โละบอร์ดTMB5คน เพิ่มทุน2.24หมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(29 กรกฎาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

คลังใช้ดาบอาญาสิทธิ์ สั่งโละบอร์ดแบงก์ทหารไทย 5 คน รวมประธาน-เอ็มดี มีผลวันนี้ ตั้งผบ.ทบ.รักษาการประธานรองเอ็มดีแบงก์ปัจจุบันรักษาการเอ็มดี ก่อนเลือกใหม่ทั้งชุด หลังดันแผน 2 เพิ่มทุน 6.4 พันล้านหุ้น เบ็ดเสร็จ 2.24 หมื่นล้านบาทภายในก.ย. ขายหุ้นละ 3.50 บาท "อุ๋ย" คาดแบงก์จะเริ่มฟันกำไรได้ปีนี้ เพิ่มทุนส่วนแรกจะใช้ตั้งสำรอง หนี้ให้ครบตามเกณฑ์ ธปท. ปีนี้ ส่วนที่ 2ไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อย สิทธิควบหุ้นกู้บุริมสิทธิปี 47 ด้านขุนคลังยัน จะทำให้ธนาคารอันดับ 6 ของไทยแห่งนี้ เป็นแบงก์สะอาด (Clean Bank) เพิ่มค่าตัวได้แน่

นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการธนาคารทหารไทย เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการธนาคาร วานนี้ (28 ก.ค.) ว่า การประชุมพิจารณาแผนเพิ่มทุนธนาคาร หลังธนาคารประสบปัญหาเงินกองทุนไม่เพียงพอ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขีดเส้นการเพิ่มทุนให้เสร็จ ภายในก.ย.นี้

ที่ผ่านมาธนาคารจ้างผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาการเงินรวมทั้งหาพันธมิตรร่วมทุน ล่าสุดกลุ่มออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง คอร์ป(เอเอ็นแซด) เจรจาขอร่วมทุนแต่ธนาคารปฏิเสธการร่วมทุนดังกล่าว เพราะตั้งเงื่อนไขที่ฝ่ายไทยรับไม่ได้

กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% ต้องรับเพิ่มทุนดังกล่าว วานนี้(28 ก.ค.) เสนอแผนเพิ่มทุนชัดเจนให้คณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติ

เพิ่มทุน2.24 หมื่นล้าน-6.4 พันล้านหุ้น

โดยธนาคารต้องเพิ่มทุน 22,417 ล้านบาท เป็นจำนวนหุ้นประมาณ 6,400 ล้านหุ้น ซึ่งระดมทุนขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วนเท่าๆ กัน หรือสัดส่วนมากกว่า ตามความต้องการผู้ถือหุ้นเดิม คาดว่าจะขายราคา 3.50 บาท ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายหุ้นของธนาคารในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบัน

หลังเพิ่มทุนและตั้งสำรองเพิ่มประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ธนาคาร 8% เมื่อรวมกับขั้นที่ 2 จะอยู่ที่10% จากปัจจุบันที่มีเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ 7.64% และ เงินกองทุนขั้นที่ 2 ประมาณ 5%

ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยขณะนี้ธนาคารยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามแผนธนาคารหรือไม่ หากผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนคลังจะรับผิดชอบซื้อหุ้นแทนทั้งหมด

คลังโละบอร์ด 5 คน

อย่างไรก็ตาม การที่คลังรับผิดชอบเพิ่มทุนดังกล่าว มีนโยบายชัดเจนปรับปรุงโครงสร้างทั้ง หมดขององค์กรครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่ระดับโครง สร้างคณะกรรมการธนาคาร เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินธุรกิจ และแข่งขันกับคู่แข่งในธุรกิจนี้ต่อได้

เริ่มจากปรับโครงสร้างคณะกรรมการธนาคารใหม่ทั้งหมด คาดต้องใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้แผนการเพิ่มทุนธนาคารล่าช้า ไม่ทันเวลาที่กำหนดก.ย. บอร์ดแบงก์จึงมีมติคณะกรรมการฯ 5 คน ลาออก ประกอบด้วย พลเอก วิมล วงศ์วานิช ประธานกรรมการ นายทวี บุตรสุนทร ประธานกรรมการบริหาร นายศิริ การเจริญดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายสมชาติ อินทรทูต กรรมการ และนายอรรคเดช พีชผล กรรมการและที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้มีผลตั้งแต่วันนี้ (29 ก.ค.) เป็น ต้นไป

