|
"โฟโต้ฮัท"ทำใจปรับรายโต 15% ทะลวงไตรมาสสี่ปล่อยอีเว้นท์กระจุย
ผู้จัดการรายวัน(20 ตุลาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
"โฟโต้ฮัท" ทำใจสู้พิศเศรษฐกิจและการเมืองไม่ไหว ปรับเป้ารายได้ปีนี้เหลือเพียง 15% จากเดิมที่วาดฝันไว้ถึง 20% หวั่นใจโค้งสุดท้ายของปีประเมินสถานการณ์ได้ยาก แต่พร้อมสู้สุดใจ ลุยอีเว้นท์ถี่หวังดันรายได้สู่เป้า
นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โฟโต้ ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการตัวแทนจำหน่ายกล้องและล้างอัดรูป ภายใต้ชื่อ "โฟ้โต้ ฮัท" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า เดิมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในปีนี้ ได้วางเป้าหมายการเติบโตจากปีก่อนถึง 20% แต่ขณะนี้บริษัทฯได้มีการปรับยอดขายยรายได้ให้มีการเติบโตเพียง 15% เท่านั้น ภายใต้งบการตลาดกว่า 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา สถานการณ์ต่างๆในประเทศยังไม่เลวร้ายมากนัก ภาพรวมรายได้ไตรมาสหนึ่งจึงยังมีการเติบได้ถึง 20% แต่พอมาถึงช่วงไตรมาสสองและสาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองและราคาน้ำมัน เริ่มส่งผลกระทบรุนแรง ทำให้รายได้ตำกว่าเป้าเล็กน้อย ถึงแม้ยอดขายในแง่แวลู ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา จะเติบโตถึง 10% ก็ตาม
อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสสี่นี้ ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆจะเลวร้ายไปกว่านี้หรือไม่ ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสี่นี้ จึงต้องมีการปรับจากเดิมที่เป็นแต่ละไตรมาสมาสู่รูปแบบเดือนต่อเดือน โดยในช่วง 3 เดือนที่เหลือนี้ บริษัทฯจะมุ่งทำการตลาดในรูปแบบของการจัดอีเว้นท์และเชิงโปรโมชั่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น งานคอมเวิล์ด, คอมมาร์ท, โฟโต้แฟร์ และโฟโต้ฮัท เอ็กซ์โปร
นายสมชายกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางด้านการลงทุน บริษัทฯจะยังคงเดินหน้าต่อไป ตามแผนระยะยาว 3 ปี ที่จะเน้นการขยายสาขา โดยปีนี้ตามแผนจะเปิดให้ได้อย่างน้อย 15 สาขา ทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซ็ลทรัล ซึ่งปีนี้เปิดแล้ว 3 สาขา คือ ชลบุรี พัทยา และขอนแก่น รวมถึงในห้างเทสโก้โลตัส ซึ่งการลงทุนแต่ละสาขาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-5 ล้านบาท
ปัจจุบันจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น ยังพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป มีการชะลอการใช้เงินมากยิ่งขึ้น หรือจะเลือกซ้อสินค้าที่คุ้มคุ้มราคามากขึ้น โดยในส่วนของกล้อง ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย พบว่า ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง ขณะเดียวกันราคากล้องในปัจจุบันก็มีการปรับราคาลงด้วย ดังนั้นถึงแม้ในแง่จำนวนอาจจะจำหน่ายได้มากขึ้น แต่ในแง่มูลค่ากลับไม่ค่อยเติบโต จึงทำให้ภาพรวมรายได้ปีนี้ มองว่าน่าจะเติบโตจาดกปีก่อนได้ประมาณ 15% ก็ถือว่าดีแล้ว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|