จากเทียนอันเหมินถึงไทยแสท


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2533)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มไทยแสทคือกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงคมนาคม ให้เป็นผู้ลงทุนในโครงการสัมปทานดาวเทียม และสร้างเครือข่ายการสื่อสารเพื่อให้บริการการสื่อสารด้วยดาวเทียมในมูลค่า 3,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี

ไทยแสทเสนอให้รัฐบาลเข้ามาถือหุ้นลม 5% ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันขอเลื่อนกำหนดการยิงดาวเทียมไปเป็น 5 ปีหลังจากเริ่มต้นสัญญา โดยอ้างว่า ปริมาณการใช้ยังไม่คุ้มกับการยิงดาวเทียมเอง ในระยะ 1-5 ปีแรกนี้ไทยแสทจะเช่าช่องสัญญาดาวเทียมเอเชียแสท 1 มาใช้แทนโดยจะวางเงินประกันกับรัฐบาลไทยปีละ 100 ล้านบาทจนครบ 5 ปี ถ้าไม่สามารถส่งดาวเทียมได้ เงิน 500 ล้านบาทนี้จะถูกยึดทันที

ผู้ร่วมลงทุนในไทยแสทประกอบด้วย บริษัทปิยะอนันต์ บริษัทล็อกซเล่ย์ บริษัทเคเบิ้ลแอนด์ไวร์เลสของอังกฤษและบริษัทฮัทชินสันแวมเปาจากฮ่องกง สองบริษัทหลังนี้เป็นผู้ถือหุ้นในโครงการเอเชียแสทซึ่งเป็นเจ้าของดาวเทียมเอเชียแสท ผู้ถือหุ้นอีกรายของเอเชียแสทคือ CHINA INTERNATIONAL TRUST AND DEVELOPMENT CORP (CTIC) ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนของรัฐบาลจีน

โครงการเอเชียแสทจะส่งดาวเทียมเอเชียแสท 1 ขึ้นอวกาศในเดือนเมษายนนี้ เพื่อการสื่อสารในภาคพื้นทวีปเอเชีย โดยซื้อดาวเทียมจากบริษัทฮิวจ์ แอร์คราฟท์ของสหรัฐอเมริกา และใช้จรวดลองมาร์ช 3 ของจีนเป็นจรวดส่งจากฐานยิงในประเทศจีน

วันที่ 28 พฤศจิกายนปีที่แล้ว มนตรี พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอเรื่องนี้ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัต ิให้ไทยแสทเป็นผู้ลงทุนในโครงการดาวเทียมสื่อสาร แต่ถูกเบรกจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับข้อมูลมาว่าโครงการส่งดาวเทียมเอเชียแสท 1 อาจจะต้องเลิกล้มไปเพราะสหรัฐฯจะไม่ส่งดาวเทียมให้จีน จนมนตรีต้องถอนเรื่องออกจากวาระการประชุมกลับไปตั้งหลักใหม่

มูลเหตุที่สหรัฐฯจะไม่ยอมขายดาวเทียมให้กับจีนนั้นเนื่องมาจากเหตุการณ์ปราบปรามนักศึกษา ประชาชนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ทำให้รัฐสภาสหรัฐฯเคลื่อนไหวให้ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ เพื่อคัดค้านการกระทำดังกล่าวด้วยการงดให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่จีน รวมไปถึงการขายสินค้าให้จีนด้วย

ดาวเทียมเอเชียแสท 1 อยู่ในข่ายต้องถูกห้ามขายให้จีนด้วย เมื่อไม่มีดาวเทียม โอกาสที่ไทยแสทจะใช้ช่องสัญญาณของเอเชียแสทในช่วงห้าปีแรกจึงเลือนราง การอนุมัติให้ไทยแสทเป็นผู้ได้รับสัมปทานอย่างเป็นทางการจึงถูกระงับไว้ก่อน

เรื่องนี้เป็นปรากฎการณ์อันหนึ่งของความสัมพันธ์กัน ระหว่างเศรษฐกิจกับการเมืองและเป็นตัวอย่างของช่องว่างที่หดแคบลงทุนที ๆ ของธุรกิจในระดับนานาชาติ

ความเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น จากท่าทีของสหรัฐฯที่ส่งเจ้าหน้าที่ขั้นสูงไปเยือนปักกิ่งเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว และจีนก็ได้แสดงความต้องการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้ดีเหมือนเดิม ในขณะที่ประธานาธิบดีบุชก็คัดค้านมาตรการของรัฐสภาด้วย

เอเชียแสทได้รับใบอนุญาตส่งออกดาวเทียมจากฮิวจ์ แอร์คราฟท์ครบทั้งห้าใบแล้ว อันเป็นการยืนยันว่ามีดาวเทียมให้ยิงในเดือนเมษายนแน่ แต่ทางเมืองไทยกลับมีกระแสความไม่แน่นอนที่ไทยแสทจะเป็นผู้ได้รับสัมปทาน เพราะในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีให้กลับมาทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการ ก็มีบริษัททั้งจากสหรัฐฯ และยุโรปหลาย ๆ แห่งมีข้อเสนอว่า ไม่ต้องรอถึง 5 ปีอย่างที่ไทยแสทเสนอ ไทยก็สามารถยิงดาวเทียมได้ อาจจะใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี

ข้อเสนอนี้คงไปสะกิดใจนายกรัฐมนตรี จนให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ทางด้านต่าง ๆ เพื่อข้อสรุปว่าจำเป็นต้องรอถึง 5 ปี หรือไม่ ก่อนที่จะมีการพิจารณาเรื่องของไทยแสทกันใหม่



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.