แบล็คแคนยอนหวั่นครึ่งหลังคว้าสิทธิ์ผุดสาขาในมิวเซียม


ผู้จัดการรายวัน(19 มิถุนายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

แบล็คแคนยอนหวั่น ครึ่งปีหลังทำธุรกิจลำบาก เหตุปัจจัยลบด้านการเมือง และน้ำมันแพง แต่ยังเดินหน้าผุดสาขาไม่หยุด ล่าสุดคว้าสิทธิ์เปิด 2 สาขาในพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ถนนสนามไชย

นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้มองว่า การทำธุรกิจทุกอย่างจะมีความยากกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการเมืองที่ส่งผลกระทบโดยตรง ทุกคนไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร มีทางออกอย่างไร การลงทุนจึงอาจจะได้รับผลกระทบ หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาจิก็ไม่กล้าเดินทางเข้ามาเที่ยว ทำให้รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นรายได้สำคัญอย่างหนึ่งของไทยสูญเสียไปด้วย

ขณะที่ปัญหาราคาน้ำมันก็ยังคงขึ้นต่อเนื่อง ราคาวัตถุดิบในการทำธุรกิจของบริษัทฯก็ปรับตัวตลอด ซึ่งช่วงต้นปีบริษัทฯปรับราคาไปบ้างแล้ว 5-10% หลังจากยืนราคาเดิมมา 3 ปี แต่คาดว่าช่วงนี้คงยังไม่ปรับราคา แต่จะเน้นการบริหารควบคุมต้นทุนให้ดีที่สุด เช่น การประสานงานกับซัปพลายเออร์ให้จัดส่งวัตถุดิบเป็นชุดๆ หรือการทำสัญญาระยะยาวจะได้ราคาตายตัว เป็นต้น

“ช่วงนี้อาจจะกระทบหน่อย โดยเฉพาะเรื่องฝนตกหนักมาก น้ำมันขึ้นราคาไม่หยุด แต่โดยรวมแล้วยอดขายก็ยังไม่ได้ตกมาก ยังดีอยู่”

ส่วนแผนการขยายสาขายังมีเหมือนเดิม โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเปิดอีก 12-15สาขา จากครึ่งปีแรกเปิดไปแล้วประมาณ 10 สาขา เช่นที่ เทสโก้โลตัสศาลายา เทสโก้โลตัสบ้านฉาง บิ๊กซี อยุธยา จังก์ซีลอนภูเก็ต ดิโอเอซิสเนวาด้าอุบลราชธานี ปั๊มปตท. สุขาภิบาล2และร่มเกล้า

ล่าสุดบริษัทฯได้ขยาย 2 สาขาใหม่ในทำเลใหม่คือ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ถนนสนามไชย หรือกระทรวงพาณิชย์เดิม มีทั้งแบบคอร์เนอร์ และร้านนั่งทาน โดยเป็นการเสนอแข่งขันกับผู้ประอบการอื่นอีกรวม 4 ราย ซึ่งบริษัทฯชนะได้รับการคัดเลือก จากสถาบันการเรียนรู้และสร้างสรรค์ให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจในสาถนที่ดังกล่าว

โดยทำเลนี้จะใช้ชื่อว่า Muse Caf? by Black Canyon ให้บริการเครื่องดื่ม กาแฟ เบเกอรี่ ในรูปแบบคอฟฟี่คีออส พื้นที่ 4 ตารางเมตร อยู่ในห้องจำหน่ายของที่ระลึกชั้น 1 และ Muse Kitchen by Black Canyon ตั้งอยู่ในอาคารนิทรรศการชั่วคราว พื้นที่ 150 ตารางเมตร

“ถือว่าเป็นทำเลใหม่ก็ได้ที่เราเปิดในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งก่อนหนี้เราก็เคยเปิดในสยามสมาคมฯซึ่งก็มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆเหมือนกัน ปรากฎว่ายอดขายดี ที่นี่ก็เหมือนกัน เปิดทดลองมาไม่กี่เดือนยอดขายก็ไปได้ดี ลงทุนไปประมาณ 2 ล้านบาท คาดว่าภายใน 3 ปีจะคืนทุนได้” นายประวิทย์กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.