เทคโนโลยีได้กลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ที่มิอาจไม่มีไปแล้วในโลกของการสื่อสารอุปกรณ์เครื่องมือที่ไฮเทครุ่นแล้วรุ่นเล่าถูกทยอยตัวเข้ามาเพื่อสร้างความรวดเร็วฉับไวของข่าวสารข้อมูล
ยิ่งในแขนงแห่งบริการข่าวสารข้อมูลในระดับอินเตอร์เนชั่นแนลด้วยแล้ว ความถูกต้องแม่นยำและความรวดเร็วในการรับส่งข่าวสารเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญที่สุด
เทเลอเรทและรอยเตอร์เป็น 2 สำนักข่าวที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในเรื่องของการบริการข้อมูลข่าวสาร
โดยสถานภาพแล้วทั้ง 2 มีฐานะเป็นคู่แข่งทางการค้ากันมาตลอด
ข้อมูลของเทเลอเรท (ประเทศไทย) จะถูกส่งจากนิวยอร์กมาที่โตเกียว ฮ่องกง
และสิงคโปร์ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ในเอเชียโดยดาวเทียม แต่จากสิงคโปร์มากรุงเทพนั้นจะส่งได้
2 ทางคือโดยดาวเทียมและเคเบิลใต้น้ำ
และจากสำนักงานเทเลอเรทที่ตึกชาญอิสสระ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังลูกค้าโดย 2
วิธีคือ ผ่านคู่สายโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์ (Leased line) และดาต้าเนท
(DATANET) และมีส่วนที่ยังเป็นโครงการในอนาคตอยู่ก็คือการส่งผ่านทางดาวเทียม
ส่วนทางบริการของรอยเตอร์ ข้อมูลจะถูกส่งผ่านจากนิวยอร์ก โตเกียว มาสิงคโปร์และกรุงเทพฯ
โดยใช้ดาวเทียมเช่นเดียวกัน เพียงแต่การส่งผ่านข้อมูลจากสำนักงานที่อาคารมณียา
ถนนเพลินจิตไปยังลูกค้าจะผ่านทางสายโทรศัพท์เพียงวิธีเดียวเท่านั้น
จุดที่น่าสนใจของการแข่งขันในเรื่องเทคนิคระบบการรับส่งข้อมูลของทั้ง 2
บริษัทก็คือระบบการรับข้อมูลของลูกค้า
เพราะลูกค้าของทั้งสองบริษัทล้วนเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
ไม่ว่าจะเป็นแบงก์ 28 แห่ง บริษัทการค้า โดยมีบริษัทค้าพืชผลทางการเกษตร
กับบริษัทน้ำมันอย่างไทยออยล์ กับคาลเท็กซ์รวมอยู่ด้วย
ดังนั้นข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
อัตราดอกเบี้ย สภาพตลาดหุ้น ตลาดทอง พลังงาน ฯลฯ จะต้องถูกนำเสนอในลักษณะวินาทีต่อวินาที
(Real-time) และที่มากไปกว่านั้นก็คือเครื่องรับ (terminal) หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้ก็จะต้องสามารถทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนหยุดไม่ได้
ทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ เทเลอเรท พูดถึงเกณฑ์การตัดสินใจของลูกค้าในปัจจุบันว่าลูกค้าจะพิจารณาถึงตัวข้อมูลเป็นอันดับแรก
แล้วก็จะมาดูในเรื่องของระบบว่าสามารถรองรับงานได้มีประสิทธิภาพเพียงใด มีความยุ่งยากในการใช้งานหรือไม่
และท้ายสุดก็คือมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดหากจะมีการพัฒนาระบบในอนาคต
นี่เป็นเหตุผลที่ว่านับแต่นี้ไปบริษัทบริการข้อมูล มิอาจให้ความสำคัญแก่ตัวข้อมูลเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
เพราะเทคโนโลยีได้กลายเป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่งในการตัดสินใจของลูกค้า แนวรุกด้านเทคโนโลยีชั้นสูงในการให้บริการจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้น้ำหนักความสำคัญ
