|
แบงก์พาเหรดปล่อยสินเชื่อเคหะเล็งตลาดบนลดความเสี่ยงยุคเงินเฟ้อ
ผู้จัดการรายสัปดาห์(7 กรกฎาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
สินเชื่อเคหะยังคงเป็นตลาดที่แบงก์พาณิชย์จับไม่ปล่อย แม้ในยุคข้าวยากหมากแพง พาเหรดระดมแคมเปญจูงใจ ลูกค้า ตั้งแต่อัตราดอกเบี้ย หรือแปลกแหวกแนวอย่าง “แบงก์กสิกรไทย”ใน “โครงการกู้บ้านเสริมฮวงจุ้ย” ชิงตลาดระดับกลางถึงบน ที่ฐานะการเงินไม่กระเทือนเงินเฟ้อเพื่อลดความเสี่ยงเอ็นพีแอลหลอกหลอน
ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านยังคงมีอยู่ แต่ในยุคข้าวยากหมากแพงทำให้กำลังการใช้จ่ายหรือบริโภคหดลง ถ้าเป็นไปได้ก็เลือกในสิ่งที่จำเป็นที่สุด แม้แต่บ้านที่เป็นปัจจัย4ก็ยังไม่วายต้องคิดหน้าคิดหลังก่อนซื้อ
ความลังเล ประกอบกับสถานการณ์ที่ไม่เอื้อให้อยากจับจ่ายใช้สอยทำให้แบงก์พาณิชย์ต่างก็แห่กันออกแคมเปญใหม่เพื่อเร่งยอดสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเคหะที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการขยายพอร์ตงาน บางที่ใช้อัตาดอกเบี้ยเป็นจุดขาย บางที่ก็ให้ในเรื่องบริการความสะดวกสบาย หรือแม้แต่การซื้อบ้านดูฮวงจุ้ยก็เป็นหนึ่งอีกแคมเปญในการทำตลาด
ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ แบงก์กสิกรไทย บอกว่า แคมเปญกู้บ้านเสริมฮวงจุ้ยน่าจะทำให้ตลาดสินเชื่อเคหะของกสิกรไทยคึกคักได้ ด้วยปัจจุบันผู้ซื้อบ้านไม่ได้ให้ความสำคัญที่ราคาของบ้านเท่านั้น ฮวงจุ้ยที่ดีก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกบ้านดังกล่าวได้ง่ายขึ้น นั่นเพราะความเชื่อว่าฮวงจุ้นที่ดีจะนำไปสู่ความอบอุ่น และสงบสุขในบ้านได้
แต่อย่างที่บอกในยุคที่เศรษฐกิจไม่ได้เอื้อให้คนยากใช้เงิน ตั้งแต่เงินเฟ้อ ราคาสินค้าบริโภคทั้งหลายต่างขึ้นราคา เรียกว่าต้นทุนในการดำรงชีพเปลี่ยนไปสู่ความยากลำบาก หากแต่รายได้กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามต้นทุน ทำให้การใช้เงินในทุกบาททุกสตางค์ถูกไตร่ตรองอย่างรู้ค่า
ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนัก รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในฝั่นขากู้ที่จะเพิ่มขึ้นด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มดังกล่าวยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ข้าวยากหมายแพงที่เกิดขึ้นได้
แถม ชาติชาย มองอีกว่า แนวโน้มดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นได้อีกประมาณ 0.25-0.50% จะไม่กระทบมากนักในกับลูกค้าที่กำลังผ่อนบ้าน จริงอยู่ทุถ้าขึ้นดอกเบี้ยแล้วต้นทุนการชำระหนี้จะเพิ่มขึ้นโดย การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 1% จะส่งผลให้ต้นทุนผ่อนชำระบ้านแต่ละงวดเพิ่มขึ้น 6% แต่ที่มองไม่กระทบลูกค้ามากนักเพราะปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ก็อยู่ที่ระดับ 6-7% ถือว่ายังเป็นฐานที่ต่ำ อีกทั้งใน 3 ปีแรก ธนาคารมีโปรโมชั่นต่างๆ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับภาระหนักเกินไป
แบงก์พาณิชย์ได้จัดเกรดผู้มีรายได้ปานกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังรับมือไหวกับภาวะเศรษฐกิจเยี่ยงนี้ได้ ให้กลายเป็นเป้าหมายหลักที่จะปล่อยสินเชื่อ โดยเกรดคนระดับกลางที่แบงก์พาณิชย์ให้เกณฑ์คร่าวๆมีรายได้อยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน และสูงขึ้นไปก็จะเป็นกลุ่มรายได้สูง ซึ่งก็เป็นอีกตลาดที่แบงก์พาณิชย์ให้ความสนใจและคิดว่าน่าจะเป็นเทรนหนึ่งที่แบงก์พาณิชย์จะวิ่งเกาะกระแส เพื่อล่าชิงลูกค้าใน 2 กลุ่มนี้
