หน้าตาเอ็กซิมแบงก์เพื่อนบ้านอาเซียน

โดย สมชัย วงศาภาคย์
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

ปี 2533 ไทยมียอดการส่งออกและนำเข้าประมาณ 1.5 ล้านล้านบาทหรือประมาณกว่า 50% ของรายได้ประชาชาติ สิ่งนี้บ่งบอกถึงความสำคัญของภาคการผลิตที่สัมพันธ์กับตลาดโลกว่า มีความหมายต่อการสร้างความเจริญเติบโตของรายได้ประชาชาติอย่างมากในปัจจุบัน

เป้าหมายของสิ้นแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 7 อีก 5 ปีข้างหน้า ก็ได้วางความสำคัญของภาคการผลิตที่สัมพันธ์กับตลาดโลกสูงยิ่งขึ้นอีก โดยให้การผลิตเพื่อส่งออกและนำเข้ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของรายได้ประชาชาติ

และกลยุทธในการสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายอยู่ที่การกระตุ้นและเพิ่มศักยภาพในการส่งออกให้มากขึ้น

การผลิตเพื่อส่งออกจากนี้ไป จึงเป็นหัวใจของการผลิตเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางรายได้ประชาชาติที่ทุกประเทศทั่วโลกยึดถือเป็นกลยุทธหลัก

ในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มองเห็นจุดนี้มานานแล้ว สิ่งนี้คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์มีกลไกทางการเงินเพื่อการสนับสนุนการส่งออกที่ก้าวหน้ากว่าไทย

"เรามีคน มีเทคโนโลยี แต่ไม่มีไฟแนนซ์ซิ่ง" บัณฑิต นิจถาวร พูดถึงเหตุผลที่ไทยต้องมีเอ็กซิมแบงก์เหมือนเพื่อนบ้านอาเซียน

สิงคโปร์ตั้งเอ็กซิมแบงก์มาตั้งแต่ปี 1975 หรือเมื่อ 16 ปีก่อน เรียกว่า บริษัทประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออก (สิงคโปร์) จำกัด รัฐบาลและสถาบันการเงินเอกชนร่วมกันถือหุ้นฝ่ายละ 50% ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนประมาณ 96 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

บริษัทนี้ทำธุรกิจเน้นหนักการให้บริการด้านการรับประกัน และค้ำประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกที่คุ้มครองความเสี่ยงทั้งที่มาจากการค้าและไม่ใช่การค้า โดยมีระยะเวลาคุ้มครองระยะสั้นไม่น้อยกว่า 6 เดือน และระยะยาวมากกว่า 2 ปี

การค้ำประกันความเสี่ยงทั้งหมดต่อแบงก์พาณิชย์ ทางบริษัทรับหมด 100%

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังให้บริการรับซื้อลดตั๋วลูกหนี้การค้าเพื่อส่งออกในวงเงิน 70-90% ของมูลค่าหน้าตั๋ว โดยคิดค่าธรรมเนียมระหว่าง 0.75 - 2.5%

ส่วนเอ็กซิมแบงก์ของอินโดนีเซียชื่อสถาบันจะเหมือนของสิงคโปร์ คือ เป็นบริษัทประกันการส่งออกเป็นของรัฐบาล 100% จุดที่ต่างกับสิงคโปร์ก็ตรงที่

หนึ่ง - ด้านธุรกิจการรับประกันความเสี่ยงจากการส่งออกจะคุ้มครองในวงเงิน 85% และอีก 15% เป็นภาระของผู้ส่งออกเอง ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ระหว่าง 0.2 - 0.4% ของมูลค่าหน้าตั๋ว

สอง - ด้านสินเชื่อเพื่อส่งออกจะคุมถึงน้ำมันและก๊าซและสินค้าทุกชนิด โดยมีเงื่อนไขว่า สินเชื่อเพื่อการส่งออกต้องทำประกันภัยส่งออกก่อน และต้องเป็น PRE - SHIPMENT เท่านั้น

สำหรับมาเลเซีย ซึ่งก่อตั้งเอ็กซิมแบงก์มาตั้งแต่ 1977 หรือ 14 ปีก่อน ปัจจุบันเป็นของรัฐบาลถือหุ้นในนามธนาคารเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของมาเลเซีย จะแตกต่างในเรื่องวิธีการดำเนินงานจากเอ็กซิมแบงก์สิงคโปร์และอินโดนีเซียมาก

หนึ่ง - ด้านประกันภัยส่งออกดำเนินงานโดยบริษัทประกันภัยสินเชื่อเพื่อการส่งออกมาเลเซีย บริษัทนี้จะคุ้มครองความเสี่ยงกรณีผู้ส่งออกได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่าสินค้า หรือผู้ซื้อยกเลิกสัญญาซื้อขาย ในกรณีเป็นสินค้าทุนจะครอบคลุมความเสียหายเฉพาะในกรณีที่สินค้าทุนนั้นผลิตหรือจัดหาโดยผู้ส่งออกชาวมาเลย์ไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าตามสัญญา

การคุ้มครองจะมีระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ยกเว้นเป็นสินค้าทุนจะยาวถึง 34 เดือน

สอง - การค้ำประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกแก่แบงก์พาณิชย์จะคลุมถึงทั้งก่อนและส่งมอบและหลังส่งมอบสินค้า เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี และให้การค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขในกรณีผู้ส่งออกที่ทำประกันภัยส่งออกไว้

สาม - ธุรกิจด้านสินเชื่อเพื่อการส่งออกจะอยู่ภายใต้โครงการรับช่วงซื้อลดสินเชื่อเพื่อการส่งออก วิธีการจะเหมือนกับโครงการแพคกิ้งเครดิตของแบงก์ชาติไทยในสมัยก่อน

จากรูปร่างหน้าตาเอ็กซิมแบงก์ของ 3 ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน จะพบว่า กลไกทางการเงินเพื่อสนับสนุนการส่งออกบางตัว เช่น การรับช่วงซื้อลดตั๋วส่งออกจะซ้ำกับของไทยที่มีอยู่ในโครงการแพ็คกิ้งเครดิต

จะขาดอยู่ก็แต่เพียงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อการส่งออกและการรับประกันส่งออกเท่านั้น ที่ไทยยังไม่มีกลไกอันนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.