เมื่อสมเกียรติสะดุดขาตัวเอง


นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2534)



กลับสู่หน้าหลัก

ความสำเร็จของคนเราโดยส่วนใหญ่มักจะไม่ได้มาอย่างง่ายดายเสมอไปเช่นกรณีของสมเกียรติ อ่อนวิมลแห่งค่ายแปซิฟิค นักบุกเบิกวงการสื่อสารมวลชนของไทย เขาผ่านร้อนผ่านหนาว และผ่านความเจ็บปวดกับธุรกิจมามากมายกับการทำธุรกิจข่าวสารทางทีวีประมาณ 8 ปีเต็ม ว่ากันว่าที่ผ่านมาแปซิฟิคจะอยู่ในลักษณะเหมือนดีแต่ไม่ได้ดีเหมือนจะประสบความสำเร็จแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะนโยบายการบริหารที่แข็งกร้าวของแปซิฟิคเอง

"เราไม่มีนโยบายผูกมัดพนักงาน ถึงเวลาที่เขาจะไปก็ต้องไปหน้าที่ของเราคือสร้างงานให้โอกาสเขาสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างชื่อเสียง ไม่มีการเยกกลับมาเพื่อขึ้นเงินเดือน ใครมีความสามารถมีประสิทธิภาพในขอบเขตที่แตกต่างก็จะได้รับผลประโยชน์ที่แตกต่างกันไปแต่จะไม่เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่เขามาซื้อตัว "สมเกียรติ อ่อนวิมล กรรมการผู้จัดการบริษัท แปซิฟิค อินเตอร์-คอมมิวนิเคชั่น จำกัด กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ในวันนี้แปซิฟิค จึงเสมือนตกอยู่ในสภาพที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาการขาดแคลนจำนวนบุคลากรที่ไม่เพียงพอ ต่อการรองรับธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ของแปซิฟิคฯเอง ขณะเดียวกันทรัพยากรบุคคลคนเก่าๆที่มีฝีมือเข้าขั้นมีประสิทธิภาพ ก็ทยอยลาออก หรือยกทีมลาออกกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็น ยุพา เพชรฤทธิ์ สุริยนต์ จองลีพันธ์ นิรมล เมธีสุวกุล ฯลฯ ซึ่งการลาออกของบุคคลที่กล่าวถึงนี้ล้วนแล้วแต่มาจากปัญหาความไม่เข้าใจในนโยบายการบริหารงานของบริษัทแทบทั้งสิ้น

เขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ?

จะรื้อนโยบายที่แข็งกร้าวออกมาพิจารณาใหม่แล้วหันมาผูกมัดใจพนักงานให้ทำงานอยู่กับบริษัทไปนาน เพื่อธุรกิจที่กำลังเกิดใหม่และมีความต้องการและมีความต้องการบุคคลากรอยางมากหรือจะทำตัวเป็นโรงเรียนสอนคนไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจต่อปริมาณการ RETURN OVER ของพนักงานที่สูงขึ้นทุกวัน

เมื่อคนเก่าไปคนใหม่ก็มา! ไม่มีที่สิ้นสูญ

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ภาวะคับขันที่ธุรกิจของแปซิฟิคกำลังดำเนินไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการทีวีต่างประเทศหรือโครงการวิทยุที่เพิ่งได้กรรมสิทธิ์ในการจัดรายการมมาด้วยการตัดสินใจอย่งรวดเร็วของพล.อ.สุจินดา คราประยูร กับพล.อ.วิโรจน์ แสงสนิท เกี่ยวกับการยกคลื่นวิทยุ จส.100 เอฟเอ็มกรรมการสื่อสารทหารบกให้กับสมเกียรติ อ่อนวิมล นำมาพัฒนารูปแบบการจัดรายการหาเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้กับสถานี จนก่อให้เกิดผลต่างๆนานา ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีประสิทธิภาพ

ความจำเป็นต่อการใช้บุคลากรโครงการวิทยุมีมากน้อยเพียงใด

หากพิจารณาจากการตกปากรับคำของสมเกียรติในการพัฒนาการจัดรายการของสถานีวิทยุจส.100 อยางไม่ทันตั้งตัวหรือเตรียมการล่วงหน้าเป็นเวลานานเพื่อความพร้อมของเขาทำให้แปซิฟิคได้รับผลกระทบมากมาย

ผลที่เกิดขึ้นประการแรกหลังจากมีข่าวออกมาว่ายกเลิกรายการทั้งหมดของคลื่นวิทยุแห่งนี้ บรรดาดีเจหรือผู้จัดการเดิมที่มีกว่า 20 รายได้เตรียมตัวที่จะร้องเรียนเพื่อเรียกสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ของเขาตามครรลองครองธรรมของระบบเสรีที่มีสัญญาและเงื่อนไขคำประกันการธุรกิจ แต่ในที่สุด เรื่องทุกอย่างก็ลงเอยแม้จะไม่ใช่ด้วยดีก็ตาม

อาจจะเป็นเพราะว่าประกาศิตของพล.อ.สุจินดาหรืออะไรก็ตาม สมเกียรติก็ได้เข้าไปจัดรายการที่สถานวิทยุจส.แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่กำลังทดลองออกอากาศ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา

ประการต่อมาเมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาคมสมเกียรติได้ใช้เครือข่ายของตนเองให้เกิดประโยชน์สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ให้เป็นผู้จัดรายการที่สถานีวิทยุแห่งนี้คือ ได้มีการประชาสัมพันธ์ทางทีวีให้รู้กันโดยทั่วไปว่าเวลานี้ แปซิฟิคได้เข้ามามีบทบาทในการจัดรายการรายงานข่าวทางสถานนีวิทยุจส.เป็นที่เรียบร้อย และจะมีการปรับปรุงรายการโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างที่ไม่เคยมีสถานีใดทำมาก่อน

สมเกียรติพูดเสมอว่างานนี้เป็นการทำเพื่อผู้ใหญ่ที่ขอร้องให้ช่วย ซึ่งตนเองไม่ได้มีการเตรียมการอะไรล่วงหน้าหรือว่ากันตามจริงแล้วเป็นการตกปากรับคำอย่างรวดเร็วไม่ทันตั้งตัว เมื่อรับคำสั่งก็ให้ทำทันทีคือตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่เวลานั้นยอมรับว่าเตรียมการไม่ทันทำให้ต้องเลื่อนออกอากาศเป็นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

"เพราะเตรียมตัวไม่ทันตอนนี้ก็ทำเท่าที่จะทำได้โดยมีโฆษกทำงานให้ครบตลอดเวลาที่ออกอากาศแต่จะไม่ครบ 24 ชม.ตามที่รับเวลามาเพราะเครื่องส่งไม่พอ บุคลากรไม่พร้อมต้องประกาศรับอีก ประมาณ 100 กว่าคน ในช่วงนี้จึงแบ่งเวลาออกเป็นเร่งด่วนคือช่วงเวลา 6-9 โมงเช้าเป็นการายงานการจราจรหลังจาก 9 โมงเช้าถึงบ่าย 2 เป็นการรายงานข่าวทุกชม. และหลังจากนั้นถึงทุ่มตรงเป็นการายงานการจราจรและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามที่ต่างๆ ซึ่งในช่วงที่ไม่มีข่าว ก็จะเป็นการสัมภาษณ์สนทนาพูดคุยไม่มีเพลง หรือถ้าจะมีเพลงก็จะให้ในลักษณะการวิเคราะห์เพลงนั้นแต่จะไม่มีการเปิดเพลง"

ในเรื่องของการรายงานจราจรได้รับความร่วมมือจากตำรวจกองจราจรกลาง กรมตำรวจและกองบัญชาการนครบาล (บชน.) จะช่วยด้านอุปกรณ์สื่อสารวิททททยุของตำรวจเพื่อการรายงาน ขณะเดียวกันก็ยังมีการสื่อสารผ่านเฮลิคอปเตอร์ลงสู่ภาคพื้นดิน แต่ก็ยังไม่ติดขัดปัญหาในเรื่องไม่มีคลือนวิทยุยูเอฟเอ็มให้ซึ่งต้องซื้อไม่มีใครให้ การแก้ปัญหาในส่วนนี้ของแปซิฟิคคือ หาระบบใหม่เข้ามาช่วย คือ TURNK MOBILE ใช้เฉพาะกลุ่มซึ่งอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของการสื่อสารแห่งประเทศไทยแต่เพราะเป็นระบบใหม่ที่เพิ่งเริ่มติดตั้งระบบทำให้ต้องรออีกหลายเดือน

ปัญหาเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆยังพอแก้ไขโดยใช้ระบบเดิมทดแทนเพื่อรอระบบใหม่ แต่การแก้ปัญหาเรื่องคนทำเช่นระบบหรืออุปกรณ์ไม่ได้ ทั้งนี้เพราะความเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจมีความคิดประสบการณ์และประสิทธิภาพสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลานานในการสั่งสมให้เกิดจึงยากที่จะทดแทนกันได้ ขณะเดียวกันนอกจากคนใหม่ยังไม่มา คนเก่าก็กำลังจะไปอีก

"ในช่วงนี้ปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่สั่งซื้อมาแล้วกว่าจะเข้ามาและรอการจดทะเบียนประมาณสองเดือนกว่าจะได้ใช้ ถึงแม้กรมตำรวจและกองทัพบกให้ยืมฮ.แต่ก็ยังไม่ได้นำมาใช้เพราะเพิ่งจะซ่อมเสร็จ เราก็เลยแก้ปัญหาด้วยการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลักในการรายงานข่าว ส่วนปัญหาเรื่องคน จะใช้คนของกรมตำรวจและบชน.ช่วยไปก่อนจนกว่าจะหาได้ครบตามจำนวนบุคคลเหล่านี้จึงจะถอนตัวออกไปเพื่อกลับไปรับใช้ประชาชนตามหน้าที่ของเขา"

เป้าหมายของการปรับปรุงการัดรายการวิทยุจส.นี้คือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆที่ทันสมัยเข้ามาใช้ซึ่งยังไม่มีสถานีใดทำมาก่อน เพราะจะทำให้คนฟังได้รู้ข่าวสาร ทั้งการจราจรและอุบัติเหตุและข่าวคราววามเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นประจำวันสิ่งนี้จะเป็นจุดขายที่เด่นสำหรับสถานีนี้

สมเกียรติมั่นใจว่าสถานีนี้ในอนาคตจะเหมือนซีเอ็นเอ็นที่คนรู้จักฟังกันทั้งวันถึงแม้ว่าจะเป็นการรายงานข่าวทั้งวันโดยไม่มีรายการบันเทิงเลยก็ตาม

"สิ่งที่เราจะทำหรือเราจะให้คือสาระประโยชน์มากกว่าความบันเทิงซึ่งหาได้จากที่อื่นมากมาย การทำธุรกิจเช่นนี้เป็นภาพที่คนอื่นเขาไม่เอา แต่ผมเอา ผมชอบ "สมเกียรติกล่าวอย่างคนมีอุดมการณ์ในใจและความที่เคยเป็นอาจารย์สอนหนังสือมาก่อน

สมเกียรติหลุดจากสภาพการเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 11 ปีที่แล้วก็เข้าสวมบทบาทวิญญาณนักข่าวทันทีด้วยใจรักและยึดมั่น ในการที่จะจรรโลงไว้ซึ่งความยุติธรรมและด้วยความหงุดหงิดในหัวใจที่การายงานข่าวเมืองไทยไม่มีการพัฒนา

หากนับย้อนไปเมื่อประมาณ 8 ปีทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท.จะเห็นคนหนุ่มสาวออกมารายงานข่าวในรูปลักษณ์ที่แปลกไปกว่าที่เคยเห็นมาตั้งแต่มีทีวีเกิดขึ้นในเมืองไทย การเริ่มต้นในรูปแบบของพวกเขานนนั้นเป็นเหตุให้ทีวีช่องอื่นๆต้องเปลี่ยนแปลงตาม อาจเรียกได้ว่าเขาเป็นผู้พัฒนารูปแบบการรายงานข่าวทางทีวีให้ทัดเทียมกับต่างประเทศได้

