ทศท.เพิ่มทุน1.5หมื่นล.ขึ้นIRCPหวังฟื้นเชื่อมั่นMAI


ผู้จัดการรายวัน(31 กรกฎาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัท ทศท คอปอร์เรชั่นจะสรุปผลเสนอขายหุ้น IPO 30% ภายใน 1-2 เดือนนี้ คาดเพิ่มทุนอีกประมาณ 2 เท่า เป็นมากกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จะเริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 4 ซึ่งไม่จำเป็นต้องรอผลแปรสัมปทาน และค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเสร็จสิ้น ขณะที่ กสท.เตรียมเข้าตลาดฯไตรมาสแรกปีหน้า ขณะที่ "ก้องเกียรติ" คิดใหม่ทำใหม่ตลาดหุ้นไทย คาดธุรกิจดาวรุ่งต่อจากนี้ จะเป็นคิวกลุ่มไอที-บันเทิง ด้านการบินไทยเตรียมออกบอนด์ 4 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี หาเงินซื้อเครื่องโละจากยูไนเต็ด หรือซื้อใหม่

ขณะที่ บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น (IRCP) ผู้ประมูลโครงการไอทีระบบราชการ-ตัวแทนขายซอฟต์แวร์ไมโครซอฟท์ จากแดนมะกันในไทย หวังเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อตลาดหุ้นใหม่ (MAI) กลับคืน หลังกรณีอื้อฉาว บมจ.รอยเนท ยันไม่มีการเทหุ้นทิ้งแน่นอน เพราะดำเนินธุรกิจที่มีผลกำไรมากว่า 17 ปีแล้ว พร้อมนโยบายจ่ายปันผล ปีละไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร กล่าววานนี้ (30 ก.ค.) ว่าแนวทางกระจาย หุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ทศท.ใกล้จะเรียบร้อย

ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการของที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งเพียงแค่ให้มีการแนวทางแปรสัมปทานบ้าง ก็สามารถกระจายหุ้นได้แล้ว ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเวลาเหมาะสมจะกระจายหุ้นขายประชาชนทั่วไป เพราะตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น นักลงทุนสนใจลงทุนธุรกิจเทคโน โลยีและสื่อสารมากขึ้น

หุ้นไอพีโอ 30%

หลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้สัดส่วนถือกระทรวงการคลังลดจากปัจจุบัน 100% เหลือ 70% ที่เหลือ 30% จะเป็นส่วนของประชาชนทั่วไป

ส่วนทุนจดทะเบียน ทศท.ขณะนี้อยู่ระหว่าง สรุปให้ชัดเจนว่าจะอยู่ที่เท่าใด ซึ่งคาดว่าน่าจะสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 6 พันล้านบาท

วัตถุประสงค์การเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท ทศท คอร์เปอร์เรชั่น จะไม่ใช่ระดมทุนเพื่อ ใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานของบริษัท และต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริหาร เพื่อ ความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล

กสท.กระจายหุ้นไตรมาสแรกปี 47

สำหรับบริษัท กสท.โทรคมนาคมเขากล่าวว่าอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถ เสนอขายหุ้นและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณช่วงไตรมาส1/2547

ไอที-บันเทิงดาวรุ่ง

ทางด้านนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธาน-ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ บล.แอสเซท พลัส กล่าวว่าขณะนี้ นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สนใจหุ้นธุรกิจใหม่ที่เติบโตตาม เศรษฐกิจไทย จากเดิมที่เคยสนแต่กลุ่มอุตสากรรมขนาดใหญ่ เช่น วัสดุก่อสร้าง ซึ่งธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้น เช่น ธุรกิจไอที บันเทิง จะเป็นกลุ่มที่ธุรกิจที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกับผู้ถือหุ้น ซึ่งอนาคตเชื่อว่าจะมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ รูปแบบนี้จะจดทะเบียนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรายใหม่น่าจะได้รับการสนับสนุน โดยเฉพาะบริษัทที่มีอัตราเติบโตดี และกำไร เพราะการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะสามารถสร้างมูลค่าให้บริษัทได้

การบินไทยออกบอนด์ 4 หมื่นล้าน 5 ปี

นายกนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)เปิดเผย หลังประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ (30 ก.ค.) ว่าที่ประชุมอนุมัติบริษัท ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาท และหรือสกุลเงินอื่นเทียบเท่า วงเงินรวมไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี

ที่ประชุมกรรมการยังอนุมัติจัดหาเก้าอี้ชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ตามที่คณะอนุกรรมการจัดซื้อเสนอ และเจรจาต่อรองราคาเรียบร้อยแล้ว คือ เก้าอี้ชั้นประหยัด คัดเลือกบริษัท Recaro เก้าอี้ชั้นธุรกิจคัดเลือกบริษัท B/E Aerospace คาดว่าจะเริ่มทยอยปรับเปลี่ยนเสร็จอีกประมาณ 12-15 เดือน ซึ่งงบ ประมาณจะอยู่ในงบเดิม

นายกนกกล่าวว่า การขออนุมัติออกหุ้นกู้ ทยอยออกตามความจำเป็นของบริษัทที่จะใช้เงิน และต้องพิจารณาสภาพตลาดฯด้วย ซึ่งการใช้เงินก็จำเป็นอยู่บ้าง เช่น การซื้อเครื่องบินที่มีนโยบาย ชัดเจนต้องการเพิ่มจุดบันอีก 27 จุด ขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพื่อขอซื้อเครื่องบันเก่าที่สายการบินแห่งนี้กำลังจะโละทิ้ง คาดว่าจะทราบผลสิ้นปีนี้หากไม่สามารถ ตกลงกันได้ คงต้องหาเครื่องบินที่อื่นหรือซื้อเครื่องใหม่

