มือถือมีปุ่มเข้ากรุอนาคตต้องทัชสกรีน

มือถือมีปุ่มเข้ากรุอนาคตต้องทัชสกรีน

ผู้จัดการรายสัปดาห์(22 สิงหาคม 2551)

กลับสู่หน้าหลัก

*นับถอยหลังมือถือมีปุ่มถูกเก็บเข้ากรุ
*โลกอนาคตจะกลายเป็น "ทัชสกรีนโมบาย"
*มือถือเดินเกมออกโปรดักส์สร้างประสบการณ์
*เปิดรูปแบบใหม่แห่งหน้าจอสัมผัสประชันเต็มๆ

ณ วันนี้โทรศัพท์มือถือที่มีปุ่มกดกำลังจะกลายเป็นของโบราณที่พร้อมจะเก็บเข้ากรุ ไม่ต่างจากโทรศัพท์ระบบหมุนที่เคยใช้กันตามบ้าน เพราะโลกแห่งอนาคตจะกลายเป็น "ทัชสกรีนโมบาย" เฉกเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านอื่นๆ ที่กำลังเดินไปสู่โลกทัชสกรีนทั้งนั้น

"ก้าวต่อไปของมือถือจะไม่มีปุ่มกด"

เป็นคำกล่าวของ สิริ นีละวัฒนาศุข หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และว่าที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่เฉพาะมือถือจะก้าวไปสู่โลกของทัชสกรีน ส่วนโทรศัพท์มือถือก็จะกลายเป็นทัชสกรีนโมบาย

ทั้งนี้ซัมซุงมีการประเมินสถานการณ์ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าว่าทัชสกรีนโมบายจะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 200-300 ล้านเครื่องต่อปี และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

เมื่อทุกอย่างกำลังก้าวไปสู่โลกทัชสกรีน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมขณะนี้โทรศัพท์มือถือหลายค่ายจึงต่างเร่งพัฒนามือถือหน้าสัมผัสออกมาสร้างประสบการณ์การใช้งานให้เกิดขึ้นในตลาดที่ผู้บริโภคยุคใหม่มีความต้องการใช้มือถือที่แตกต่างจากอดีตที่ผ่านมา

ที่สำคัญปัจจัยที่ทำให้ค่ายมือถือต้องหันมาให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนกับการพัฒนาทัชสกรีนโมบาย เนื่องจากกระแสทัชสกรีนที่เกิดขึ้นกับ "ไอโฟน" ที่กลายเป็นกระแสที่ทำให้คนใช้โทรศัพท์มือถือต่างต้องการได้เป็นเจ้าของ เพื่อทดลองประสบการณ์ใหม่ที่ได้รับจากไอโฟน แม้แต่ในประเทศไทยเองไอโฟนก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงแม้จะไม่มีการขายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย แต่ก็สามารถหาซื้อได้ตามแหล่งค้ามือถือ หรือว่าจะเดินทางไปซื้อจากต่างประเทศ

รวมถึงตลาดพีดีเอโฟนที่มีหน้าจอทัชสกรีนแบบล้ำสมัย เป็นที่จับตามองเช่นกัน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัว HTC Touch Diamond มีการพัฒนาระบบหน้าจอสัมผัสแบบใหม่ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านต่างๆ ให้เครื่องมือสื่อสารชิ้นนี้เป็นที่ต้องการของผู้ที่ได้สัมผัส

นวัตกรรมใหม่ที่มาพร้อมกับ Touch Diamond คือการที่เอชทีซีได้สร้างนวัตกรรมที่ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ให้กับระบบจอสัมผัส ด้วยการนำเสนออินเตอร์เฟซแบบ 3 มิติ ภายใต้ชื่อ TouchFLO 3D ทำให้การค้นหารายชื่อ การส่งข้อความ รับส่งอีเมล จัดการภาพถ่าย เพลง ตรวจสอบสภาพอากาศ และอื่นๆ ทำผ่านทางภาพแอนิเมชั่น นอกจากนี้เอชทีซียังได้ใช้ระบบควบคุมจอสัมผัสแบบใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการใช้งานด้วย