ชาติชาย บอกว่าถ้ารายได้ตกที่ประมาณ 50,000 บ้านต่อเดือน ศักยภาพในการซื้อบ้านจะอยู่ที่ราคาประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งในภาวะเช่นนี้เชื่อว่าถ้าจะกู้สินเชื่อเคหะกลุ่มนี้น่าจะผ่อนไหว ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทลงไป น่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ดังนั้นกลุ่มดังกล่าวจะมีการปรับตัวในด้านการบริโภคมากขึ้น
ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แบงก์กสิกรหันมาจับตลาดกลางถึงบนเพื่อลดความเสี่ยงเอ็นพีแอลที่อาจตามมาในอนาคตได้
ชาติชาย เล่าว่า แคมเปญ กู้บ้านเสริมฮวงจุ้ย เป็นสินเชื่อเคหะสำหรับลุกค้าที่กู้ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป โดยจะได้รับบริการให้คำแนะนำด้านฮวงจุ้ยจากอาจารย์ที่เชี่ยวชาญศาสตร์นี้ในรูปแบบฮวงจุ้ยเชิงวิทยาศาตร์ เนื่องจากเป็นการดูที่ผสมผสานหลักการเรื่องสุขอนามัย และสภาวะแวดล้อม อันประกอบด้วย แสงสว่าง สัสัน ทิศทางลม ทิศทางน้ำ และการเวลาส ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาวะจิตใจและอารมณ์ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เสริมบารมี มีโชคลาภและเพิ่มความสำเร็จในชีวิต
ชาติชาย บอกว่า เป็นอีกการตลาดรูปแบบหนึ่งที่น่าจะกระตุ้นยอดสินเชื่อเคหะได้ เนื่องจากเป้นแคมเปญที่แหวกแนวตลาด ซึ่งที่ผ่านมา กสิกรไทยก็เคยทำแคมเปญที่แลกแตกต่างแบงก์อื่นมาแล้ว อย่างปี 2548 เลล่นแคมเปญกู้บ้านแถมแจ๋ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการภายหลังจากลูกค้าได้รับสินเชื่อเคหะไปแล้ว และมีปัญหาจัดการในบ้าน อย่างต้องการจัดตกแต่งสวน แบงก์ก็จะจัดส่งพนักงานเข้าไปช่วยดูแลให้เป็นต้น
“สิ่งที่ทำนั้นไม่ได้หวังแค่ยอดการตลาดโตเพียงอย่างเดียว แต่ยังหวังว่าลูกค้าที่กู้สินเชื่อของเราจะมีความประทับใจและหวนกลับมาใช้บริการจากแบงก์อีกครั้งซึ่งนั่นคือเรื่องสำคัญ”
ยอดปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารในช่วง 5 เดือนแรกปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 13,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเป้าครึ่งปีตั้งไว้ที่ 13,000 ล้านบาท และเป้าทั้งปีตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท เชื่อว่าเมื่อออกแคมเปญกู้บ้านเสริมฮวงจุ้ยและร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จัดแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ จะทำให้ปีนี้ปล่อยสินเชื่อสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30%
ด้านแบงก์ นครหลวงไทยออกสินเชื่อเคหะดอกเบี้ยพิเศษ 3 ทางเลือก โดย ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เล่าว่า เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะนครหลวงไทย 3 รูปแบบ มีขึ้นสำหรับโครงการที่ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเงินกู้ในการพัฒนาหรือโครงการที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แบบที่ 1 ดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 4.50% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ลบ 1.0% ต่อปี แบบที่ 2 ดอกเบี้ยแบบลอยตัว ปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 4.00% ต่อปี ปีที่สองคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี และแบบที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.99% ต่อปี ในช่วง 10 เดือนแรก หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมในการกู้ และค่าธรรมเนียมในการประเมินราคา วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน ระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี สำหรับลูกค้าที่ยื่นขอวงเงินกู้ภายในวันที่ 31 ส.ค.51 นี้
