|
ซิสเท็มมาซอยตลาดโค่นมายบาซินปั้นน้ำยาบ้วนปากกลางคืนรั้งเบอร์2
ผู้จัดการรายวัน(7 ตุลาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ซิสเท็มมา ปลุกตลาดน้ำยาบ้วน 1,270 ล้านบาท ซอยย่อยเซกเมนต์ตามไลฟ์สไตล์ ปั้นนวัตกรรมใหม่น้ำยาบ้วนปากกลางคืน ส่ง 2 สูตรเจาะกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายคนเมืองรุ่นใหม่ พร้อมชูจุดขายลดปัญหากลิ่นปากตอนเช้าและโรคเหงือก หวังโค่นมายบาซินรั้งอันดับ 2 แทนที่ครองแชร์มากกว่า 9.2%
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาบ้วนปากซิสเท็มมา เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า แนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคจะซอยย่อยเซกเมนต์ตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย และยังมีการแบ่งตามการใช้งานของกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายซึ่งมีความต้องการแตกต่างกัน เพื่อรองรับกับแนวโน้มดังกล่าว ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวน้ำยาบ้วนสูตรกลางคืน ”ซิสเท็มมา มิดไนท์ แฟนตาซี” เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชาย และ”ซิสเท็มมา มิดไนท์ พาราไดส์” เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิง ต่อยอดจากการน้ำยาบ้วนปาก เจแปนิส เชอร์รี่ บลอสซัม สำหรับผู้ที่ต้องการขจัดกลิ่นปากระหว่างวันแบบเร่งด่วน
“ตลาดยาสีฟันมีการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งแล้ว โดยซอยย่อยเซกเมนต์เป็นยาสีฟันสำหรับตอนเช้าและกลางคืน ซึ่งถึงเวลาแล้วเช่นกันที่ตลาดน้ำยาบ้วนจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโตมากขึ้น จากเดิมยาน้ำยาบ้วนปากจะมีเพียงรสชาติใหม่ๆ เท่านั้น และที่สำคัญโดยมากเป็นรสชาติที่รุนแรง สำหรับซิสเท็มมา นับว่าเป็นแบรนด์แรกที่มีน้ำยาบ้วนปากครบระหว่างวัน ตั้งแต่เช้ายันกลางคืน”
แผนการตลาดบริษัทได้สร้างการรับรู้ผ่านโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม ณ จุดขาย และการแจกสินค้าตัวอย่าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้ ทั้งนี้น้ำยาบ้วนปากซิสเท็มมา มิดไนท์ มีจุดขาย เรื่องแบคทีเรีย การสะสมหินปูน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเหงือกและกลิ่นปากตอนเช้า เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน อย่างไรก็ตามการเปิดตัวนวัตกรรมดังกล่าวไม่ได้กระตุ้นให้เกิดความถึ่ในการใช้มากขึ้น แต่ต้องการสร้างตลาดน้ำยาบ้วนปากให้มีอัตราการเติบโต
ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มคนเมืองเท่านั้น อัตราการใช้ในครัวเรือนยังมีไม่มากนัก โอกาสที่ตลาดจะเติบโตยังมีมาก โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น้ำยาบ้วนปากนับว่าเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ช่องปาก ซึ่งปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 17% ทำให้คู่แข่งเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าวมากขึ้น อย่างคอลเกตได้เปิดตัวน้ำยาบ้วนปาก ภายใต้แบรนด์ "คอลเกต พลักซ์" ถึง 5 สูตร
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินการตลาดในเชิงรุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ช่องปากทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ แปรงสีฟัน ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ครองส่วนแบ่ง 16.6% จากปีที่ผ่านมา 14.9% ส่วนอันดับ 1 คอลเกต มีส่วนแบ่ง 35.7% จาก 35.3% ส่วนอันดับ 3 ออรัลบี 13.8% จากเดิม 15.2% โดยมูลค่าตลาด 2,170 ล้านบาท และยาสีฟันซิสเท็มมา มีส่วนแบ่งเท่าปีที่ผ่านมา 12.7% ส่วนผู้นำตลาดมีส่วนแบ่ง 35.6% จากเดิม 33.6% ส่วนอันดับ 2 ดาร์ลี่ มีส่วนแบ่ง 14.2% จากปีที่ผ่านมา 14.7% ขณะที่มูลค่าตลาด 5,500 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดน้ำยาบ้วนปากมูลค่า 1,270 ล้านบาท ปัจจุบันน้ำยาบ้วนปากซิสเท็มมา มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 9.2% จากปีที่ผ่านมา 5.5% เป็นอันดับ 3 ของตลาด ส่วนผู้นำตลาดลิสเตอรีน ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ครองส่วนแบ่ง 72.1% จากปีที่ผ่านมา 77.9% ส่วนอันดับ 2 เป็นของมายบาซินมีส่วนแบ่ง 8.5% จากเดิม 9.8% และอันดับ 4 คอลเกต มีส่วนแบ่ง 4.1% จากเดิม 1.6% อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวน้ำยาบ้วนปาก มิดไนท์ จะผลักดันให้ซิสเท็มมา มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำยาบ้วน เพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบันซึ่งมีส่วนแบ่ง 9.2%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|