เจ้าหนี้ทีพีไอโหวตให้คลังเป็นผู้บริหาร แผนฟื้นฟูฯ รายใหม่ด้วยคะแนนท่วมท้น 93.26%
หลังเจ้าหนี้ต่างชาติ "IFC-KfW" เล่นแง่ งดออกเสียง อ้างไม่พอใจกระบวนการศาลไทย
แถมขู่จะยื่นอุทธรณ์ ศาลฎีกา ด้าน "บิ๊กหมง" เชิญ "ประชัย" หารือวันนี้ (8 ก.ค.)
โดยจะขอให้ถอนตัวจากทีพีไอ แต่ฝ่ายหลังยืนยัน รั้งเก้าอี้ CEO บริษัทที่สร้างมากับมือ
ชี้ผู้บริหารแผนฯ ปลดไม่ได้ พร้อมร่วมประท้วงกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับที่สนามหลวง
9 ก.ค.
วานนี้ (7 ก.ค.) ที่ประชุมเจ้าหนี้บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน)
(ทีพีไอ) โหวตเลือกกระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู กิจการทีพีไอรายใหม่ ด้วยคะแนนเสียง
93.26% คิดเป็นมูลหนี้รวม 61,441 ล้านบาท
เจ้าหนี้ลงมติไม่เลือกกระทรวงการคลัง 4 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 4,441 ล้านบาท และงดออกเสียง
15 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 28,131 ล้านบาท ซึ่งการงดออกเสียงของเจ้าหนี้ ไม่คิดเป็นคะแนนโหวต
เลือกผู้บริหารแผนฯ
ทั้งนี้ เจ้าหนี้ต่างชาติรายใหญ่ ซึ่งเป็น คณะกรรมการ เจ้าหนี้ทีพีไอ งดออกเสียง
ลงมติดังกล่าว คือบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ในเครือธนาคารโลก และเครดิตตันสตัล
เฟอร์ วีเดอร์ราฟบัว (KfW) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเยอรมนี
IFC เตรียมยื่นฎีกา
นายคาร์ลอส แทน ตัวแทน IFC ประจำประเทศไทย กล่าวถึงเหตุผลที่งดออกเสียงเลือก
กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนฯ ว่า เนื่องจาก ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการพิจารณาศาลล้มละลายกลางของไทย
หลังจากมีคำสั่งไม่รับบริษัท ผู้บริหารแผนไทย จำกัด เป็นผู้บริหารแผนฯ ทีพีไอรายใหม่
ตามมติที่ประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
แม้วไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลล้มละลายกลาง แต่ IFC ก็ยอมรับตัวแทนกระทรวง
การคลังที่ได้รับแต่งตั้งทั้ง 5 คน ซึ่งพร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงการคลัง
เขาแนะว่า สิ่งแรกที่ตัวแทนคลังควรเร่งดำเนินการคือ การทำให้ธุรกิจทีพีไอสามารถเดินหน้าต่อไปได้
โดยไม่ติดขัดหรือมีใครขัดขวาง ขณะเดียวกัน ได้ที่ปรึกษาการเงินอิสระที่เป็นมือ
อาชีพ ศึกษาในสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งหากถามว่า เขาเห็นด้วยกับการแก้ไขแผนฟื้นฟูฯ คงตอบไม่ได้
เพราะต้องรอดูว่า จะแก้ไขหรือปรับปรุงอะไรบ้าง
ส่วนกรณีให้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนกิจการ ทีพีไอ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คงต้องพิจารณาอีกครั้งว่า
จะปล่อยสินเชื่อหรือไม่ ส่วนการยื่นฟ้อง เรียกชำระหนี้ค้ำประกันจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ 319 ล้าน ดอลลาร์ ยังต้องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป
เพราะ ถือเป็นหนี้สินส่วนตัว
"หลังการแต่งตั้งคลังเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนฯ ครั้งนี้ เชื่อว่าคงมีคนขัดขวางน้อยลง
ส่วน ผลงานของอีพีแอล (เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนอนเอร์ส) ถือว่าทำดีที่สุด" เขาอ้าง
ด้านตัวแทนจาก KfW กล่าวว่า ผลคะแนน โหวตเลือกกระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนฯ
ครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า เจ้าหนี้เชื่อมั่นในกระทรวงการคลังของไทย คาดหวังว่าคลังจะบริหารแผนฯ
ทีพีไอให้ลุล่วงด้วยดี ภายใต้สัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าหนี้ทั้งหลาย
ประชัยร่วมค้าน กม.ขายชาติ
นายประชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ เปิดเผยหลังประชุมเจ้าหนี้ฯ ว่า ขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความเป็นธรรมกรณีนี้