นอกจากนี้เพื่อให้การเพิ่มทุนเป็นไปตามแผน นายศิริ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัด การใหญ่อีกตำแหน่งด้วย

"เหตุผลที่บอร์ดอนุมัติให้กรรมการทั้ง 5 คนลาออกนั้นเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลังที่ส่งสัญญาณมาแล้วว่า ถ้ากระทรวงการคลังจะต้องเข้าเพิ่มทุนก็ต้องมีการปรับปรุงธนาคาร ตั้งแต่คณะกรรมการเพราะฉะนั้นกรรมการปัจจุบันที่นั่งอยู่ก็ต้องออกทั้งชุด แต่การลาออกทั้งหมดนั้นจะทำให้การคัดเลือกกรรมการชุดใหม่เสียเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้แผนเพิ่มทุนไม่เป็นไปตามที่แบงก์ชาติกำหนด ดังนั้นจึงมีกรรมการ 5 ท่าน แสดงสปิริตลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ส่วนที่เหลืออีก10 คน เมื่อแผนการเพิ่มทุนประสบความสำเร็จก็จะลาออก แต่ที่ต้องอยู่ในขณะนี้ก็เพื่อให้ครบองค์ประชุม" นายสมหมาย กล่าว

ตั้งผบ.ทบ.-รองเอ็มดีรักษาการ

คณะกรรมการฯจึงแต่ตั้งให้นายสุภัคร ศิวะรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่แทนนายศิริ จนกว่าคณะ กรรมการฯจะมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่

ที่ประชุมยังมีมติให้พล.อ.สมทัต อัตตะนันทน์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นรองประธานกรรมการธนาคารรักษาการประธานคณะกรรมการฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้เช่นกัน

นายสมหมาย กล่าวว่า การลาออกของกรรมการทั้ง 5 คนครั้งนี้ ส่งผลจำนวนคณะกรรมการฯ ธนาคารเหลือเพียง10 คน ซึ่งสอดคล้องข้อกำหนดแบงก์ชาติ ที่กำหนดให้การเพิ่มทุนธนาคาร ต้องมีคณะกรรมการฯอย่างน้อย 9 คน จึงจะครบองค์ประชุม หลังเพิ่มทุนเสร็จ คณะกรรมการฯที่เหลืออีก10 คน ก็ต้องลาออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน

เพิ่มทุนเบ็ดเสร็จ-หมื่นล้านตั้งสำรอง

"การเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นการเพิ่มทุนที่เบ็ดเสร็จ สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร ได้ในระยะยาวโดยเป็นการเพิ่มทุนที่ธนาคารไม่ต้องลดทุนจดทะเบียนและเป็นการขายหุ้นแบบไม่มีวอร์แรนต์"

"โดยภายหลังจากการเพิ่มทุน ธนาคารจะนำเงินประมาณกว่า10,000 ล้านบาทมาใช้ในการตั้งสำรอง ซึ่งจะทำให้เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากการเพิ่มทุนมีสัดส่วนมากกว่า 10% โดย เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 มากถึง 8% นอกจากนี้ การดำเนินงานดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบต่อลูก ค้า ทั้งเงินฝากและเงินกู้ของธนาคาร รวมทั้งไม่ต้องมีการควบรวมกิจการของธนาคารตามที่เป็นข่าว" นายสมหมาย กล่าว

หลังเพิ่มทุน และตั้งสำรองเพิ่มประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้เงินกองทุนขั้นที่ 1 ธนาคาร 8% เมื่อรวมกับขั้นที่ 2 จะอยู่ที่ 10% จากปัจจุบัน ที่มีเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ 7.64% และเงินกอง ทุนขั้นที่ 2 ประมาณ 5%

ด้านร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะยังคงนโยบายที่จะทำให้ธนา คารทหารไทยกลายเป็นธนาคารสะอาด (Clean Bank) ไร้หนี้เน่า เพื่อให้น่าเชื่อถือ ส่วนหุ้นเพิ่ม ทุนครั้งนี้จะขายผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมด สัดส่วนที่เหมาะสมจะพิจารณาอีกครั้ง

