หุ้นน้ำมันพืชกลับมาฉายแววอีกรอบเหตุน้ำท่วมจีน-อเมริกาอานิสงส์หนุน


ผู้จัดการรายสัปดาห์(30 มิถุนายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

กระแสน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญทั้งในจีนและอเมริกา ทำพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย อุปทานขาดแคลนดันราคาธัญพืช ถั่วเหลือง ข้าวโพด โบรกเกอร์เห็นพ้องหุ้นกลุ่มน้ำมันพืชได้อานิสงส์ ส่งสัญญาณซื้อ

จากเหตุการณ์วาตะภัยน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่การเกษตรกรรมสำคัญของจีนและสหรัฐอเมริกา ส่งผลถึงราคาสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด รวมถึง ถั่วเหลือง ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นจากอุปทานที่ขาดแคลน โดยน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรสร้างความเสียหายกินบริเวณพื้นที่กว้างถึง 20 มณฑลทางภาคใต้ของจีน ส่วนพื้นที่แถบมิตเวสต์ ของสหรัฐอเมริกา พื้นที่การปลูกข้าวโพดและถั่วเหลืองเสียหายถึง 1 ใน3 ของสหรัฐ จึงถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มผลิตผลทางการเกษตร

โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไซรัส มองว่า ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปแม้ในระยะสั้นจะมีการพักฐาน หรือเปลี่ยนตัวเล่นโดยหันไปเก็งกำไรในสัญญาข้าวโพดแทนเพราะผลผลิตมีแนวโน้มลดลงจากพื้นที่ปลูกที่ได้รับความเสียหาจากน้ำท่วม

โดย บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO) จะเป็นผู้ได้เปรียบผู้ผลิตรายอื่นในด้านของต้นทุนการผลิตที่ต่ำเนื่องจากเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในประเทศและมีการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งที่มีราคาเหมาะสม

ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.ซิกโก้ ประเมินว่าจากสภาวะน้ำท่วม น่าจะส่งผลให้ความต้องการถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ปลูกได้รับความเสียหายน่าจะส่งผลดีต่อTVO

สำหรับราคาน้ำมันพืช อาจมีโอกาสได้ปรับราคาอีกตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ที่ชะลอไปเพราะมีสินค้าหลายรายการที่มีการปรับราคาสูงขึ้น ทั้งนี้เมื่อใดที่ผู้ประกอบการรายเล็กสู้กับต้นทุนไม่ไหว ก็คงจะมีการเรียกร้องขอปรับขึ้นราคา ส่วน TVO มีลูกค้าหลักเป็นอุตสาหกรรม ขณะที่ราคาขายต่ำกว่าขายเป็นขวด แต่มีมาร์จิ้นที่สูงกว่า จึงแนะนำซื้อโดยให้ราคาเป้าหมายที่ 28.18 บาท

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ประเมินว่า เหตุการณ์ที่สหรัฐและจีน น่าจะเป็นผลดีต่อ TVO เพราะสินค้าเกษตรอย่างถั่วเหลืองได้รับความเสียหาย ซึ่งราคาอาจจะมีแนวโน้มปรับขึ้น เนื่องจากผลผลิตอาจจะไม่เพียงพอ หรือไม่ได้คุณภาพ ทำให้ปริมาณการผลิตที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ เป็นเหตุให้ต้องมีการนำเข้าได้ในอนาคต

นอกจากนี้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 น่าจะยังสดใส เนื่องจากราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 25.80 บาท

ด้าน บมจ.ล่ำสูง(ประเทศไทย)(LST) ไม่น่าจะได้รับผลดีเท่าไร แต่สำหรับ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (UPOIC) จะได้รับผลดีจากราคาที่จะเพิ่มขึ้นมากกว่า อย่างไรก็ตามหากราคาปรับเพิ่มขึ้น ก็ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น และความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ LST คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากราคาปาล์มที่ปลูกดี และตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็มีการปรับราคาขายน้ำมันปาล์มมาแล้ว ซึ่งจะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึง แนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท

ส่วน บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ประเมินว่า แนวโน้มไตรมาส 2 ของ TVO จะยังคงแข็งแกร่ง เพราะปริมาณความต้องการกากถั่วเหลือง จะฟื้นตัวจากความต้องการกากในการเลี้ยงหมูจะกลับมาเป็นปกติ ขณะที่ความต้องการในการเลี้ยงไก่ยังแข็งแกร่ง รวมถึงราคาขายที่เพิ่มขึ้น ทิศทางราคาเมล็ดถั่วเหลืองเริ่มฟื้นตัว

อย่างไรก็ตามการประสบปัญหาฝกตกหนัก ทำให้การปลูกข้าวโพดของเกษตรกรสหรัฐล่าช้า ซึ่งหันไปปลูกถั่วเหลืองแทน และจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ราคาของพืชที่นำมาทำเป็นพลังงานทดแทนได้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.