกค้าโดยตรง ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องรู้ความต้องการลูกค้าแต่ละกลุ่ม และจะต้อง ทำงานร่วมกับแต่ละกลุ่มที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์"

ทศท ครบรอบ 1 ปีในการแปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน ในวันที่ 31 ก.ค.2546 ที่ผ่านมา ซึ่งโครงสร้างธุรกิจใหม่ควรจะเริ่มต้นตั้งแต่วันแรกที่แปรสภาพหรือเมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่การปรับตัวทำได้ยากและมีความซับซ้อน ภายใต้เป้าหมายความคล่องตัวในการทำธุรกิจเพื่อแข่งขันกับเอกชน

"เหมือนมีบ้านเก่าอยู่และต้องย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่สะดวกสบายกว่า ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลบ้านเก่า และจัดบ้านใหม่ให้เหมาะกับภารกิจ มันยุ่งยากซับซ้อนกว่าการซื้อบ้านใหม่เลย หรือการจดทะเบียนบริษัทใหม่"

ภายใต้โครงสร้างใหม่ ทศท จะมีระเบียบพัสดุ และโครงสร้างเงินเดือนค่าตอบแทนสวัสดิการเป็นของตัวเอง ภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง e-Auction, e-Marketplace ซึ่งต่อไปจะมีการขึ้นทะเบียนคู่ค้า มีระเบียบด้านบุคคล ด้านการเงิน การบริหารทั่วไป เพื่อให้เกิด ความคล่องตัวในการบริหารและการแข่งขันกับเอกชน

"ตั้งแต่ 1 ส.ค.เราจะย้ายไปอยู่นาวาลำใหม่ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า สามารถทำให้เราวิ่งแข่งกับนาวา เอกชนลำอื่นได้"

ผลงานรอบ 1 ปี

นายสิทธิชัย กล่าวถึงผลงานที่ทศท สนองตอบนโยบายของน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ว่า มีโครงการที่สำคัญๆ ประกอบด้วย 1.การติดตั้งและบริการโทรศัพท์เร่งด่วนกับโรงเรียนกรมสามัญศึกษา ระดับมัธยมจำนวน 455 แห่งภายใน 6 เดือน 2.การจัดตั้งศูนย์กลางข้อมูลแห่งชาติ 3.โครงการอินเทอร์เน็ตชั่วโมงละ 1 บาท รวมทั้งโครงการคลีนเน็ต ซึ่งทศทได้เปิดให้ไอเอสพีเข้ามาใช้โครงข่ายด้วยต้น ทุนที่ถูกลง

4.โครงการร้านอินเทอร์เน็ตต้นแบบหรือ TNET ในลักษณะที่เป็น Learning Center ผสมผสานระหว่างห้องสมุด พิพิธภัณฑ์และสถานพักผ่อน ซึ่งทศท จะเปิดร้าน TNET แห่งแรกวันที่ 6 ก.ย.ที่ห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา 5.ลดค่าโทรศัพท์ทางไกลในประเทศ หลังจากโครงสร้างเดิมถูกใช้งานมานานกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นความร่วมมือกับทีเอและทีทีแอนด์ที ในการทดลองใช้อัตราใหม่ 3 เดือนตั้งแต่ 1 ก.ย.-30 พ.ย.โดยในช่วงนี้ จะไม่มีการพูดถึงส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญา

"ถ้าในช่วงทดลอง 3 เดือนไม่มีผลกระทบกับรายได้ ทุกบริษัทก็สามารถดำเนินการต่อเนื่อง ได้ หรืออาจปรับใหม่เพื่อความเหมาะสม แต่ค่าโทร.ทางไกลต้องถูกลงกว่าเดิม"

สำหรับผลงานของทศท ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.โครงการอินเทอร์เน็ตตำบลร่วมกับ กรมการปกครองแล้วเสร็จ 6,746 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุน 1 ผลิตภัณฑ์ 1 ตำบลด้วย

2.บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโรงเรียนทั่วประเทศ นอกเหนือจากที่ 455 โรงเรียนเร่งด่วนของรมว.ไอซีทีแล้ว ทศท จะเร่งดำเนินการอีก 7,500 แห่ง ให้เสร็จภายในปีนี้

3.โครงการโทรศัพท์สาธารณะทางไกลชนบท ได้เปิดบริการตามเป้าหมายแล้ว 45,000 แห่งและเพิ่ม เติมอีก 2,017 แห่ง รวมทั้งจะทยอยติดตั้งให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านที่เกิดใหม่ภายในปี 2546 จากจำนวนหมู่บ้านเกิดใหม่เฉลี่ยวันละ 2.7 หมู่บ้าน

4.โครงการระบบสื่อสัญญาณความเร็วสูงหรือ SDH ในกรุงเทพฯจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนในภูมิภาคจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี ซึ่งบางส่วนได้ทยอยเปิดใช้งานแล้ว

5.บริการบนโครงข่ายอัจฉริยะ (Intelligent Network) ซึ่งเปิดให้บริการไปแล้ว 6 บริการ เช่น Freephone 1-800 ,One Number, TOT Postpaid,Private Net,Follow Me,Vote Now และบริการล่าสุด Caller ID

6.การติดตั้งโทรศัพท์ประจำที่เป้าหมาย 258,600 เลขหมาย ติดตั้งแล้วเสร็จในช่วง 6 เดือน 109,112 เลขหมาย

7.โทรศัพท์สาธารณะเป้าหมาย 19,100 เลข หมาย 6 เดือนติดไปแล้ว 17,185 เลขหมาย

"โทรศัพท์สาธารณะติดตั้งไปแล้ว 89.97% สูงกว่าเป้าหมาย และยังมีรายได้ต่อเลขหมายเพิ่ม ขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลดีของโครงสร้างใหม่ หลังจากให้กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์สาธารณะนำร่องก่อนตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา"

8.บริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอลหรือไอเอส ดีเอ็นติดตั้งพลาดเป้าหมายไปมาก แต่ 9.บริการคู่สายเช่า/วงจรเช่า ติดตั้งได้ดีกว่าเป้าหมาย จากเป้าหมาย 3,724 วงจร ในช่วง 6 เดือนติดตั้งไปแล้ว 4,428 วงจร สูงกว่าเป้าหมาย 704 วงจรและ10.โครงข่ายไอพีเน็ตเวิร์ก

สำหรับโครงการในอนาคต อย่างโทรศัพท์ 565,500 เลขหมาย งบประมาณ 8 พันกว่าล้านบาท หลังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ ได้พิจารณาอนุมัติแล้ว คงเข้าที่ประชุมครม.ในเดือนส.ค.นี้ ซึ่งทศท จะดำเนินการจัดซื้อจัดหาต่อไปให้แล้วเสร็จภายใน 15 เดือน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.