SABINAเล็งปรับราคาสินค้า5-10%ชี้ต้นทุนพุ่ง-ปีนี้ตั้งเป้ารายได้2.2พันล.


ผู้จัดการรายวัน(23 มิถุนายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้บริหาร ซาบีน่า แย้ม ราคาหุ้นพุ่งอาจเป็นนักลงทุนขาใหญ่เข้าเก็บหุ้น เตรียมปรับราคาชุดชั้นในล็อตใหม่ที่จำหน่ายใน4 เดือนข้างหน้า 5-10% ขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เล็งหันขายต่างประเทศมากขึ้น จากปัญหาเงินเฟ้อสูง -การเมืองกำลังซื้อในประเทศลดลง "บุญชัย" ค่าเงินบาทอ่อนส่งผลดีรับกำไรออร์เดอร์โออีเอ็มมากขึ้น ดันกำไรสุทธิปีนี้โตมากกว่า12% จากปีก่อน

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)หรือSABINA เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ซึ่งสวนกับตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง ซึ่งบริษัทไม่ทราบว่านักลงทุนกล่มใดเข้ามาลงซื้อหุ้นของบริษัทโดยต้องรอให้ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในช่วงสิ้นเดือนนี้ก่อนถึงจะทราบ ซึ่งส่วนตัวมองว่าอาจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ หรือกองทุนเข้ามาซื้อหุ้น ประกอบกับจำนวนหุ้นของบริษัทมีจำนวนที่น้อยเมื่อมีความต้องการซื้อทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ คาดว่ารายได้จากการจำหน่ายสินค้าในประเทศจะชะลอตัวจากการที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและปัจจัยทางการเมือง ส่งผลให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายลง บริษัทจึงจะหันไปส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศทั้งในภายใต้แบรนด์ของบริษัทและการรับจ้างผลิต(โออีเอ็ม)มากขึ้น เป็น 45% และลดรายได้จากการขายในประเทศเหลือ 55% จากต้นปีนี้ที่บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากต่างประเทศ 40% ส่วนรายได้จากการขายในประเทศที่ 60%

สำหรับการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงนั้น ส่งดีต่อบริษัททำให้มีกำไรมากขึ้น ในส่วนของคำสั่งซื้อสินค้า (ออร์เดอร์)จากต่างประเทศที่รับแล้วและออร์เดอร์ใหม่ที่จะเข้ามา บริษัทจึงมีแผนขายต่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งกับเปลี่ยนกลุ่มตลาดต่างประเทศจากอเมริกาไปยังตลาดยุโรป ทำให้บริษัทมีกำไรจากการขายมากขึ้น เนื่องจากราคาจำหน่ายในยุโรปสูงกว่าอเมริกา

ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปีนี้ขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 12 % ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มสูงกว่าปี 50 และถือว่ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยปี 50 บริษัทกำไรสุทธิ 122.7 ล้านบาท แต่บริษัทยังคงมีเป้าหมายที่จะเน้นทางด้านการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองมากขึ้น เพื่อจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย โดยคาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 2 ,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 10 % จากปี 50 ที่มีรายได้ 2,000 ล้านบาท

นายบุญชัย กล่าวว่า สำหรับยอดขายของบริษัท 5 เดือนแรกปีนี้ยอดขายดีขึ้น จากที่ในช่วงเดือนพฤษภาคม นั้นถือว่าเป็นช่วงที่บริษัทมียอดขายที่ดีที่สุดเนื่องจาก เป็นช่วงที่ใกล้เปิดเทอมของนักเรียนนักศึกษาที่จะต้องมีการซื้อสินชุดชั้นในใหม่เพื่อรอเปิดเทอม ส่งผลให้ไตรมาส2/51บริษัทมีรายได้ดีกว่าไตรมาส1/51 ที่บริษัทมีรายได้รวม 480 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาส3/51เป็นช่วงที่บริษัทมียอดขายไม่ดีจากเป็นช่วงที่มีการลดราคาสินค้า

ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิต 1.2 แสนตัวต่อเดือน แบ่งเป็นการรับจ้างผลิตประมาณ 40,000 ตัวต่อเดือน และที่เหลือเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศภายใต้แบรนด์ซาบีน่า และจากการที่ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% จากชิ้นผ้าและผ้าลูกไม้ ทำให้การผลิตสินค้าใหม่ในครั้งถัดไปอีก 4 เดือน บริษัทฯ อาจปรับราคาสินค้าขึ้นอีกประมาณ 5-10 %

อย่างไรก็ดี ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2550-2552 บริษัทฯ คาดว่าจะเปิดร้านค้าของซาบีน่าให้ได้ประมาณ 5 แห่ง โดยในปีหน้ามีแผนงานที่จะเปิดร้านซาบีน่าอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 3 แห่ง คือ สาขาแฟชั่นไอร์แลนด์ สาขาหัวหิน และล่าสุดเปิดร้านซาบีน่าในศูนย์การค้ามาบุญครอง โดยใช้งบประมาณ 14 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.