คลังใช้ดาบอาญาสิทธิ์ สั่งโละบอร์ดแบงก์ทหารไทย 5 คน รวมประธาน-เอ็มดี มีผลวันนี้
ตั้งผบ.ทบ.รักษาการประธานรองเอ็มดีแบงก์ปัจจุบันรักษาการเอ็มดี ก่อนเลือกใหม่ทั้งชุด
หลังดันแผน 2 เพิ่มทุน 6.4 พันล้านหุ้น เบ็ดเสร็จ 2.24 หมื่นล้านบาทภายในก.ย. ขายหุ้นละ
3.50 บาท "อุ๋ย" คาดแบงก์จะเริ่มฟันกำไรได้ปีนี้ เพิ่มทุนส่วนแรกจะใช้ตั้งสำรอง
หนี้ให้ครบตามเกณฑ์ ธปท. ปีนี้ ส่วนที่ 2ไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อย สิทธิควบหุ้นกู้บุริมสิทธิปี
47 ด้านขุนคลังยัน จะทำให้ธนาคารอันดับ 6 ของไทยแห่งนี้ เป็นแบงก์สะอาด (Clean
Bank) เพิ่มค่าตัวได้แน่
นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการธนาคารทหารไทย เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการธนาคาร
วานนี้ (28 ก.ค.) ว่า การประชุมพิจารณาแผนเพิ่มทุนธนาคาร หลังธนาคารประสบปัญหาเงินกองทุนไม่เพียงพอ
ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขีดเส้นการเพิ่มทุนให้เสร็จ ภายในก.ย.นี้
ที่ผ่านมาธนาคารจ้างผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาการเงินรวมทั้งหาพันธมิตรร่วมทุน
ล่าสุดกลุ่มออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง คอร์ป(เอเอ็นแซด) เจรจาขอร่วมทุนแต่ธนาคารปฏิเสธการร่วมทุนดังกล่าว
เพราะตั้งเงื่อนไขที่ฝ่ายไทยรับไม่ได้
กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% ต้องรับเพิ่มทุนดังกล่าว วานนี้(28
ก.ค.) เสนอแผนเพิ่มทุนชัดเจนให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติ
เพิ่มทุน2.24 หมื่นล้าน-6.4 พันล้านหุ้น
โดยธนาคารต้องเพิ่มทุน 22,417 ล้านบาท เป็นจำนวนหุ้นประมาณ 6,400 ล้านหุ้น ซึ่งระดมทุนขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วนเท่าๆ
กัน หรือสัดส่วนมากกว่า ตามความต้องการผู้ถือหุ้นเดิม คาดว่าจะขายราคา 3.50 บาท
ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายหุ้นของธนาคารในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบัน
หลังเพิ่มทุนและตั้งสำรองเพิ่มประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้เงินกองทุนขั้นที่
1 ธนาคาร 8% เมื่อรวมกับขั้นที่ 2 จะอยู่ที่10% จากปัจจุบันที่มีเงินกองทุนขั้นที่
1 อยู่ 7.64% และ เงินกองทุนขั้นที่ 2 ประมาณ 5%
ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยขณะนี้ธนาคารยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามแผนธนาคารหรือไม่
หากผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนคลังจะรับผิดชอบซื้อหุ้นแทนทั้งหมด
คลังโละบอร์ด 5 คน
อย่างไรก็ตาม การที่คลังรับผิดชอบเพิ่มทุนดังกล่าว มีนโยบายชัดเจนปรับปรุงโครงสร้างทั้ง
หมดขององค์กรครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่ระดับโครง สร้างคณะกรรมการธนาคาร เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจ
และแข่งขันกับคู่แข่งในธุรกิจนี้ต่อได้
เริ่มจากปรับโครงสร้างคณะกรรมการธนาคารใหม่ทั้งหมด คาดต้องใช้เวลาดำเนินงานประมาณ
2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้แผนการเพิ่มทุนธนาคารล่าช้า ไม่ทันเวลาที่กำหนดก.ย. บอร์ดแบงก์จึงมีมติคณะกรรมการฯ
5 คน ลาออก ประกอบด้วย พลเอก วิมล วงศ์วานิช ประธานกรรมการ นายทวี บุตรสุนทร
ประธานกรรมการบริหาร นายศิริ การเจริญดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายสมชาติ อินทรทูต