HTC Touch Diamond ได้ปรับปรุงการเรียกดูหน้าเว็บสะดวกขึ้นด้วยเว็บเบราว์เซอร์พิเศษสำหรับโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ เพื่อให้การเรียกดูและควบคุมการใช้งานหน้าเว็บต่างๆ เป็นไปได้อย่างคล่องตัว ผู้ใช้สามารถย่อ ขยาย และเลื่อนหน้าเว็บซ้าย-ขวาได้สะดวกด้วยการใช้มือควบคุมเพียงข้างเดียว และสามารถแสดงผลข้อมูลให้เต็มหน้าจอได้โดยอัตโนมัติสำหรับข้อมูลที่พัฒนาขึ้น นอกจากนี้เวลาที่พลิกตัวเครื่องเป็นแนวนอน หน้าเว็บก็สามารถเปลี่ยนสถานะการแสดงผลปรับตามลักษณะการถือตัวเครื่องได้ด้วย

นั่นคือความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากค่ายที่ไม่ใช่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ แต่กับค่ายมือถือที่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาด และพยายามจะช่วงชิงความเป็นผู้นำทัชสกรีนโมบาย ต้องยกให้ซัมซุง ที่ประกาศชัดว่าต้องการเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่สู่ตลาดมือถือและต้องการเป็นผู้นำทัชสกรีนโมบายด้วย

ผลงานชิ้นโบแดงทัชสกรีนโมบายที่ซัมซุงจะมีการเปิดตัวขายสู่ตลาดคือซัมซุง ออมเนีย (i900) หลังจากที่มีการปูทางสร้างประสบการณ์หน้าจอสัมผัสกับโทรศัพท์มือถือในรุ่น F480 ที่ถือเป็นฟูลทัชสกรีนเช่นกัน

ซัมซุงออมเนีย เกิดขึ้นมาเพื่อพลิกโฉมหน้าใหม่ให้กับทัชโฟนในตลาดด้วยคุณสมบัติการใช้งานและลูกเล่นที่ครบครัน อย่างเทคโนโลยี TouchWiz UI ที่เป็นเอกสิทธิ์จากซัมซุงให้ผู้ใช้สามารถปรับการใช้งานบนหน้าจอสัมผัสได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายตามความต้องการของผู้ใช้

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการติดต่องานเพื่อธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมบาย 6.1 โปรเฟสชันนัล รวมทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนวินโดวส์โมบายเครื่องแรกที่รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอในระบบ DivX ที่ให้ภาพคมชัดระดับเดียวกับเครื่องเล่นดีวีดี

ซัมซุง ออมเนียยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาดใหญ่ถึง 8 กิกะไบต์ ทั้งยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ถึง 16 กิกะไบต์ พร้อมหน้าจอแสดงขนาดกว้าง 3.2 นิ้ว กล้องดิจิตอลแฟลช CMOS ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพเช่นเดียวกับกล้องดิจิตอลคอมแพกต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบโฟกัสอัตโนมัติ ระบบโฟกัสภาพใบหน้า และจับภาพรอยยิ้ม ฟีเจอร์ถ่ายภาพมุมกว้างอัตโนมัติ รวมถึงระบบนำทาง GPS และ Geo-tagging เครื่องเล่น MP3 และมีวิทยุ FM ในตัว สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งในระบบ 3G และ 3.5G การใช้งานผ่านหูฟังบลูทูธเวอร์ชั่น 2.0

แน่นอนว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ค่ายโทรศัพท์มือถือจะเริ่มพาเหรดทัชโฟนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีซัมซุงขยับก้าวก่อน ส่วนค่ายใหญ่เบอร์หนึ่งอย่างโนเกีย เตรียมที่จะเปิดตลาดทัชโฟนอย่างจริงจังเช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้น ตลาดทัชโฟนคงจะได้แข่งขันกันอย่างสนุกเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคที่กำลังคลั่งไคล้การใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอแทนการกดปุ่มแบบเดิมๆ แล้ว

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย