เบียร์ช้างเดินหน้าตลท.ปีนี้ จัดโครงสร้าง20บ.ในเครือ


ผู้จัดการรายวัน(7 กรกฎาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เบียร์ช้าง ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลให้สำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณาภายในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ภายในปีนี้ เพื่อเป็น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่คาดมาร์เกตแคปจะประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เป็นบริษัทเอกชนขนาดใหญ่สุดปัจจุบัน ขณะนี้กำลังปรับโครงสร้างบริษัทในเครือกว่า 20 แห่ง เพื่อรวมกลุ่มจดทะเบียนพร้อมกัน หวังเป็นอีกแม่เหล็กดึงเงินต่างชาติเข้าตลาดหุ้นไทย นอกจากการท่าอากาศยาน การบินไทย และธนาคารกรุงไทย ที่พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดฯ ปลายปีนี้ ท่ามกลางแนวโน้มฝรั่งยังเดินหน้าเพิ่มพอร์ตลงทุนตลาดหุ้นไทยโดยรวม ที่ยังมีเสน่ห์เพราะเศรษฐกิจแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

แหล่งข่าวฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เมอร์ริล ลินช์ ภัทร ในเครือกลุ่มเมอร์ริล ลินช์ จากแดนมะกัน ในฐานะที่ปรึกษาการเงินนำบริษัทเบียร์ช้างจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ไทย (1991) ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทเตรียมพร้อมเพื่อจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 50% แล้ว โดยปรับโครง สร้างบริษัทใหม่หมด

ปรับโครงสร้างเครือ 20 บริษัท

ปัจจุบัน กลุ่มเบียร์ช้างมีบริษัทในเครือประมาณ 20 บริษัท และปรับปรุงงบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปีใหม่หมด ทำให้อยู่ในรูปแบบ มาตรฐานเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การนำบริษัทเบียร์ช้างจดทะเบียน จะนำเข้าทั้งกลุ่ม จะไม่จัดรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง ปัจจุบันทุนจดทะเบียนยังไม่สามารถกำหนดว่าจะมีเท่าใด เพราะอยู่ระหว่างจัดโครงสร้างใหม่

วัตถุประสงค์การระดมทุนบริษัทจะนำเงินใช้ขยายธุรกิจส่วนใหญ่ รวมถึงปรับโครงสร้างทุน ให้เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทไม่จำเป็นต้องชำระหนี้ เพราะเบียร์ช้างหนี้น้อยมาก เบื้องต้น การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ บริษัทน่าจะซื้อขายกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

หวังเป็นอีกแม่เหล็กดูดเงินต่างชาติ

เขากล่าวว่า หากบริษัทเบียร์ช้างเข้าไปซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ จะส่งผลดีความสนใจนักลงทุนต่างชาติ ลงทุนตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ และเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติอย่างดี โอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยอีกจะเกิดขึ้น

3 รัฐวิสาหกิจยังจ่อคิว

อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะรับหน้าที่แกนนำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายบริษัทประมาณ 3-4 แห่ง เพื่อกระจายหุ้นขายประชาชน จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจ เช่น บริษัท การบินไทย ธนาคารกรุงไทย ที่จะกระจายหุ้นเพิ่มเติม (พีโอ) ขณะที่การท่าอากาศยานไทย จะกระจายหุ้นใหม่ (ไอพีโอ)

แม้จะมีบริษัทขนาดใหญ่ระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เชื่อว่ายังมีเงินที่จะเข้าลงทุนอีกมาก ซึ่งการที่ดอกเบี้ยต่ำ จนกระทั่งดอกเบี้ยเงินฝากแท้จริงหลังหักเงินเฟ้อติดลบแล้วปัจจุบัน ทำให้คนส่วนใหญ่ ต้องสนใจการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่นักลงทุนในประเทศเท่านั้น

ฝรั่งยังพร้อมขนเงินลงทุนหุ้นไทยเพิ่ม

เงินนักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง จากการสำรวจความสนใจนักลงทุนต่างชาติต่อตลาดหุ้นไทย ของบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ริล ลินซ์ บรรดาประเทศ ตลาดฯ เกิดใหม่ (Emerging markets) ตลาด หุ้นไทยขณะนี้ น่าสนใจสูงสุด ทำให้นักลงทุนต่างชาติเพิ่มน้ำหนักการลงทุน และเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่องช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา กว่า 2 หมื่นล้านบาท

ทางด้านนายอุดมศักดิ์ ชาครียวณิช กรรม การผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์แอสเซทพลัส กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มดี ระดับดัชนีกำลังเดินหน้าทะลุ 500 จุด ปัจจัยสนับสนุน เนื่องจากอัตราเติบโตเศรษฐกิจระดับ 5% ต่อปีทั่วโลก ปัจจุบันไม่ถึง 10 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย

แม้จีนจะมีอัตราเติบโตเศรษฐกิจสูงก็จริง แต่เนื่องจากขยายตัวต่อเนื่อง มาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว ส่วนประเทศไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นมากกว่า ทำให้ความสนใจที่จะมาลงทุนในไทยมากกว่า



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.