แต่สมเกียรติก็เจ็บปวดมากับสิ่งที่เขาสร้างมากับมือมากมายยประสบการณ์ทางธุรกิจได้สอนมวยเขามาก การถูกเขี่ยออกจากสถานีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่อง9 อ.ส.ม.ท. สถานีที่มีการเมืองเข้ามาวุ่นวายหรือช่อง 7 สี ที่ต้องออกไปอย่างสุภาพบุรุษที่ต้องเสียสละในการรักษาชีวิตคนแก่ไว้คนหนึ่งไม่ให้ต้องเสียชีวิตเพราะอดข้าวประท้วงการรายงานของเขา ส่วนช่องซึ่งอยู่ในระหว่างการสิ้นสุดสัญญาก็ยังไม่รู้โชคชะตาว่าจะได้ต่อสัญญาหรือไม่ ได้สร้างความคับแค้นใจให้กับจนถึงกับมีการลั่นวาจากันไว้ว่าจะต้องมีสถานีเป็นของตัวเองให้ได้

เมื่อแรกที่มีการพูดถึงการมีสาถนีเป็นของตนเองเพื่อที่จะสร้างสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้ดังใจของดร.สมเกียรติ กลับมีคนหัวเราะความฝันของเขาคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ

ณ วันนี้บริษัทแปซิฟิคฯก็มีสถานีของตนเองได้ตามฝันโดยการเข้าไป TAKE OVER บริษัท โทปาส เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจด้านการส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไปทั่วภูมิภาคเอเชียตั้งอยู่ที่เมืองดาร์วินทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย

แปซิฟิค เน็ทเวิร์คใใช้งบประมาณในการซื้ออุปกรณ์พื้นฐานเพื่อใช้ในการออกอากาศประมาณ 100 ล้านบาท งบค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกประมาณ 50 ล้านบาท รวมประมาณ 200 ล้านบาท

"ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสั่งซื้ออุปกรณ์ขั้นพื้นฐานอยู่ คาดว่ากว่าจะสมบูรณ์แบบต้องใช้เวลาประมาณครึ่งปี แต่จะทดลองออกอากาศโดยการส่งภาพนิ่งให้ดูเป็นตัวอย่างในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมทั้งเตรียมการถ่ายทอดสดการประชุมเวิลด์แบงค์ให้แถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ศรีลังกาจดปาปัวนิวกินี รวมทั้งประเทศไทยเป้าหมายหลักได้รับรู้ถึงสาระการประชุมครั้งนี้ด้วย"ดร.สมเกียรติกล่าว

ความฝันของนักธุรกิจข่าวสารผมรอนคนนี้เกี่วกับอนาคตของธุรกิจทีวีเมืองไทยก้าวไกลไปเทียบขั้นซีเอ็นเอ็น ที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงทั่วโลก ในแง่ของการรายงานข่าว เขากล่าวว่า ถ้ามีเงินอาจจะเปลี่ยนสถานีเป็น NATION NEWS NETWORK ก็ได้ คือจะมีการถ่ายสดเหตุการณ์สู้รบจากมะนิลาส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมสู่ประเทศเครือข่ายหรือทั่วโลกเช่นที่ซีเอ็นเอ็นทำมาแล้ว

วัย 40 ปีของสมเกียรติในวันนี้คนอเมริกันเขาว่าเพิ่งจะเป็นที่เริ่มต้น ทุกวันนี้ความใฝ่ฝันในการทำงานด้านข่าวของสมเยกีรติก็จะเริ่มต้นในรูปลักษณ์ที่ครบสูตรทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ทั้งใในประเทศและต่างประเทศหรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ที่เขาก็มีโครงการในอนาคตว่าจะทำเป็นสิ่งสุดท้าย

"ถึงเวลานี้ผมพอใจแล้วเพราะมีทั้งทีวีและวิทยุ คิดว่าน่าจะสร้างตรงนี้ให้ดีที่สุดสร้างทีมงานให้ดีที่สุด รวมทั้งสถานีและเน็ทเวิร์คที่ดีที่สุดซึ่งคิดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะสัมฤทธิผล" เขากล่าวถึงจุดทางการบริหารที่ต้องทำให้ได้

โครงการสร้างสถานีและเน็ทเวิร์คของสมเกียรติจากนี้ไปดูจะมีมากมาย แต่เขาก็เจอปัญหาคลาสสิกที่เกิดขึ้นซ้ำซากในแวดวงธุรกิจข่าวสารนั่นคือ ทีมนักข่าวลาออกด้วยเหตุผลที่เขาเข้าใจว่าเป็นเพราะดังแล้วแยกวง ความจริงคืออะไร คำถามสำหรับผู้บริหารอย่างเขาอาจจะอยู่ในคำตอบด้านการบริหารที่เข้มงวดเกินไปก็ได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.