ธ.ออมสินเข้มแก้หนี้ "NPL" เตรียมเล่นงานคดีแพ่ง-อาญา


ผู้จัดการรายวัน(25 กรกฎาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ธนาคารออมสิน เอาจริงกับลูกหนี้ที่ไม่ยอมจ่ายคืนในโครงการธนาคารประชาชน เตรียมเล่นงานทั้งคดีแพ่ง-อาญา หลังจากส่งฟ้องไปแล้วกว่า 100 ราย พร้อมปรับยุทธ์ศาสตร์ใหม่ด้วยการตั้งกลุ่มแกนนำ เพื่อปล่อยกู้และค้ำประกันร่วมกัน ขณะที่ผลงานรอบ 2 ปี ปล่อยกู้แล้วกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ยอดหนี้ค้างชำระ 3.08% ของยอดสินเชื่อรวม ส่วนยอดสินเชื่อรวมครึ่งปีปล่อยได้ 5 หมื่นล้าน

นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึง แนวทางการจัดการปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในโครงการธนาคารประชาชนว่า ธนาคารจะจัดการกับลูกหนี้ที่ไม่ชำระคืนอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะลูกหนี้ที่มีเจตนาไม่ชำระหนี้ คือ ลูกหนี้ที่มีรายได้แต่ไม่ยอมชำระคืนหนี้ โดยจะมีการดำเนินการทางกฎหมายทั้งแพ่งและอาญา

"แม้ว่าต้นทุนการดำเนินคดีจะสูงกว่าจำนวนนี้ที่ค้างชำระ ธนาคารก็จะดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะต้องการสร้างวินัยทางการเงินกับลูกหนี้ รวมทั้งธนาคารเองก็ต้องทำธุรกรรมให้สินเชื่อรายย่อยต่อไป"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปแล้วประมาณ 100 กว่าราย คิดเป็นมูลหนี้เฉลี่ยรายละไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนลูกหนี้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ หรือดำเนินธุรกิจผิดพลาด จนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางธนาคารยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไป

สำหรับในกรณีที่ได้เรียกประชุมสาขาในเขตกรุงเทพฯ 40 แห่งนั้น เป็นเพียงการชี้แจง และ ให้สาขาที่มีเอ็นพีแอลสูงได้เห็นตัวอย่างการดำเนินงานของสาขาที่ไม่มีหนี้เอ็นพีแอลเลย ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 77 สาขา จากสาขาทั้งหมด 586 แห่งทั่วประเทศ

"สาเหตุที่เรียกประชุมผู้จัดการสาขา ไม่ได้มีเหตุอะไรที่น่าตกใจ เพียงแต่เอาสาขาที่ไม่เป็น เอ็นพีแอลเลยแม้แต่รายเดียวมาเป็นตัวอย่าง ส่วนสาขาพหลโยธินที่มีหนี้เอ็นพีแอลสูง 40% หลังจาก ที่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลลูกหนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้เอ็นพีแอลลดลงอย่างมาก ในสัปดาห์แรกลดลงถึง 5% และลดลงเรื่อยๆ ในระยะต่อมา"

ส่วนลูกหนี้ที่เบี้ยวหนี้ หรือรวมกลุ่มกันโกง ทางธนาคารจะเอาจริง เพราะเหมือนแม่ค้า 2 คน คนหนึ่งผ่อนชำระดี ขณะที่อีกคนเบี้ยวหนี้แต่ไม่ได้รับผลอะไร มันไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่เขาผ่อนชำระดีมาตลอด

นายสมใจนึก กล่าวเพิ่มเติมถึง แผนการและยุทธศาสตร์ที่ธนาคารออมสินจะมีการขยายการดำเนินงานโครงการธนาคารประชาชน ว่าจะมีการดำเนินการโดยการจัดตั้งกลุ่มแกนนำ หรือ Nucleus ในลักษณะการกู้ร่วม ค้ำประกันร่วม และระบบตัวแทนธนาคาร

โดยธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มนี้ในอัตราดอกเบี้ยประมาณ 8% หลังจากที่กลุ่มมีความเข้มแข็ง คือ สามารถควบคุมกันเองได้แล้ว จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง เช่นอาจลดเหลือเพียง 6% ซึ่งทางธนาคารจะมีการติดตามดูแลกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ธนาคารจะพัฒนาระบบ คอลแบงกิ้ง ให้แล้วเสร็จภายในปี 2547 โดยจะมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยี ทั้งในด้านการบันทึกข้อมูลลูกค้า ระบบออนไลน์เชื่อมโยงประวัติลูกค้า ระบบการติดตามสถานะภาพลูกค้า เชื่อมโยงสาขา ศูนย์ ภาค และส่วนกลางเข้าด้วยกัน รวมทั้งจะมีการขยายสินเชื่อให้กับลูกค้าโครงการ โดยจะต่อยอดเป็นสินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อลูกหนี้ชั้นดี ซึ่งจะมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงตามลำดับ

