|
ลดกำลังผลิตนมเหตุต้นทุนพุ่งซีพีปลุกนมเปรี้ยว-คัพโยเกิร์ต
ผู้จัดการรายวัน(5 สิงหาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ซีพี-เมจิ ชี้ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการผลิตนม หวั่นต้นทุนพุ่ง กำไรหด หลังน้ำนมดิบปรับราคาขึ้น 1 ส.ค. แต่กรมการค้าภายในยังไม่ไฟเขียว ครึ่งปีหลังอัดฉีด 50 ล้านบาท ปลุกตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม – คัพ โยเกิร์ต ปั้นสินค้าใหม่”เมจิ บิวติ มิราเกิล” ชูกลยุทธ์สร้างความต่างอิงเพื่อสุขภาพและความงาม หวังเป็นธุรกิจเรือธงขาที่ 2
นายไพศาล จงบัญญัติเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม ซีพี-เมจิ เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้เป็นตัวแทนสมาคมอุตสาหกรรมนมไทย เข้ายื่นหนังสือต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับราคานมพร้อมดื่มพาสเจอไรซ์ขึ้น 10-15% เนื่องจากน้ำนมดิบปรับราคาเพิ่มขึ้นจาก 14.50 บาท เป็น 18 บาทต่อกิโลกรัมในวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา หรือปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% แต่หลังจากยื่นไปขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีใหม่ อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ ผู้ประกอบการเริ่มชะลอการผลิตนมป้อนสู่ตลาดลดลง
สำหรับการดำเนินการตลาดซีพี-เมจิในช่วงครึ่งปีหลัง ทุ่มงบ 50 ล้านบาท รุกตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มและคัพโยเกิร์ต ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ “เมจิ บิวติ มิราเกิล” นมเปรี้ยวพร้อมดื่มไม่มีไขมันและคัพโยเกิร์ต รสน้ำผึ้งและแอปเปิลไซเดอร์วีเนการ์ ซีรี่ส์ 2 ต่อจากเมจิ บิวติ ดีโทซี่ นมเปรี้ยวพร้อมดื่มไม่มีไขมันผสมน้ำผึ้งและมะนาว ซึ่งเป็นซีรี่ส์แรก เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงระดับบีบวกที่ห่วงใยสุขภาพและความงามเป็นหลัก เนื่องจากการศึกษาพบว่า นอกจากผู้หญิงที่ต้องการกินนมเปรี้ยวและคัพโยเกิร์ตเพื่อการขับถ่ายแล้ว ยังต้องการด้านความสวยและความงาม
“เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองชิมในวงกว้าง บริษัทจึงได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาด 100 มล. ราคา 7 บาท ซึ่งเป็นราคาที่วางเท่ากับคู่แข่ง โดยวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และกำลังขยายช่องทางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด และซูเปอร์มาร์เก็ต”
นายไพศาล กล่าวว่า การเปิดตัวสินค้า 2 ซีรี่ส์ บริษัทต้องการสร้างความแตกต่างจากสินค้าของคู่แข่งอย่างดัชมิลล์ที่มีความแข็งแกร่ง ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าภายใต้เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มตลาดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามที่กำลังมาแรง และจากการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างและครอบคลุม มากขึ้น โดยบริษัทต้องการให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสินค้าเรือธงอีกหนึ่งตัวรองจากกลุ่มนมพาสเจอไรซ์
ปัจจุบันซีพี – เมจิเป็นผู้นำตลาดนมพาสเจอไรซ์ ครองส่วนแบ่งเกิน 50% จากมูลค่า 2,500 ล้านบาท ส่วนคัพ โยเกิร์ต มีส่วนแบ่งกว่า 10% จากมูลค่า 2,000 ล้านบาท และนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม 7% จากมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 3 หรือ 4 ของตลาด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|