เจ.เอฟ.ธนาคม


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2533)



กลับสู่หน้าหลัก

เพียงปีเดียวหลังการเปิดดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ เจ.เอฟ.ธนาคมสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 39 ล้านบาท คณะกรรมการซึ่งมีเกษม จาติกวณิชเป็นประธานฯได้มีมติให้จ่ายเงินปันผล 50 %หรือหุ้นละ 195 บาท

กรณ์ จาติกวณิช กรรมการผู้จัดการกล่าวว่า "การปันผลระดับนี้แสดงว่าบริษัทสามารถทำให้ผลตอบแทนในปีแรกสูงถึง 200% ของเงินลงทุน ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างน่าพอใจ" ความสำเร็จของจาร์ดีน เฟลมมิ่ง กรุ๊ป จำกัด ซึ่งหนังสือพิมพ์เอเซียน วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่าเมื่อสิ้นปี 2532 นั้น เจ.เอฟ.กรุ๊ปสามารถทำกำไรหักภาษีสูงถึง 46 % หรือคิดเป็น 525 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

การที่ธุรกิจค้าหลักทรัพย์ของเจ.เอฟ.ประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นนี้ เป็นเรื่องไม่เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์เพราะในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นย่านเอเชียเติบโตและให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนสูงมาก โดยเฉพาะตลาดไทยและมาเลย์มีความน่าลงทุนมากคู่คี่กัน

อย่างไรก็ตามประเด็น หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องน่าจับตาอย่างมากของเจ.เอฟ.กรุ๊ปก็คือนโยบายการขยายตัวในธุรกิจบริหารกองทุนหรือ FUND-MANAGEMENT ซึ่งในปี 2532 เจ.เอฟ.กรุ๊ป ได้บริหารกองทุนต่างๆเพิ่มขึ้นถึง 50 % คิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกองทุนเหล่านี้จัดตั้งขึ้นจากเงินลงทุนของชาวไต้หวันและญี่ปุ่น

ในส่วนของเจ.เอฟ.ธนาคมก็ดำเนินตามนโยบายของบริษัทแม่ในเรื่องการตั้งกองทุนด้วยเหมือนกัน ปัญหาติดขัดอยู่ตรงที่สำหรับเมืองไทยยังไม่มีนโยบายการเปิดเสรีให้บริหารกองทุนได้เหมือนอย่างประเทศเอเชียนอื่นๆ มีก็แต่บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวม จำกัดเท่านั้น ที่สมารถจัดตั้งและบริหารกองทุนได้เพียงแห่งเดียว

กรณ์พยายามรุกตลาดบริหารกองทุนที่ผูกขาดโดยบล.กองทุนรวมอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปลายปี 2532 เขาดำเนินการให้มีการจัดตั้ง JF THAILAND TRUST เป็นกองทุนต่างประเทศ (COUNTRY FUND) และเป็นกองทุนเปิด(OPEN - ENDED FUND) จดทะเบียนในลอนดอนเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยโดยตรง โดยระดมเงินลงทุนจากนักลงทุนไต้หวันเป็นส่วนมาก กองทุนนี้มีวงเงินมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนไปประมาณ 80 %

นอกจากนี้ กรณ์ยังรุกต่อไป โดยพยายามที่จะจัดตั้งกองทุนในประเทศขึ้นให้ได้ ในจังหวะที่คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้มีการให้ใบอนุญาตบริหารกองทุนรวมมากขึ้น กรณ์กล่าวว่า "กองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นมานี้เป็นกองทุนเปิด มีอายุ 10 ปีมรวงเงินราว 1,000 ล้านบาท"

เป็นแนวรุกที่น่าจับตายิ่ง เพราะไม่เพียงแต่กรณ์ที่หวังจะได้รับใบอนุญาตบริหารกองทุนรวมเท่านั้น บล.และบงล.อื่นๆ ก็อยากได้กันทุกแห่ง เจ.เอฟ.ธนาคมจะเป็นรายแรกที่ได้บริหารหน่วยลงทุนเมื่อเปิดให้ใบอนุญาตมากขึ้นหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป !!



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.