ยุคตกต่ำของอุตสาหกรรมธนาคารเมื่อสองปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบรรดาธนาคารพาณิชย์ชั้นนำมีความปรารถนาเริ่มต้นความเติบใหญ่อีกครั้ง
ด้วยวิธีการซื้อธนาคารพาณิชย์อื่น
Sandy Weill ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งซีตี้ กรุ๊ป ประกาศว่านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา
ธนาคารไม่ได้มีกิจกรรมควบรวมกับธนาคารอื่นๆ เลย และเขาบอกว่าปัจจุบันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อกิจธุรกิจรายย่อย
(Retail Banking)
ด้าน William Harrison ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร J.P. Morgan Chase เปิดเผยออกมาในทิศทางเดียวกันถึงการพิจารณาขยายธุรกิจ
Consumer Banking ด้วยการควบรวมกิจการ ซึ่งไม่ต่างไปจากนโยบายการขยายตัวของ
Wells Fargo และ Bank of America มาก
เมื่อเร็วๆ นี้ G. Kennedy Thompson ประธานและเจ้าหน้าที่บริหาร Wachovia
Corp. แสดงความเห็นต่อนักลงทุนว่าธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นมีปริมาณมากจนเกินไป
และมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาเหล่านี้จะกลายผู้นำยักษ์ใหญ่แห่งวงการซื้อกิจการ
อุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกามีการควบรวมกิจการกันมานานกว่า 10
ปีแล้ว ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสถาบันเงินฝากเหลือเพียง 9,314
แห่ง จาก 15,158 แห่ง เมื่อจบปี 1990
"ธุรกิจนี้ซื้อกิจการกันมากว่า 16 ปี แล้ว และจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง"
Dick Kovacevich ประธานและเจ้าหน้าที่ บริหาร Wells Fargo บอก "แต่ในช่วงสองปี
ที่ผ่านมาที่การรวมกิจการเงียบหายไปเกิดจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ"
ล่าสุด ธนาคารยักษ์ใหญ่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันรุนแรงของบรรดาธนาคารขนาดเล็ก
เช่นเดียวกันสถาบันการเงินชั้นนำ ส่งผลต่อผู้เล่น ดังนั้นผู้เล่นที่มีเงินและสามารถจ่ายได้
เริ่มมีความต้องการซื้อกิจการเพื่อส่วนแบ่งและขยายอาณาจักรตนเอง
ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ที่มีอิทธิพลต่อตลาดและขยายธุรกิจด้วยวิธีควบรวมกิจการยังเป็นผู้เล่นเดิมๆ
อาทิ Citigroup, Bank of America, Wells Fargo, Wachovia หรือ Bank One และกำลังสนใจในการซื้อกิจการ
ธนาคารยักษ์ใหญ่ดังกล่าว ถือเป็นผู้ชำนาญด้านการเทกโอเวอร์ โดยเฉพาะกับธนาคารระดับภูมิภาคขนาดเล็ก
รวมถึงสถาบันการเงินขนาดเล็กและกลางที่เริ่มกังวลกับผลกำไรของตนเอง ท่ามกลาง
อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงซึ่งมีผลต่อต้นทุนการระดมทุน
รวมถึงในระยะยาวการดำเนินธุรกิจให้กู้ยืมและการลงทุนเริ่มมีอุปสรรค ทำให้มาร์จินแคบลง
ดังนั้นการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของผู้เล่นยักษ์ใหญ่ย่อมเป็นทางออกที่น่าสนใจ
สำหรับสถาบันการเงินเป้าหมายของผู้เล่นทรงพลัง นักวิเคราะห์คาดว่าจะเป็น
Fleet Boston Financial, PNC Financial Service Group, Comerica Inc., KeyCorp
และ U.S. Bancorp อย่างไรก็ดี โฆษกของ Fleet Boston ออกมาปฏิเสธถึงการได้รับความสนใจจากธนาคารยักษ์ใหญ่
"เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นพวกเราจะสร้างเครือข่ายธุรกิจต่อเนื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาการรวมกิจการ"
เช่นเดียวกับด้าน Comerica ที่ออกมาประกาศที่จะพยายามดำเนินธุรกิจภายใต้ความเป็นอิสรเสรี
ด้าน Kovacevich เปิดเผยว่าเฉลี่ยแล้ว Wells Fargo ควบรวมกิจการกับธนาคารอื่น
15 แห่ง หรือมากกว่านั้นต่อปี ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แต่ปีที่ผ่านมาไม่มีการซื้อกิจการเลย
เพราะว่าผู้ขายตั้งราคาไว้สูงมากจนไม่สามารถรับได้
"หลังจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น คาดว่าผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงราคากันได้"