จากข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน โครงการธนาคารประชาชน มีจำนวนสมาชิก 596,478 ราย เงินฝากคงเหลือของสมาชิกอยู่ที่ 1,620.47 ล้านบาท ในด้านการปล่อยสินเชื่อ มีจำนวนสมาชิกที่ยื่นขอกู้มาทั้งหมด จำนวน 700,023 ราย คิดเป็น 117.36 % ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวนสมาชิกที่ได้รับสินเชื่อ 636,891 ราย คิดเป็น 90.98% ของจำนวนสมาชิกที่ยื่นขอกู้ทั้งหมด และมีจำนวนสินเชื่อทั้งสิ้น 12,156.40 ล้านบาท จำนวนสินเชื่อที่ได้รับชำระคืนแล้ว 6,708.95 ล้านบาท และมีจำนวนสินเชื่อคงเหลือที่อยู่ในระหว่างการผ่อนชำระ 5,447.45 ล้านบาท

ส่วนสินเชื่อค้างชำระที่เกิน 3 เดือนขึ้นไป มีจำนวนสินเชื่อค้างชำระ 359.58 ล้านบาท โดย มีสมาชิกทั้งหมด 27,244 ราย เป็นสินเชื่อค้าง ชำระเมื่อเทียบกับจำนวนสินเชื่อทั้งหมด 3.05% และเป็นสินเชื่อค้างชำระเมื่อเทียบกับสินเชื่อคง เหลือ 6.57%

"สินเชื่อค้างชำระในระดับ 3.05% เพิ่มขึ้น จากปีก่อนเล็กน้อย โดยในปีก่อนมีสินเชื่อค้าง ชำระประมาณ 2.6-2.7% ถือว่าเพิ่มขึ้น 0.4 -0.5% เท่านั้น ขณะที่สินเชื่อค้างชำระเมื่อเทียบกับสินเชื่อคงเหลือ ค่อนข้างแกว่งมาก คือ เมื่อสิ้นปี 2545 อยู่ที่ 3.6 - 3.7% จากนั้นขยับขึ้นไปอยู่ที่ 5% กว่าๆ และเมื่อเราเร่งรัดก็ขยับลดลงเหลือ 4% กว่า แต่เมื่อมีงานเข้ามามาก ตอนนี้จึงขึ้นมาอยู่ที่ 6.57% ซึ่ง เราก็พยายามเร่งรัดให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง" นาย สมใจนึกกล่าว

นายชาญชัย มุสิกนิสากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึง ผลการดำเนินงานครึ่ง ปีแรกของธนาคาร ว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน ธนาคารมียอดเงินคงเหลือจำนวน 546,447 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนจำนวน 126 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.62% และมีส่วนแบ่งตลาด 9% ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 5 ในระบบธนาคารพาณิชย์

ด้านความสามารถในการปล่อยสินเชื่อนั้น ธนาคารปล่อยกู้ได้จำนวน 50,287 ล้านบาท ซึ่งไม่นับรวมเงินให้กู้แก่กองทุนหมู่บ้าน มีส่วนแบ่งตลาดด้านสินเชื่อ เท่ากับ 4.09% ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 10 ในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นสินเชื่อรายย่อย จำนวน 48,965 ล้านบาท และสินเชื่อรายใหญ่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจำนวน 1,322 ล้านบาท

สำหรับในด้านเงินทุนระยะยาว มียอดคงเหลือจำนวน 284,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนจำนวน 8,805 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 3.20% และมียอดเอ็นพีแอล 4.32% ส่วนเงินกองทุนของธนาคารมีจำนวน 69,527 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 638,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2545 จำนวน 32,139 ล้านบาท หรือ 6.58%

ขณะที่สินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคาร อยู่ที่ 67,997 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12.44% ของเงินฝาก มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประมาณ 6,680 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA) 2.29 % อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของทุน (ROE) 20.98% เงินให้สินเชื่อและเงินลงทุนต่อสินทรัพย์รวม 97% หนี้ต่อทุน 8.2%



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.