บอร์ดบางจากฯไฟเขียวโอนทุนสำรองต่างๆ และลดมูลค่าหุ้นที่ ตราไว้จาก 10 บาทเหลือหุ้นละ
1 บาท ล้างขาดทุนสะสมของบริษัทกว่า 7,250 ล้าน บาท ก่อนเพิ่มทุนจดทะเบียนด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่
1,160 ล้านบาท และเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่ารวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาทตามแผนการปรับโครงสร้างทางการเงิน
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้ช่วย ผู้อำนวยการสำนักแผนกิจการ บริษัท บางจากปิโตรเลียม
จำกัด (มหาชน) เปิด เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม มีมติให้ลดทุนจดทะเบียน
ของบริษัทฯ จาก 7,720,409,400 เป็น 5,220.41 ล้านบาท โดยวิธีการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน
250 ล้านหุ้น คง เหลือหุ้นจำนวน 522.04 ล้านหุ้น ด้วยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จากเดิมหุ้นละ
10 บาทเป็นหุ้นละ 1 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทจำนวน 4,698.37 ล้านบาท
ที่ประชุมฯเห็นชอบให้โอนทุน สำรองต่างๆ เพื่อมาหักชดเชยผลขาด ทุนสะสมของบริษัท
แบ่งเป็น ทุนสำรอง ตามกฎหมาย 547.59 ล้านบาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้น 2,007.95 ล้านบาท
หลังจากการลดทุน และโอนสำรองไปล้างขาดทุนสะสมแล้ว บริษัทจะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก
522.04 ล้านบาท เป็น 1,682.04 ล้านบาท ด้วย การออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,160 ล้านหุ้น
พาร์หุ้นละ 1 บาท
รวมทั้งบริษัทฯจะออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่ารวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
หรือในสกุลเงินอื่นในจำนวนที่เทียบเท่า อายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่ง หุ้นกู้สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัทได้
ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดโดยจัดสรร รวมทั้งและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท
(วอร์แรนต์) จำนวนไม่เกิน 260 ล้านหน่วย อายุไม่เกิน 10 ปี นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเห็นชอบให้
ออก และเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 7,000 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในจำนวนที่เทียบเท่า
อายุไม่เกิน 10 ปี ด้วย
นายเกียรติชาย กล่าวถึงการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนว่า บริษัทฯจะแบ่งการ จัดสรรเป็นจำนวนไม่เกิน
300 ล้านหุ้นเสนอขายให้แก่กองทุนรวม ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในบริษัท บางจากฯ
โดยกระทรวงการคลังจะรับประกันเงินต้น หรือทำการอื่นที่เป็นการประกันต้นเงินของหน่วยลงทุนที่ออกโดยกองทุน,
หุ้น สามัญจำนวนไม่เกิน 600 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของหุ้นกู้แปลงสภาพ
ที่บริษัทจะออกและเสนอ ขาย และจำนวนไม่เกิน 260 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท
(วอร์แรนต์) ที่บริษัทจะออกและเสนอขาย
โดยกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาเรื่องทั้งหมดในวันที่ 29 สิงหาคมนี้
และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุม ในวันที่
14 สิงหาคม 2546
Q2 ขาดทุน 920 ล้าน
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2546 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,971 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิรวม
920 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1,260 ล้านบาท โดยไตรมาสสองปี 2545 มีผลกำไรสุทธิ
341 ล้านบาท
ซึ่งผลขาดทุนดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากมีความชัดเจนของเหตุการณ์สงคราม
ในอิรัก ซึ่งส่งผลให้รายได้จากการขายน้ำมันลดลงตาม ในขณะที่ต้นทุนน้ำมันดิบยังเป็นราคาน้ำมันดิบที่ซื้อในช่วงไตรมาสหนึ่ง
ซึ่งมีราคาสูง ดังนั้น จึงส่งผลกระทบต่อบริษัทในช่วงไตรมาสสองประมาณ 800 ล้านบาท