กรรมการ และนายอรรคเดช พีชผล กรรมการและที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้มีผลตั้งแต่วันนี้
(29 ก.ค.) เป็น ต้นไป
นอกจากนี้เพื่อให้การเพิ่มทุนเป็นไปตามแผน นายศิริ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัด
การใหญ่อีกตำแหน่งด้วย
"เหตุผลที่บอร์ดอนุมัติให้กรรมการทั้ง 5 คนลาออกนั้นเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลังที่ส่งสัญญาณมาแล้วว่า
ถ้ากระทรวงการคลังจะต้องเข้าเพิ่มทุนก็ต้องมีการปรับปรุงธนาคาร ตั้งแต่คณะกรรมการเพราะฉะนั้นกรรมการปัจจุบันที่นั่งอยู่ก็ต้องออกทั้งชุด
แต่การลาออกทั้งหมดนั้นจะทำให้การคัดเลือกกรรมการชุดใหม่เสียเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ซึ่งจะทำให้แผนเพิ่มทุนไม่เป็นไปตามที่แบงก์ชาติกำหนด ดังนั้นจึงมีกรรมการ 5 ท่าน
แสดงสปิริตลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ส่วนที่เหลืออีก10 คน เมื่อแผนการเพิ่มทุนประสบความสำเร็จก็จะลาออก
แต่ที่ต้องอยู่ในขณะนี้ก็เพื่อให้ครบองค์ประชุม" นายสมหมาย กล่าว
ตั้งผบ.ทบ.-รองเอ็มดีรักษาการ
คณะกรรมการฯจึงแต่ตั้งให้นายสุภัคร ศิวะรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่แทนนายศิริ
จนกว่าคณะ กรรมการฯจะมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่
ที่ประชุมยังมีมติให้พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการธนาคารรักษาการประธานคณะกรรมการฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้เช่นกัน
นายสมหมาย กล่าวว่า การลาออกของกรรมการทั้ง 5 คนครั้งนี้ ส่งผลจำนวนคณะกรรมการฯ
ธนาคารเหลือเพียง10 คน ซึ่งสอดคล้องข้อกำหนดแบงก์ชาติ ที่กำหนดให้การเพิ่มทุนธนาคาร
ต้องมีคณะกรรมการฯอย่างน้อย 9 คน จึงจะครบองค์ประชุม หลังเพิ่มทุนเสร็จ คณะกรรมการฯที่เหลืออีก10
คน ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน
เพิ่มทุนเบ็ดเสร็จ-หมื่นล้านตั้งสำรอง
"การเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นการเพิ่มทุนที่เบ็ดเสร็จ สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร
ได้ในระยะยาวโดยเป็นการเพิ่มทุนที่ธนาคารไม่ต้องลดทุนจดทะเบียนและเป็นการขายหุ้นแบบไม่มีวอร์แรนต์"
"โดยภายหลังจากการเพิ่มทุน ธนาคารจะนำเงินประมาณกว่า10,000 ล้านบาทมาใช้ในการตั้งสำรอง
ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากการเพิ่มทุนมีสัดส่วนมากกว่า 10%
โดย เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 มากถึง 8% นอกจากนี้ การดำเนินงานดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบต่อลูก
ค้า ทั้งเงินฝากและเงินกู้ของธนาคาร รวมทั้งไม่ต้องมีการควบรวมกิจการของธนาคารตามที่เป็นข่าว"
นายสมหมาย กล่าว
หลังเพิ่มทุน และตั้งสำรองเพิ่มประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้เงินกองทุนขั้นที่
1 ธนาคาร 8% เมื่อรวมกับขั้นที่ 2 จะอยู่ที่ 10% จากปัจจุบัน ที่มีเงินกองทุนขั้นที่
1 อยู่ 7.64% และเงินกอง ทุนขั้นที่ 2 ประมาณ 5%
ด้านร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะยังคงนโยบายที่จะทำให้ธนา
คารทหารไทยกลายเป็นธนาคารสะอาด (Clean Bank) ไร้หนี้เน่า เพื่อให้น่าเชื่อถือ ส่วนหุ้นเพิ่ม
ทุนครั้งนี้จะขายผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด สัดส่วนที่เหมาะสมจะพิจารณาอีกครั้ง