แต่จะขอบคุณมากกว่านี้ ถ้ารัฐบาลแก้กฎหมาย 11 ฉบับ เพราะเป็นกฎหมายขายชาติ ซึ่งวันที่
9 ก.ค.นี้ เขาจะร่วมประชุมคัดค้านกฎหมายขายชาติที่บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีนายอัมรินทร์
คอมันตร์ เป็นแกนนำ
"ที่ผ่านมา ถือว่ารัฐบาลได้ทำดีที่สุดแล้ว ภายใต้กฎหมายล้มละลายฉบับนี้ หากรัฐคิดจะช่วยเหลือประชาชน
ก็ควรออกพระราชกำหนดยกเลิกกฎหมายดังกล่าว เพราะกฎหมายฉบับนี้ บิดเบือนจากต้นฉบับหากจะคัดลอกจากกฎหมาย
ของสหรัฐฯก็ควรลอกเลียนแบบมาให้หมด"
ยังเป็น CEO
นายประชัยกล่าวว่า บทบาทของเขาในทีพีไอ นับจากนี้ คงขึ้นกับผู้บริหารแผนรายใหม่
แต่เขายังคงอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ทีพีไอต่อไป ซึ่งผู้บริหารแผนฯ
ไม่มีสิทธิแต่งตั้งบุคคลใดรับตำแหน่ง CEO ทีพีไอ เขาในฐานะผู้บริหารลูกหนี้ จะทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารแผนของทีมจากระทรวงการคลัง
ต่อไป
"การแต่งตั้งนายพละ (สุขเวช) จะเข้ามาเป็น CEO เชื่อว่าคงเข้าใจผิด เพราะไม่ได้จบกฎหมาย
แต่เป็นวิศวกร ส่วนผมศึกษากฎหมายมาเป็นอย่างดี เพราะคลุกคลีมานานถึง 3 ปี แต่เรายินดี
ที่จะให้ความร่วมมือผู้บริหารแผนฯคนใหม่" เขากล่าว
นายธัชชัย ศุภผลศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่
กล่าวว่าแบงก์กรุงเทพลงมติเลือกกระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนฯ มั่นใจว่าแผนปรับโครงสร้างหนี้ทีพีไอ
จะเดินหน้าต่อไปได้ โดยกระทรวงการคลังมีสิทธิแต่งตั้งหรือโยกย้าย ผู้บริหารทีพีไอ
ทั้งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน
(CFO)
ที่ผ่านมา ตัวแทนกระทรวงการคลังยืนยันว่า จะไม่มีตระกูลเลี่ยวไพรัตน์เป็นผู้บริหารทีพีไอ
บิ๊กหมงเชิญ "ประชัย" หารือวันนี้
พลเอกมงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย (KTB) 1 ใน 5 ตัวแทน คลังบริหารแผนฯ
ทีพีไอรายใหม่ กล่าวว่าวันนี้ (8 ก.ค.) เขาจะเชิญนายประชัยหารือที่กระทรวง การคลัง
โดยจะพูดคุยว่า คณะผู้บริหารใหม่นี้ จะทำอะไรบ้างในบริษัท ซึ่งการหารือครั้งนี้
รัฐมนตรีคลัง ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ จะเป็นประธานการหารือ
การทำหน้าที่ของทีมผู้บริหารแผนฯ จะมีจุดยืนเป็นกลางที่สุด ซึ่งทำเพื่อประโยชน์เจ้าหนี้
ลูกหนี้ พนักงานทีพีไอ 7,000 คน และเพื่อประเทศ เขายืนยันว่าการเป็นผู้บริหารแผนฯ
จะไม่ใช้เงินกู้ ธนาคารกรุงไทยเป็นกรณีพิเศษ แต่หากธนาคารกรุงไทยจะให้กู้เงิน
ก็ต้องทำเหมือนลูกค้ารายอื่น ของธนาคาร
"หลังจากศาลมีคำสั่งแต่งตั้งแล้ว ทางคณะ กรรมการผู้บริหารแผนฯ ก็จะเชิญคุณประชัยและฝ่ายลูกหนี้
มาที่กระทรวงการคลัง ก็จะเล่าว่า จะเข้าไปทำอะไรบ้าง และก็จะขอให้คุณประชัยถอนตัว
แต่หากจะดำเนินการอย่างไร ก็คงต้อง รอคำสั่งของศาลในวันที่ 11 ก.ค.นี้ ว่าจะให้อำนาจ
ผู้บริหารฯ ชุดนี้แค่ไหน" พลเอกมงคลกล่าว
หลังจากศาลมีคำสั่งแต่งตั้งเป็นทางการ จะหาบริษัทตรวจสอบฐานะการเงินทีพีไอ และจะปรับแผนฟื้นฟูกิจการฯ
ให้สอดคล้อง โดยเฉพาะการขอลดหนี้ ต้องขอดูรายละเอียดก่อน การทำดิวดิลิเจ้นท์ จะไม่เกิน
90 วัน
สำหรับตำแหน่งผู้บริหารทั้ง 5 คน ตัวแทน คลัง เป็นไปตามที่กล่าวในที่ประชุมครั้งก่อน
ว่า นายพละ สุขเวช เป็น CEO และนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา เป็น CFO
การเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPI วานนี้ ปรับตัว เพิ่มถึง 13 บาท มีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ
จนแตะสูงสุดที่ 13.60 บาทเมื่อเวลา 10.16 น. ก่อนมีแรง เทขายทำกำไรจนราคาปรับตัวลดลงแตะต่ำสุด
10.60 บาท ก่อนมีแรงซื้อดันราคาหุ้น TPI ปิดตลาดฯ 11.10 บาท ลดลง 1.30 บาท ลดลง
10.48% มูลค่าซื้อขาย 2,085.71 ล้านบาท