IRCP ฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุนต่อ MAI กลับคืน

นายจำรัส สว่างสมุทร ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทเขา ซึ่งดำเนินธุรกิจประมูล งานติดตั้งระบบไอที(IT systner integrator) ให้หน่วยราชการ และเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟท์แวร์ ไมโครซอฟท์จากแดนมะกัน รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องอื่นๆ มากกว่า 17 ปี ด้วยผลดำเนินงาน กำไรต่อเนื่อง และจ่ายปันผลช่วงที่ผ่านมาเท่าๆ กำไรสุทธิบริษัททุกปีมาตลอด ไม่เคยมีความคิดจะเทขายหุ้นในตลาดใหม่ ซึ่งจะเริ่มซื้อขายวันนี้ (31 ก.ค.) อย่างแน่นอน

"เราดำเนินธุรกิจมาด้วยความซื่อสัตย์ และขยายงานต่อเนื่อง การเข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่ แทนที่จะเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะเราหวังได้ประโยชน์จากการลดภาษีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดใหม่ ที่ให้ บจ.เสียภาษีเพียง 25% เทียบกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ ที่ต้องเสียภาษี 30% ทั้งที่เรามีคุณสมบัติครบ เพราะเราต้อง การ ให้ผู้ถือหุ้นของเรา ได้ประโยชน์เต็มที่จากการเสียภาษีน้อยลงนี้" เขากล่าว

เขากล่าวอีกว่า IRCP หวังเรียกความเชื่อมั่น นักลงทุนต่อตลาดหุ้นใหม่ (MAI) กลับคืน หลังกรณีอื้อฉาว บมจ.รอยเนท ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมใช้ข้อมูลภายในเทขายหุ้นแถมแต่งบัญชี ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่อตลาดใหม่ ที่เพิ่งเกิดเพียง 2 ปี ผู้บริหารไออาร์ซีพียัน ไม่มีการเทหุ้นทิ้งแน่นอน เพราะดำเนินธุรกิจที่มีผลกำไรมากว่า 17 ปีแล้ว

ก่อนหน้านี้ IRCP กระจายหุ้นให้ประชาชน ทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) 13 ล้านหุ้น พาร์ 2 บาท ราคาหุ้นละ 6.50 บาท โดย บล.เคจีไอในเครือกลุ่มคูส์จากไต้หวัน เป็นที่ปรึกษาการเงิน และแกนนำกระจายหุ้น

นายจำรัสกล่าวว่า บริษัทกระจายความเสี่ยงธุรกิจเป็น 7 สายธุรกิจ เพื่อจำหน่าย และให้บริการลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและเอกชน โครงการที่ชนะการประมูลของบริษัท ณ 30 เม.ย. มูลค่ารวม 334.20 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 301.58 ล้านบาท โครงการที่รอเรียกเซ็นสัญญา ประมาณ 15.84 ล้านบาท และมีแผนประมูลโครงการอีกประมาณ 673.20 ล้านบาท

กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งเป็นภาครัฐบาลและรัฐวิสาหกิจกว่า 70% มั่นคงด้านฐานะการเงินสูง ทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยงจากหนี้สูญ ขณะที่ลูกค้าเอกชน บริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ที่มั่นคงทางการเงินสูงจึงมีความเสี่ยงจากหนี้สูญต่ำ ขณะที่คาดว่าธุรกิจไอที ในไทยระหว่างปี 2544-49 เติบโตสูงเฉลี่ยประมาณ 15-20% ต่อปี ด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐบาล

โครงสร้างรายได้บริษัทปี 2545 ประกอบด้วยรายได้จากธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที ทั้งซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงให้ ผู้ประกอบการค้าคอมพิวเตอร์ (IDC) 46% ที่ปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง และบริการคำแนะนำระบบคอมพิวเตอร์ (SI) 35% และอื่นๆ 19% เทียบปี 2544 รายได้จากธุรกิจ IDC 35% SI 43% อื่นๆ 22%

ระหว่างปี 2543-45 บริษัทชนะประมูลโครงการอินเตอร์เน็ตตำบลระยะ 1-2 ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เว็บบิลลิ่ง หรือ การคิดค่าธรรมเนียมจากเว็บระบบสำรองโครงข่ายความเร็วสูง ของการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) การเช่รครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

รายได้รวม IRCP ระหว่างปี 2543-45 อยู่ที่ 284.45 ล้าน 479.37 ล้าน 683.92 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้ รายได้ 110.26 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ ระหว่างปี 2543-45 อยู่ที่ 10.44 ล้าน (กำไรต่อหุ้น 2.49 บาท) 13.26 ล้าน (3.16 บาท) 37.90 ล้านบาท (8.90 บาท) ขณะที่ไตรมาสแรก กำไรสุทธิ 6.83 ล้านบาท

อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ระหว่างปี 2543-45 เป็น 7.57% 8.50% 13.84% ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ระหว่างปี 2543-45 คือ 12.85% 15.94% 35.88% บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างปี 2543-44 ปีละ 10.50 บาท ปี 2545 จ่าย 37.80 บาท ขณะที่ตั้งแต่ปีนี้มี นโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ในแต่ละปี



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.