ทั้งเทเลอเรทและรอยเตอร์ต่างยอมรับในข้อนี้
เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างถึงความมีประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ว่าได้มีการพัฒนา
(up-grade) อยู่ตลอดเวลา
ทั้งสองค่ายเรียกเครื่องรับหรือฮาร์ดแวร์ที่ลูกค้าใช้ดูข้อมูลเป็นโปรดักส์ชื่อต่าง
ๆ โดยแต่ละโปรดักส์จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเฉพาะตัว (Features)
อย่างที่ค่ายเทเลอเรทโปรดักส์หลัก ๆ จะได้แก่ หนึ่ง เบสิก เทเลอเรท (Basic
Telerate) ซึ่งจะเสนอข้อมูลในรูปของตัวอักษรล้วน ๆ สองเทเลอแทรก (Teletrac)
จะเสนอข้อมูลในรูปของกราฟ สาม แมทริกซ์ (Matrix) สามารถแสดงข้อมูลได้ทั้งรูปของตัวอักษรล้วน
ๆ และเป็นกราฟ สี่ แทกทิเชียน (Tactician) เป็นการวิเคราะห์ข่าวแต่เพียงอย่างเดียว
และล่าสุดก็คือเอดับบลิวเอส (AWS:Advance Workstation System) ซึ่งรวมเอาคุณสมบัติที่เด่น
ๆ ของโปรดักส์ทุกตัวไว้เข้าด้วยกัน
นอกจากนั้นหากลูกค้าเป็นลูกค้าของทั้งรอยเตอร์และเทเลอเรทในเวลาเดียวกันก็สามารถใช้เอดับบลิวเอสดึง
(feed) เอาข้อมูลของรอยเตอร์ให้มาปรากฏบนจอเดียวกันได้
ส่วนโปรดักส์ทางค่ายรอยเตอร์ ก็มีคุณสมบัติที่ไม่ต่างกันมากนัก เริ่มจากเออาร์ที
(Advance Reuter) ซึ่งแสดงข้อมูลในรูปของตัวอักษรล้วน ๆ ที่ต่อมาได้มีการพัฒนาให้สามารถแสดงข้อมูลได้เพิ่มเติมในรูปของกราฟ
การวิเคราะห์ข้อมูลโดยลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบได้ตามความต้องการ
อาร์ที (Reuters) เป็นระบบที่ใช้ดึงข้อมูลของรอยเตอร์ให้ไปปรากฏบนเครื่องรับที่ลูกค้าต้องการ,
ดีลลิง (Dealing)เป็นโปรดักส์ที่ใช้สำหรับแบงก์ในต่างประเทศโดยตรง และล่าสุดบีอาร์ที
(Boardcast Reuters) จะเป็นโปรดักส์ที่ใช้รับข้อมูลจากดาวเทียมเท่านั้น
โปรดักส์ดังกล่าวนี้ ทั้ง 2 ค่ายต่างก็ให้ความมั่นใจในประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอีกฝ่าย
แต่หากมองด้วยสายตาที่เป็นคนนอกแล้ว จะเห็นได้ว่าโปรดักส์ล่าสุดของเทเลอเรทจะมีประสิทธิภาพที่สูงมาก
ซึ่งจุดนี้ฝ่ายเทคนิคของรอยเตอร์เองก็ยอมรับแต่ทั้งนิ้มิได้หมายความว่ารอยเตอร์จะไม่มีในสิ่งที่เทเลอเรทมี
เพียงแต่ควอนตัม (Quantum) ที่รอยเตอร์มีเป็นระบบที่มีคุณสมบัติมากมายจนกลายเป็นระบบที่ใหญ่เกินไป
จึงไม่ถูกสั่งเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามี 2 สัญญาการซื้อขายที่ไม่ควรมองข้ามในการนำมาประกอบการพิจารณาถึงขีดระดับความสำคัญแห่งเทคโนโลยีการสื่อสารในวันนี้ก็คือ
หนึ่ง เมื่อกลางปี 34 แบงก์ชาติซื้อระบบเอดับบลิวเอสจากเทเลอเรท เพื่อนำมาใช้ในห้องค้าเงินตราต่างประเทศ
(Trading Room) และ สอง ได้มีการซื้อขายระบบเดียวกันนี้อีกครั้งเมื่อประมาณต้นปี
35 โดย แบงก์กสิกรไทย เพื่อนำไปใช้ในงานลักษณะเดียวกัน
ถึงแม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตัดสินใจซื้อด้วยเหตุผลตัวเลขของราคาที่ถูก
และแบงก์ชาติไม่ต้องการให้รอยเตอร์เป็นเจ้าที่ผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว!