ทางด้านนายศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า การที่คณะกรรมการ
ธนาคาร และเขาในฐานะฝ่ายจัดการ เจรจากับธนาคารต่างประเทศ คือกลุ่มธนาคารออสเตร-เลีย-นิวซีแลนด์
แบงกิ้ง คอร์ป ธนาคารใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรเลีย เพื่อเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
(Strategic Partner)
หลักการสำคัญที่คณะกรรมการและฝ่ายจัดการยึดมาตลอดช่วงเจรจา ได้แก่ รักษาประ-โยชน์ผู้ถือหุ้น
และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รักษาประ-โยชน์ธนาคาร รักษาประโยชน์ระบบเศรษฐกิจโดย ส่วนรวม
และปูพื้นฐาน สำหรับปรับปรุงเปลี่ยน แปลงโครงสร้างธนาคารให้ประสิทธิภาพสูง ขึ้น
แต่ในที่สุด หลังจากทุกฝ่ายใช้ความพยายามเต็มที่ ธนาคารก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติกับคู่เจรจาได้
เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า เงื่อนไขร่วมทุนเข้มงวดเกินไปกว่าจะรับได้
เมื่อ พิจารณาตามหลักการที่ได้กล่าวข้างต้น
ศิริเปิดหมวกตั้งแต่วันนี้
"นับแต่นี้เป็นต้นไป การเพิ่มทุนจะเป็นไปตามแผนที่กระทรวงการคลังกำหนด จึงเป็นที่ชัดเจนว่า
ภารกิจของผม ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการธนาคาร ได้จบลงแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการและกรรม
การผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.46 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่มีความคล่องตัวในการจัดทีมบริหารที่เหมาะสมต่อไป"
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยการเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย
ว่า หลังประชุมบอร์ดธนาคาร ทหารไทย วานนี้ธปท.คาดว่าจะสรุปแผนและอนุมัติเพิ่มทุนธนาคารได้
แผนที่จะใช้ เป็นแนวทางที่ 2 ที่คลังเตรียม ไว้ หลังเอเอ็นแซดยกเลิกซื้อหุ้นเพิ่มทุน
อย่างไร ก็ตาม แผนเพิ่มทุนดังกล่าวแก้ปัญหาให้ธนาคาร ทหารไทยได้แบบเบ็ดเสร็จ โดยแบ่งเงินเพิ่มทุนใหม่เป็น
2 ส่วน
ส่วนแรก จะใช้ตั้งสำรองหนี้ให้ครบตามเกณฑ์ ธปท. ปีนี้ ส่วนที่ 2 ใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิควบหุ้นกู้บุริมสิทธิปี
47 ดังนั้นตามแผนเพิ่มทุน เมื่อดำเนินการเรียบร้อย จะสามารถดูแลปัญหาธนาคารได้ถึงปี
47
คาดแบงก์เริ่มฟันกำไรปีนี้ หลังนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้แก้ปัญหาตั้งสำรอง และไถ่ถอนซูเปอร์แคปส์
เชื่อว่าปีนี้ธนาคารจะเริ่มมีกำไร
"การเพิ่มทุนครั้งนี้ ต้องชมกระทรวงการคลังว่าเขาเก่ง ซึ่งเท่าที่ผมดูแผนที่เสนอมา
ก็สบาย ใจ นอกจากนั้น แผนที่มีการเสนอในการเพิ่มทุน ก็มีการเตรียมรองรับไว้หลายแผน
แต่สรุปได้ ว่า แนวทางที่เลือกใช้ในการเพิ่มทุนเป็นแผน 2 จะให้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นต่อไป"
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าว
เขากล่าวอีกว่า ขณะนี้แผนเพิ่มทุนธนาคาร ทหารไทยอยู่ในขั้นตอนขออนุมัติคณะกรรมการธนาคาร
หลังจากนั้น ธนาคารทหารไทย จะรายงาน ธปท.รับทราบ คาดว่าจะเร่งเพิ่มทุนให้เสร็จ
ภายใน ก.ย.นี้ ตามที่ ธปท.กำหนด
ราคาหุ้น TMB ปิดตลาดวานนี้ 5.70 บาท ลดลง 35 สตางค์ ลด 5.78% มูลค่าซื้อขายทั้ง
สิ้น 531.11 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มหุ้นนี้ จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากคลังเร่งแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