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เสนอเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษสินเชื่อเคหะสำหรับโครงการทั่วไปหรือบ้านมือสอง โดยปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่เท่ากับ 3.99% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.5% ต่อปี
พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าสินเชื่อเคหะนครหลวงไทยด้วยข้อเสนอสินเชื่อเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตสูงสุด 100% ของค่าเบี้ยประกันสำหรับลูกค้าที่ทำประกันกับบริษัทประกันชีวิตนครหลวงไทย จำกัด โดยไม่นับรวมกับวงเงินสินเชื่อเคหะ และมอบส่วนลดดอกเบี้ยในปีแรกลงอีก 0.25% จากทุกเงื่อนไขที่ลูกค้าได้รับสำหรับลูกค้าที่กู้สินเชื่อเคหะพร้อมทำประกันชีวิตอีกด้วย
"เชื่อว่าเงื่อนไข ดังกล่าวจะทำให้ในปีนี้ธนาคารสามารถปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2 หมื่นล้านบาท ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะธนาคารมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการและส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าเก่าที่ดีของธนาคาร และที่สำคัญได้ปรับปรุงขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ขอกู้อีกด้วย"
ขณะที่แบงก์ ไทยพาณิชย์ ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “SCB Home Loan Service More” เพื่อความสะดวกสบายที่ครบครัน รับเป็นธุระจัดการชำระสินเชื่อ พร้อมค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าสาธารณูปโภคกว่า 30 รายการ ด้วยระบบหักบัญชีอัตโนมัติ ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่มีสิทธิเข้าร่วมรายการและรับของที่ระลึก ล่าสุดจับมือ เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวล ลอปเม้นท์ เสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% พร้อมมอบเอกสิทธิพิเศษ “อยู่ AP เบาใจเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟด้วย SCB จ่ายให้”
แคมเปญ “SCB Home Loan Service More” เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน โดยแบงก์จะเป็นธุระจัดการชำระสินเชื่อ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าสาธารณูปโภคอีกกว่า 30 รายการ ผ่านระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (ฟรีค่าธรรมเนียมทุกรายการ ยกเว้นการประปาส่วนภูมิภาค การเคหะแห่งชาติ และเซทเทเลม) แคมเปญนี้ธนาคารมอบให้กับลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ โดยผู้ที่สมัครใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 ธันวาคม 2551 นี้จะได้รับของที่ระลึกกระเป๋าผ้าอเนกประสงค์อีกด้วย
ตลาดสินเชื่อเคหะยังคงแรง ส่วนหนึ่งจากปัจจัยนโยบายภาครัฐ อย่างมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนของภาครัฐ ที่จะสิ้นสุดปี 2552 ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการบริโภค เพราะเหมือนโอกาสมีต้องรีบฉวยไว้ หากแต่ว่ากันตามจริงแล้ว มาตรการยามนี้คงดังกล่าวคงใช้ได้กับคนส่วนน้อยที่มีฐานรายได้สูง ส่วนผู้รายได้ต่ำ ก็คงได้แต่มองโอกาสที่จากไปพร้อมอาการอดอยากปากแห้ง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|