ก็ยังมีภาพของการทดลองใช้งานระบบเอดับบลิวเอสของเทเลอเรทตามแบงก์ และกลุ่มบริษัทการค้าหลายแห่งจนมีข่าวคราวว่าจะมีการติดต่อซื้อขายโปรดักส์ตัวเดียวกันนี้ตามมาอีกโดยแบงก์ใหญ่
ๆ อีกหลายแบงก์
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าประสิทธิภาพของเอดับบลิวเอสจะเป็นจริงตามคำบอกเล่าของเทเลอเรทหรือไม่
ไม่ว่าแบงก์ชาติหรือกสิกรไทยจะซื้อระบบดังกล่าวด้วยเห็นถึงประสิทธิภาพดังกล่าวจริง
หรือด้วยเหตุผลของตัวเลขราคาก็ตาม
การซื้อเทคโนโลยีที่เป็นการลงทุนในระดับ 10 ล้านขึ้นไปเพื่อใช้งานในหน่วยงานหน่วยหนึ่งที่ฝ่ายผู้ลงทุนเห็นว่าคุ้มแล้วสำหรับการปูทาง
เพื่อไปสู่แนวนโยบายระดับชาติที่ว่าด้วยการเป็นศูนย์กลางทางการเงินสำหรับตลาดอินโดจีน
ขณะเดียวกันการลงทุนของสถาบันทางการเงินแห่งชาติอย่างแบงก์ชาติ หรือแบงก์พาณิชย์ชั้นนำอย่างแบงก์กสิกร
ได้เป็นการสร้างฐานเครดิตที่มั่นคงทางการตลาดให้แก่เอดับบลิวเอส และเทเลอเรทแล้ว
ในประเด็นเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของรอยเตอร์ได้ให้ความเห็นว่า เทคโนโลยีนั้นเป็นสิ่งที่ตามกันทันอยู่แล้ว
ใช้เวลาไม่กี่ปีก็ไล่กันทัน โดยที่ผ่านมาเทเลอเรทจะไล่ตามรอยเตอร์มาตลอดประมาณปีสองปี
จะมีระบบบเอดับบลิวเอสนี้เท่านั้นที่เทเลอเรทมาแรงและไปไกลกว่ารอยเตอร์ แต่มองเห็นว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสื่อสารยังคงเป็นเรื่องของคุณภาพในตัวข้อมูลมากกว่า
เกรแฮม สเป็นเซอร์ผู้จัดการประจำประเทศไทย พม่า และอินโดจีนได้ให้ความเห็นว่าจุดเด่นที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกบริการของรอยเตอร์ก็ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องรวดเร็วอันเนื่องมาจากเครื่อข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก
และถึงแม้ว่าแบงก์ชาติ หรือกสิกรจะซื้อโปรดักส์ทางเทเลอเรทก็ตาม ข้อมูลของรอยเตอร์ก็ยังเป็นบริการที่ทั้งแบงก์ชาติ
กสิกรหรือแบงก์ใด ๆ ต้องมี
บริษัทเทเลอเรท (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของดาวโจนส์ โกบอล
อินฟอร์เมชั่น (Dow Jones Global Information) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่พยายามพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องในธุรกิจทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
มีสาขาใน 150 ประเทศทั่วโลก โดยเทเลอเรทมีชื่อเสียงในข้อมูลด้านอัตราเงินตราระหว่างประเทศและตลาดทุน
(Currency & Capital)
ส่วนรอยเตอร์มีบริษัทแม่ชื่อเดียวกันอยู่ที่ลอนดอน มีสาขา 74 แห่งทั่วโลก
รอยเตอร์ทำข่าวทุกประเภท แต่เน้นหนักไปที่ข่าวเศรษฐกิจและรอยเตอร์ได้รับการยอมรับมากในสายข่าวธุรกิจการเงินทุกประเภท
(Business & Financial)
มีข้อมูลเสริมมาเล็ก ๆ ก็คือ ทั้งเทเลอเรทและรอยเตอร์ต่างมีบริษัทสำนักข่าวในเครือซึ่งอยู่วงการเดียวกันคือ
เทเลอเรทจะมีสำนักข่าวเอพี และรอยเตอร์จะมีสำนักข่าววิสนิวส์
โดยรอยเตอร์จะมีนักข่าวประจำอยู่ในแต่ละสาขา และรับข้อมูลจากวิสนิวส์ ในขณะที่เทเลอเรทจะไม่มีนักข่าวประจำในทุกสาขา
(เช่นประเทศไทย) แต่อาศัยการรับข้อมูลและข่าวสารจากสำนักงานใหญ่ในแต่ละแห่งและจากสำนักข่าวเอพีด้วย