|
ชีวาทัยอาศัยแต้มต่อลงทุนคอนโดฯ เล็งขยายไลน์สู่ธุรกิจรร.-ออฟฟิศ
ผู้จัดการรายสัปดาห์(15 กันยายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
“ชีวาทัย”ควงพันธมิตรเครือ ทีอีอี กรุ๊ป สิงคโปร์ ลงทุนคอนโดมิเนียมขายลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ อาศัยความได้เปรียบเป็นน้องเขยเจ้าของอาณาจักรนิคมฯอมตะ“วิกรม กรมดิษฐ์” ผู้มีคอนเน็กชั่นต่างชาติล้นหลามกวาดลูกค้าซื้อโครงการ“ชีวาทัย ราชปรารถ” กว่า 50% ช่วงเปิดตัว แย้มแผนลงทุนระยะยาว ขยายไลน์สู่ธุรกิจโรงแรม และอาคารสำนักงาน
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม นอกจากทำเลที่ตั้ง รูปแบบอาคาร และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องคำนึงถึงเป็นหลักแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามนั่นคือจะต้องมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อเป็นใบเบิกทางให้สามารถสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว
บริษัท ชีวาทัย จำกัด จึงกำเนิดขึ้นด้วยความร่วมมือของชาติชาย พานิชชีวะ น้องเขยวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ระยอง และนิคมอุตสาหกรรม ประเทศเวียดนาม และบริษัท ทรานส อิควอโทเรียล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ในเครือ ทีอีอี กรุ๊ป ประเทศสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 100 ล้านบาท โดยกลุ่มชาติชายถือหุ้นใหญ่ 51% ส่วนกลุ่มทรานส อิควอโทเรียล สิงคโปร์ถือหุ้น 49% ตามกฎหมายกำหนด
สำหรับโครงสร้างคณะกรรมการ ชาติชาย นั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร ส่วนกรรมการประกอบด้วย พัว เชียนคิน, เชง เชา ชิออง, บุญ ชุน เกียรติ, สมหะทัย พานิชชีวะ (ภรรยาชาติชาย),สมภัทรา รัตนสงวนวงศ์ และวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ (น้องชายวิกรม)
แผนการลงทุนของชีวาทัย ชาติชาย บอกว่า จะลงทุนโครงการใหม่ปีละประมาณ 2-3 แห่ง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ทุกโครงการจะเน้นในทำเลที่มีความต้องการซื้อ แต่มีโครงการให้เลือกน้อย หรือไม่มีเลย และเป็นทำเลค้าขายย่านธุรกิจ โดยโครงการแรกที่เปิดตัวคือ “ชีวาทัย ราชปรารภ” เป็นคอนโดมิเนียม สไตล์โมเดิร์น สูง 26 ชั้น จำนวน 329 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 75,000 บาท หรือ 2.4 ล้านบาท พื้นที่ 2 ไร่เศษ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนราชปรารภ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส 600 เมตร และห่างจากแอร์พอร์ต ลิ้งก์ 700 เมตร ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงบนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายใต้คอนเซปท์ “Make Your Life Easier” ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะได้ใบอนุญาตประมาณเดือนพ.ย.นี้ และใช้เวลาก่อสร้างนาน 20 เดือนไม่รวมตกแต่ง
จะเห็นว่าโครงการชีวาทัย เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้ด้วยสายสัมพันธ์ ของกลุ่มผู้ร่วมทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติก็สามารถสร้างยอดขายในช่วงแรกของการเปิดตัวมากกว่า 50% ท่ามกลางปัจจัยลบมากมายที่กระทบต่อการตัดสินใจซื้อ เพราะกลุ่มคนไทยมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า สมหะทัย มีบทบาทสำคัญในการดูแลนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้ง 2 แห่ง รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามด้วย ซึ่งจากความเชื่อมั่นในการพัฒนานิคมฯทั้ง 3 แห่ง รวมถึงตัวสมหะทัยเองจึงสามารถดึงดูดนักลงทุนจากในนิคมฯดังกล่าวมาซื้อโครงการชีวาทัยได้อย่างไม่ยากนัก
ขณะที่กลุ่มทรานส อิควอโทเรียล ฯสิงคโปร์เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ขนาดกลาง ดำเนินธุรกิจวางระบบเอ็นจิเนียริ่งในสิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคาร งานก่อสร้างถนนในสนามบินสิงคโปร์ รวมถึงเป็นผู้เดินท่อน้ำ ไฟฟ้า และประปา เป็นผู้เชี่ยวชาญงานสาธารณูปโภค ทำให้สามารถแนะนำโครงการชีวาทัยต่อนักลงทุนสิงคโปร์ที่ต้องการมาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยเพื่อลงทุนให้เช่า หรือเพื่อมาพักผ่อนเองได้ นอกจากนี้กลุ่มทรานส อิควอโทเรียลฯยังมีแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำนำใช้ในการลงทุนโครงการด้วย
สำหรับแผนการในอนาคต บุญ ชุน เกียรติ กล่าวว่า จะเร่งสร้างรายได้จากการลงทุนโครงการเพื่อขาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน และหลังจากนั้นมีแผนจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยจะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจให้เช่าควบคู่ธุรกิจเพื่อขาย เช่น โรงแรม และอาคารสำนักงาน เพื่อมีรายได้สองทาง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|