โบรกฝรั่งเห็นพ้อง การเมืองไทยปัจจัยหลักทำหุ้นเสียสูญ


ผู้จัดการรายสัปดาห์(4 สิงหาคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

รายงานของ วอล์ล สตรีท เจอณ์นัล ชี้ว่าปัญหาการเมืองที่กำลังเลวร้ายลงในประเทศไทยอาจเป็นสัญญาณซื้อสำหรับตลาดหุ้นไทยหากคุณเป็นนักลงทุนที่สามารถอดทนต่อความเสี่ยงอันน่าตกใจของประเทศได้

"หุ้นไทยเป็นหุ้นที่ถูกที่สุดในเอเชียเมื่อวัดจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ(พี/อี) และเศรษฐกิจของประเทศกำลังเป็นเศรษฐกิจเดียวในภูมิภาคที่จะโตในปีนี้เร็วกว่าปีที่แล้ว"

บทวิจัยของเจ.พี.มอร์แกนในเดือนนี้ระบุว่า ในขณะที่ราคาหุ้นไม่ได้ลดลงสู่ระดับต่ำมากดัชนีตลาดหุ้นไทยซึ่งปรับตัวลง 23% ในปีนี้ได้เข้าสู่"โซนมูลค่า" นักลงทุนผู้กล้าต้องเล็งไปยังหุ้นที่สามารถประคับประคองรายได้อันแข็งแกร่งเอาไว้ได้ ไม่ว่าความวุ่นวายทางการเมืองจะเป็นอย่างไร

นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า บริษัทพลังงานอย่างเช่น ปตท.สผ.เป็นการลงทุนที่เป็นไปได้ในขณะที่บางคนชอบกลุ่มโทรคมนาคม ซึ่งแอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส เป็นหุ้นยอดนิยมในกลุ่มนี้

ซิตี้กรุ๊ป มองว่า แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส สามารถรักษาการเติบโตของรายได้ในช่วงที่เกิดปัญหาเอาไว้ได้ในอดีต และกระแสเงินสดของบริษัทแข็งแกร่ง และในขณะที่มีการแข่งขันมากขึ้นในภาคนี้ ความต้องการของลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ

ซิตี้กรุ๊ป คาดการณ์ว่า หุ้นเอไอเอสจะแตะ 110 บาท ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมาหุ้นเอไอเอสปรับตัวลง 9.3%

อย่างไรก็ตาม ความบาดหมางทางการเมืองของไทยยังคงคุกรุ่น การกระโดดเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นยังคงเป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต้องระวัง

บางประเทศสามารถฝ่าฝันความเสี่ยงทางการเมืองได้ง่ายกว่าประเทศอื่น ตลาดหุ้นเกาหลีใต้กำลังซึมซับความอ่อนแอของรัฐบาลใหม่ได้ดีกว่าที่นักวิชาการคาดไว้

ด้านมาเลเซียก็กำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหญ่สุดในรอบทศวรรษเมื่อตำรวจสอบสวนการอันวาร์ อิบราฮิม นัการเมืองฝ่ายฝ้านเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศแต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และการปรับตัวลงของหุ้นในกัวลาลัมเปอร์อันเนื่องมาจากปัญหาในภาคการเงินสหรัฐ และปัญหาของสหรัฐที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ก็สร้างปัญหาเพียงเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเมืองในประเทศไทยเป็นแบบแผนที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ในสายตาของคนไทยหลายคน มันไม่มีอะไรนอกเสียจากเป็นการแข่งขันกันระหว่างสองแนวคิดที่แตกต่างกันซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตของประเทศนี้ว่าจะเป็นอย่างไร

หลังจากที่มีการประท้วงหลายๆชุดบนท้องถนน ขณะนี้สงครามกำลังย้ายไปยังศาลต่างๆซึ่งศาลอาจตัดสินยุบพรรคที่สนับสนุนโดยทักษิณด้วยข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง พรรคของทักษิณเองก็ถูกยุบภายใต้ภาวะการณ์แบบเดียวกันหลังการปฏิวัติเมื่อปี 2549 และในขณะนี้ทักษิณกำลังถูกไต่สวนในข้อหาคอร์รัปชั่นหลายข้อหา

สถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะควบคุมได้ยากสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนและบริษัทวาณิชธนกิจ

ในเดือนนี้เอชเอสบีซี โกลบัล รีเสิร์ช ระบุว่า ความเสี่ยงทางการเมืองมีมากจนทำให้บริษัทต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อประเทศไทย โดยในขณะนี้ได้แนะนำให้นักลงทุน"ลดน้ำหนัก"ในตลาด จากที่เคยแนะนำให้"เพิ่มน้ำหนัก"การลงทุน

เอชเอสบีซี ระบุว่า "จำเป็นต้องแก้ไขรอยร้าวพื้นฐานในการเมืองและสังคมไทยเสียก่อนที่จะไปถึงทางตัน

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโอกาสที่มีศักยภาพสำหรับนักลงทุนที่กล้าหาญ

ทั้งนี้รัฐบาลไทยประมาณการว่าเศรษฐกิจจะโต 5%-6% ในปีนี้ เนื่องจากกำลังจะมีโครงการสาธารณูปโภคหลายๆโครงการที่ชะลอไว้ จากที่โต 4.8% ในปีที่แล้ว

ในทางกลับกัน ฟิลิปปินส์คาดว่า เศรษฐกิจจะโต 5.6%-6.6% ในปีนี้ ลดลงจาก 7.4%ในปีที่แล้ว ส่วนเวียดนามเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ลดเป้าหมายการเติบโตเนื่องจากพยายามที่จะไปเน้นการปราบปรามเงินเฟ้อแทน

รายงานของ ศรียัน ปิเติร์ซ นักวิเคราะห์หุ้นเจ.พี.มอร์แกนระบุว่า กลเม็ดที่จะต้องทำในสถานการณ์เศรษฐกิจกำลังดี คือต้องค้นหาหุ้นที่รายได้ฟื้นตัวจากการดีดตัวของเงินเฟ้อและปัญหาการเมืองได้ดีที่สุด

นักวิเคราะห์เจ.พี.มอร์แกน กล่าวว่า หุ้นค้าปลีกที่มีราคาถูก อย่างเช่น สยามแมคโครอาจมียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ซื้อที่อยู่ในเมืองจะเลิกซื้อตามห้างสรรพสินค้าหรูๆมาซื้อสินค้าพื้นฐานมากขึ้น ในขณะที่ นักช้อปในชนบทจะซื้อสินค้ามากขึ้นเพราะราคาสินค้าเกษตรราคาเพิ่มขึ้น

เจ.พี.มอร์แกนยังคาดว่า บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม อาจจะมีรายได้ที่แข็งแกร่ง ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ซีมิโก มองว่าบริษัทที่บริหารนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีศักยภาพ เนื่องจากผู้ผลิตข้ามชาติเริ่มมองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกเหนือจากจีนเพื่อตั้งเนื่องจากค่าแรงในจีนและต้นทุนที่ดินสูงขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.