|
แนวโน้มดอกเบี้ยทรง อานิสงส์หุ้นแบงก์-อสังหา
ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 กันยายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ตลาดหุ้นยังมีโอกาสผันผวนสูง โบรกฯแนะให้เล่นเข้า-ออกสั้นๆเป็นรายวันไปก่อน ให้น้ำหนักหุ้นใหญ่กลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหา แม้มองแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว แต่ดอกเบี้ยเงินฝากเงินกู้ยังมีโอกาสขยับได้อีก
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองภายในที่อ่อนไหว สัญญาณการหดตัวของเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ในช่วงเริ่มต้น รวมทั้งวิกฤติสินเชื่อสถาบันการเงินในสหรัฐที่ยังไม่สะเด็ดน้ำ เกียรติก้อง เดโช ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ มองว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ไทย(SET INDEX) ยังมีโอกาสที่จะผันผวนได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงควรเป็นแบบเล่นสั้นๆเป็นรายวันไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจน สำหรับหุ้นกลุ่มที่จะยังพอเล่นได้โดยราคาหุ้นในช่วงนี้ OUTPERFORM กว่า SET INDEX ก็ยังคงเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก อย่างธนาคารพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์
หากเปรียบเทียบราคาหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งคือ ธนาคารกรุงเทพ(BBL), ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) และ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) กับการเคลื่อนไหวของ SET INDEX นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน กรกฎาคม ถึงปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรงมาก คือ ลงมาจากจุดสูงสุดที่ 778 จุดและต่ำสุดที่ 664 จุด จะเห็นว่าหุ้นธนาคารทั้ง 3 ตัวแม้จะปรับตัวลงแต่น้อยกว่าการปรับตัวลงของ SET INDEX มาก หรือพูดพูดง่ายๆว่า หุ้นทั้ง 3 OUTPERFORM กว่า
โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ต้นถึงกลาง ส.ค.ที่ SET INDEX และหุ้นกลุ่มอื่นๆปรับตัวลงมาลึก แต่หุ้นธนาคารใหญ่กลับลงมาน้อยกว่า ส่วนหุ้นอีกกลุ่มที่สามารถยืนต้านการปรับตัวลงได้ก็คือหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่าง บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) ,บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS)และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH)
สำหรับจุดเด่นของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และอสังหาริมทรัยพ์ยังคงเป็นเรื่องของทิศทางดอกเบี้ย ที่ในช่วงต่อจากนี้ยังมีโอกาสทรงตัวจากก่อนหน้านี้ที่มองกันว่าดอกเบี้ยจะเป็นช่วงขาขึ้น โดยตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมก็นับว่าลดลงมากพอสมควรเพราะได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้ในปีหน้าทิศทางดอกเบี้ยก็มีสิทธิที่จะลงได้
แม้ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายหลังจากนี้ถึงปลายปีจะเริ่มทรงตัว แต่ในส่วนของดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากก็ยังมีสิทธิขึ้นได้จากการแข่งขันระดมเงินออม ซึ่งก็หมายถึงเมื่อขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารก็จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ตามไปด้วย และหากธนาคารพาณิชย์มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนี้ก็มองว่าจะเป็นผลดีกับธนาคารพาณิชย์เอง
ส่วนผลที่จะกระทบกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คงมีไม่มาก เนื่องจากกำลังมองกันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์รอบที่จะถึงนี้ คงเป็นรอบสุดท้ายนอกจากนั้นตัวเลขการปล่อยสินเชื่อเดือนกรกฎาคมของกลุ่มธนาคารทั้งหมด ยังขยายตัวได้ดี คือ ขยายตัว 13.7% เทียบกับเวลาเดียวกันของปีก่อน และ 0.4% เทียบกับเดือนมิถุนายนและตั้งแต่ต้นปี ถึงปัจจุบันสินเชื่อทั้งระบบขยายตัวที่ 8%
แม้ในครึ่งปีหลังอัตราการปล่อยสินเชื่อและส่วนต่างดอกเบี้ย(nim)จะชะลอตัวลงบ้างจากภาวะการเมืองที่ยังวุ่นวายและไม่ลงตัวรวมทั้งการแย่งรักษาฐานเงินออมผ่านการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ระดับราคาหุ้นส่วนใหญ่ ปรับตัวลงไปลึกกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นซึ่งตรงนี้ถือว่ารับข่าวไปมากสำหรับพื้นฐานของอสังหาริมทรัพย์ประเภทสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง
หากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขึ้นหลังจากนี้อีกครั้งแล้วยืนทรงตัวไปถึงสิ้นปีก่อน แล้วในปีหน้าปรับตัวลงมา ก็มองว่าจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อบ้านรวมทั้งบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เอง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|