|
ภาษีทั่วโลกลดทุกปี
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ในช่วงระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทั่วโลกลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงทุกปีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มกลับเพิ่มขึ้นทุกปี
จากการสำรวจภาษีของกลุ่มเคพีเอ็มจี จาก 106 ประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีทางอ้อมหรือ (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในช่วงระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา
โรเบิร์ต พอร์ตเตอร์ บริษัท สำนักภาษีเคพีเอ็มจี ภูมิไชย จำกัด บอกว่า จากการสำรวจพบว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ.2537 ไม่มีประเทศใดเลยจากประเทศ 106 ประเทศ ปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นโดยอัตราเฉลี่ยของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั่วโลกอยู่ที่อยู่ 25.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงเกือบ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลโดยเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดยังอยู่ในกลุ่มสหภาพยุโรปโดยเฉลี่ยลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ ตั้งปี 2550 มา อยู่ที่อัตรา 23.2 เปอร์เซ็นต์
ส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉลี่ยสูงที่สุด ซึ่งลดลง 0.8 เปอร์เซ็นต์หรืออยู่ที่ 28.4 เปอร์เซ็นต์
สำหรับประเทศไทยเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล 30 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ภาครัฐได้ตั้งกฎเกณฑ์ลดหย่อนภาษีในการลงทุนประเภทอื่นทดแทน อย่างเช่นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะได้รับการยกเว้นภาษี 20-25 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2552
ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีต้นทุนดำเนินงานไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีกำไรไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี 0 เปอร์เซ็นต์
นอกเหนือจากนั้นยังมีสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังมีส่วนสนับสนุนการลงทุนยกเว้นภาษีหากผู้ลงทุนปฏิบัติตามเงื่อนไขของบีโอไอ
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่อยู่ใกล้กับประเทศไทยได้รับการสนับสนุนอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อสร้างบรรยากาศให้เอื้ออำนวยให้กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ
อย่างเช่นประเทศเวียดนามถือได้ว่ากลายเป็นคู่แข่งของไทยในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง คือ จากปี 2542 จัดเก็บภาษีอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ปี 2546 ปรับลดลงเหลือ 32 เปอร์เซ็นต์ และปี 2547 ลดลงเหลือ 28 เปอร์เซ็นต์ จนถึงปัจจุบัน
ส่วนประเทศจีนจัดเก็บภาษี 33 เปอร์เซ็นต์ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 จนถึงปี 2550 แต่ปี 2551 ได้ลดภาษีเหลือ 25 เปอร์เซ็นต์ หรือลดไปถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งอาจมาจากจีนมีการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและต้องการกระตุ้นธุรกิจให้มีความต่อเนื่องหลังจากเสร็จสิ้นโอลิมปิก
แม้ว่าประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงก็ตาม แต่รัฐบาลประเทศต่างๆ กำลังพิจารณาปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้าและบริการหรือที่เรียกว่าภาษีทางอ้อมเพื่อให้เกิดความสมดุลกับรายได้จากภาษีของรัฐ
เป็นนโยบายที่รัฐบาลชอบมาก เพราะจัดเก็บง่ายและมีรายได้เข้าทุกเดือน
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอัตราภาษีทางอ้อมเพิ่มต่ำที่สุดที่ 11.4 เปอร์เซ็นต์ และมีอัตราเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 0.5 เปอร์เซ็นต์ จาก พ.ศ.2549 แต่ในกลุ่มสหภาพยุโรปกลับมีอัตราเฉลี่ยภาษีทางอ้อมปรับตัวสูงที่สุดในโลกอยู่ที่ 19.49 เปอร์เซ็นต์
ส่วนประเทศไทยจัดเก็บภาษีทางอ้อมเพิ่ม 7 เปอร์เซ็นต์ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ตามนโยบายของรัฐบาลจะจัดเก็บภาษีจำนวน 7 เปอร์เซ็นต์ ไปถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 ส่วนเวียดนามเก็บอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และจีนเก็บ 17 เปอร์เซ็นต์
การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ลดลงทุกปี และเก็บภาษีทางอ้อมเพิ่มสูงขึ้น บริษัท เคพีเอ็มจี เชื่อว่าแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|