|
ขุดข้อมูลTLMชงบอร์ดททท.23นี้
ผู้จัดการรายวัน(7 กรกฎาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ทีแอลเอ็มดิ้นหาทางรอดลดต้นทุน จีบอีลิท ขอรวมกิจการ “รพี” ทำเป็นเสียงแข็งไม่สน แต่แอบแย้ม มีความเป็นไปได้ หากจับมือเป็นพันธมิตรให้บริการในบางเรื่อง หวังลดต้นทุนการบริหารจัดการ ส่วนรวมกิจการขอเวลาศึกษารายละเอียด ด้านทีมคณะกรรมการติดตามประเมินผลทีแอลเอ็มรุดหน้า 21 ก.ค.นี้บุกขอฟังข้อมูลบริษัทก่อนเสนอบอร์ดททท.
แหล่งข่าวจากวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า พ.ต.อ รวมนคร ทับทิมธงไชย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยจัดการลองสเตย์ (ทีแอลเอ็ม) ผู้บริหารโครงการบัตรสมาชิกทีแอลเอ็ม เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยที่เข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย ได้เข้าพบเพื่อหารือกับนายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้บริหารโครงการบัตรอีลิท
โดยพ.ต.อ.รวมนคร ได้เสนอแนวคิดว่าจะขอควบรวมกิจการของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เหตุผลเพราะมีลักษณะการให้บริการแก่สมาชิกในรูปแบบที่คล้ายกัน จะแตกต่างกันตรงเป้าหมายลูกค้า โดยสมาชิกผู้ถือบัตรทีแอลเอ็ม เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ วัยเกษียณ ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และเป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย ขณะที่อีลิทการ์ดเน้นกลุ่มนักลงทุน และนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ เป็นหลัก
“ทั้งสองบริษัท มีผู้ถือหุ้นรายเดียวกันคือ ททท. รูปแบบให้บริการแก่สมาชิกที่สนามบินเหมือนกัน คือมีเลาจ์ และบริการฟาสต์แทรกที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง บริการติดต่อหาที่พัก และบริการด้านท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น สปา กอล์ฟ หากรวมบริษัทเข้าด้วยกัน จะช่วยประหยัดงบประมาณด้านบริหารจัดการ และงบลงทุนในบางเรื่อง” แหล่งข่าวกล่าว
อีลิทแย้มต้องใช้เวลาศึกษา
ทางด้านนายรพี ม่วงนนท์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีแนวคิดที่จะรวมทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เพราะยังมองว่า กลุ่มลูกค้าคนละเป้าหมายกันอย่างชัดเจน แต่มีความเป็นไปได้ ที่จะวางแผนการทำงานร่วมกันในบางเรื่อง เพื่อลดต้นทุนการบริหารจัดการ เช่น เลาจ์สำหรับต้อนรับสมาชิกที่สนามบิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามจากแนวคิดดังกล่าว จึงได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ โดยจะศึกษาไปถึงการพัฒนาสินค้าและบริการที่สมาชิกทั้งสองกลุ่มเป้าหมายสนใจ และสามารถใช้ร่วมกันได้ ส่วนการจะรวมทั้งสองบริษัทเป็นหนึ่งเดียว คงต้องเข้าไปศึกษาในรายละเอียดให้รัดกุม เพราะมีงานบางอย่างเท่านั้นที่ดำเนินการเหมือนกัน แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการให้บริการด้านการลงทุนให้แก่สมาชิกผู้สนใจ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของอีลิทการ์ด ขณะที่ทีแอลเอ็มจะเน้นให้บริการเรื่องการพักผ่อนท่องเที่ยวเท่านั้น
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การควบรวม อีลิท การ์ด กับ ทีแอลเอ็ม เข้าด้วยกันนั้น ต้องเป็นการตัดสินใจของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และ มติบอร์ดททท.เป็นหลัก เพราะ ททท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ขณะที่ในส่วนของ ทีแอลเอ็ม ยังต้องหารือกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ อีก 70% เพราะ ททท.ถือหุ้นในบริษัทนี้เพียง 30% เท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะดำเนินการได้รวดเร็ว แต่ต้องศึกษากันอย่างละเอียดทั้งข้อกฎหมาย มติ คณะรัฐมนตรี และรับฟังความต้องการจากทุกฝ่าย แต่หากจะมีจับมือเป็นพันธมิตรร่วมให้บริการในบางเรื่อง เช่น เลาจ์ที่สนามบิน และบุคลากรในบางส่วน เพื่อประหยัดต้นทุนก็เป็นแนวคิดที่ดี ช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณ
คณะฯติดตามบุกทีแอลเอ็มล้วงข้อมูล
ทางด้าน น.ส. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐาน ที่เป็นกรรมการในบอร์ด ททท. กรรมการในบอร์ดอีลิทการ์ด และ เป็นประธานคณะกรรมการติดตามประเมินผลบริษัททีแอลเอ็ม กล่าวว่า ในเบื้องต้น ยังไม่มีการนำเรื่องควบรวมอีลิทการ์ดกับทีแอลเอ็ม เข้ามาหารือในที่ประชุมคณะใดทั้งสิ้น เข้าใจว่าทั้งสองบริษัทจะต้องหารือเป็นการภายในกันเองก่อน จึงนำเรื่องมาขอมติในที่ประชุมบอร์ด
ส่วนกรณีการทำงานของ คณะกรรมการติดตามประเมินผล บริษัททีแอลเอ็ม ล่าสุดได้สั่งการให้บริษัททีแอลเอ็ม ทำรายงานผลการดำเนินงาน และงบดุลมายื่นเสนอ เพราะที่ผ่านมา ทีแอลเอ็มยังไม่เคยนำข้อมูลนี้มาเสนอต่อบอร์ด ททท.เลย นอกจากนั้น ในวันที่ 21 ก.ค.ศกนี้ คณะกรรมการฯจะเดินทางเข้าไปรับฝังแผนการทำงานของบริษัททีแอลเอ็ม เพื่อจะเก็บข้อมูลไว้นำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด ททท. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ค.ศกนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|