ทางด้านนายศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า การที่คณะกรรมการ ธนาคาร และเขาในฐานะฝ่ายจัดการ เจรจากับธนาคารต่างประเทศ คือกลุ่มธนาคารออสเตร-เลีย-นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง คอร์ป ธนาคารใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรเลีย เพื่อเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partner)

หลักการสำคัญที่คณะกรรมการและฝ่ายจัดการยึดมาตลอดช่วงเจรจา ได้แก่ รักษาประ-โยชน์ผู้ถือหุ้น และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รักษาประ-โยชน์ธนาคาร รักษาประโยชน์ระบบเศรษฐกิจโดย ส่วนรวม และปูพื้นฐาน สำหรับปรับปรุงเปลี่ยน แปลงโครงสร้างธนาคารให้ประสิทธิภาพสูง ขึ้น

แต่ในที่สุด หลังจากทุกฝ่ายใช้ความพยายามเต็มที่ ธนาคารก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติกับคู่เจรจาได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า เงื่อนไขร่วมทุนเข้มงวดเกินไปกว่าจะรับได้ เมื่อ พิจารณาตามหลักการที่ได้กล่าวข้างต้น

ศิริเปิดหมวกตั้งแต่วันนี้

"นับแต่นี้เป็นต้นไป การเพิ่มทุนจะเป็นไปตามแผนที่กระทรวงการคลังกำหนด จึงเป็นที่ชัดเจนว่า ภารกิจของผม ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการธนาคาร ได้จบลงแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการและกรรม การผู้จัดการใหญ่ของธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.46 เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่มีความคล่องตัวในการจัดทีมบริหารที่เหมาะสมต่อไป"

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยการเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย ว่า หลังประชุมบอร์ดธนาคาร ทหารไทย วานนี้ธปท.คาดว่าจะสรุปแผนและอนุมัติเพิ่มทุนธนาคารได้

แผนที่จะใช้ เป็นแนวทางที่ 2 ที่คลังเตรียม ไว้ หลังเอเอ็นแซดยกเลิกซื้อหุ้นเพิ่มทุน อย่างไร ก็ตาม แผนเพิ่มทุนดังกล่าวแก้ปัญหาให้ธนาคาร ทหารไทยได้แบบเบ็ดเสร็จ โดยแบ่งเงินเพิ่มทุนใหม่เป็น 2 ส่วน

ส่วนแรก จะใช้ตั้งสำรองหนี้ให้ครบตามเกณฑ์ ธปท. ปีนี้ ส่วนที่ 2 ใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิควบหุ้นกู้บุริมสิทธิปี 47 ดังนั้นตามแผนเพิ่มทุน เมื่อดำเนินการเรียบร้อย จะสามารถดูแลปัญหาธนาคารได้ถึงปี 47

คาดแบงก์เริ่มฟันกำไรปีนี้ หลังนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้แก้ปัญหาตั้งสำรอง และไถ่ถอนซูเปอร์แคปส์ เชื่อว่าปีนี้ธนาคารจะเริ่มมีกำไร

"การเพิ่มทุนครั้งนี้ ต้องชมกระทรวงการคลังว่าเขาเก่ง ซึ่งเท่าที่ผมดูแผนที่เสนอมา ก็สบาย ใจ นอกจากนั้น แผนที่มีการเสนอในการเพิ่มทุน ก็มีการเตรียมรองรับไว้หลายแผน แต่สรุปได้ ว่า แนวทางที่เลือกใช้ในการเพิ่มทุนเป็นแผน 2 จะให้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นต่อไป" ม.ร.ว. ปรีดิยาธร กล่าว

เขากล่าวอีกว่า ขณะนี้แผนเพิ่มทุนธนาคาร ทหารไทยอยู่ในขั้นตอนขออนุมัติคณะกรรมการธนาคาร หลังจากนั้น ธนาคารทหารไทย จะรายงาน ธปท.รับทราบ คาดว่าจะเร่งเพิ่มทุนให้เสร็จ ภายใน ก.ย.นี้ ตามที่ ธปท.กำหนด

ราคาหุ้น TMB ปิดตลาดวานนี้ 5.70 บาท ลดลง 35 สตางค์ ลด 5.78% มูลค่าซื้อขายทั้ง สิ้น 531.11 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มหุ้นนี้ จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากคลังเร่งแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.