สำคัญ ศังขวณิช"ผู้เติมช่องว่างตลาดอาคารสำนักงาน"


นิตยสารผู้จัดการ( กุมภาพันธ์ 2533)



กลับสู่หน้าหลัก

เพียงช่วงระยะเวลาจากต้นปี 2532 เมื่อโครงการสร้างถนนพระราม 9 ตัดผ่านถนนที่จัดได้ว่าเป็นเส้นเลือดสำคัญของการจราจรในกรุงเทพฯอย่างถนนรัชดาภิเษก และเป็นเส้นทางลัดตัดสู่ย่านสำคัญระหว่างถนนราคำแหงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประกอบกับพื้นที่ที่เคยเป็นที่ยอดนิยมอย่างถนนสีลมและราชประสงค์ได้กลายเป็นบริเวณที่จวนเจียนจะกลายเป็นอัมพาตทางการจราจรไปเสียแล้ว เงื่อนไขทั้งสองนี้ได้ทำให้พื้นที่บริเวณในซอยศูนย์วิจัยเป็นพื้นที่แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษลงทุนสร้างโครงการเรียลเอสเตทกันหลายโครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านโครงการสำนักงาน ที่นับวันจะมีการแข่งขันกันสูงขึ้นทุกที

หนึ่งในโครงการทั้งหลายนั้นมีโครงการสำนักงาน RAINTREE OFFICE GARDEN ของบริษัท เซ็นเตอร์ 9 ที่มีสำคัญ ศังขวณิช เป็นกรรมการผู้จัดการรวมอยู่ด้วย

ชื่อ "สำคัญ ศังขวณิช" อาจจะไม่คุ้นหูนักสำหรับวงการเรียลเอสเตท แต่ในวงการการตลาดในอุตสาหกรรมน้ำมันในช่วง 10 ปีที่ผ่านมารู้จักเขาดีในฐานะลูกหม้อคนหนึ่งของเชลล์ซึ่งทำงานที่เชลล์ตั้งแต่งานด้านการเงิน , การตรวจสอบภายในและตำแหน่งสุดท้ายคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ก่อนที่จะลาออกมาดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังที่เซ็นเตอร์ 9

ความจริงในช่วงที่เขาทำงานให้กับเชลล์ โดยส่วนตัวเขาเองก็มีหุ้นส่วนอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆในบริษัท OCTA ESTATE ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดการโครงการบ้านจัดสรร และมีกิจกรรมทางวิชาการการตลาด โดยการเป็นอาจารย์พิเศษในโครงการ MBA และ MIS ทางด้าน ADVANCE MARKETING ของธรรมศาสตร์นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาทางการตลาดให้กับบริษัท JSL และ STUDIO ACTIVE อีกด้วย

"การเปลี่ยนแปลงโยกย้ายแหล่งสำคัญทางด้านธุรกิจที่เรียกว่าเป็น PRIME AREA ในกรุงเทพฯนั้น จาการศึกษาของเราจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปประมาณทุกๆ 10-15 ปี จากเดิมเมื่อ 20-25 ปีที่แล้วเราจะนึกถึงที่วังบูรพา และก็มาถึงที่สีลมและราชประสงค์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ช่วงทศวรรษหน้านี้มีแนวโน้มของ PRIME AREA คือบริเวณรัชดาภิเษกและพระราม 9" สำคัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นเตอร์ 9 กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงไปของบริเวณ PRIME ที่เขได้สังเกตมาในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่เลือกลงทุนในพื้นที่แห่งนี้

การที่ BUSINESS AREA มีแนวโน้มมาสู่ถนนพระราม 9 นี้เป็นส่วนหนึ่งของการประจวบเหมาะกับที่กลุ่มเพื่อนๆ ของสำคัญได้รู้จักและขอเช่าที่ดินระยะเวลา 17 ปี กับเจ้าของที่ดิน

ตรงกันข้ามกับโรงเรียนญี่ปุ่นอยู่ห่างจากถนนพระราม 9 800 เมตร พร้อมกับที่มีความคิดในการที่จะตั้งบริษัททางด้านคอนซัลแตนส์อยู่เดิม โอกาสนี้จึงผนวกรวมมาเป็นการตั้งบริษัทเซ็นเตอร์ 9 เพื่อจัดการพัฒนาโครงการปฐมฤกษ์บนที่ดิน 18 ไร่แห่งนี้

ถึงแม้ว่า สำคัญจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านตลาดเรียลเอสเตท แต่ MARKETING CONCEPT คือ CONSUMER IS A KING ซึ่งสำคัญนั้นเข้าใจและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาเริ่มศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อเรียลเอสเตทใกล้กับ PRIME AREA คำตอบชัดเจนก็คือ

โครงการสำนักงาน หลังจากนั้นการศึกษาจึงลงลึกถึงปัญหาที่ผู้บริโภคต้องประสบจากการมีสำนักงานใน OFFICE BUILDING และ HOME OFFICE หรือ MINI OFFICE

"จุดอ่อนและปัญหาที่ลูกค้าได้รับจากอาคารสำนักประเภทที่เป็นตึกสูงๆ คือความขาดแคลนที่จอดรถ ในขณะที่สำนักงานประเภท HOME OFFICE มีจุดอ่อนทางด้านบรรยากาศการทำงานที่ไม่ได้เป็นสำนักงานรองรับการทำงานเหมือนกับสำนักงานอื่นๆ และยูนิตรอบข้างบางครั้งก็ประกอบธุรกิจการค้าของชำต่างๆ ทำให้ความเหมาะสมบางอย่างต้องเสียไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่โครงการสำนักงานไม่มีให้กับลูกค้าก็คือความร่มรื่นของสถานที่รอบข้างในดครงการ" สำคัญ กล่าวถึงการวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าที่ไปใช้ที่ในโครงการประสบมาให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

ด้วยจุดด้อย 2 ประการสำคัญของทั้ง 2 โครงการสำนักงาน จึงนำมาสู่การสรุปเป็นความคิดในการพัฒนาสินค้าและบริการแก่ลูกค้า ในลักษณะของการเป็น OFFICE GARDEN ที่จะมีที่จอดรถอย่างเพียงพอ, มีบรรยากาศของการเป็นสำนักงาน, มีความร่มรื่น รวมทั้งมีบริการทางด้านอื่นๆ เพื่อความสมบูรณ์ของโครงการ

"เราพยายามที่หาช่องว่างทางการตลาด เอาแนวคิดของโครงการสำนักงานที่ยังขาดอยู่ในตลาดมาใช้เพื่อที่เราจะได้ไม่มีคู่แข่งโดยตรง" สำคัญกล่าวเพิ่มเติมของความคิดทางด้านการสร้าง PRODUCT DIFFERENTIATION ให้กับโครงการแรกของบริษัท

โดยอาศัยข้อได้เปรียบของการมีเนื้อที่มากถึง 18 ไร่ การจัดสรรที่ดินเพื่อคอนเซ็ปท์ของการเป็น OFFICE GARDEN จึงเป็นไปได้ไม่ยาก พื้นที่ประมาณ 9 ไร่จะถูกนำมาจัดสรรเพื่อสร้างความร่มรื่นให้เกิดขึ้นในโครงการที่ดินเกือบ 1 ไร่คือบริเวณที่เป็นสวนพักผ่อนกลางโครงการ อีก 8 ไร่ที่เหลือ คือพื้นที่ที่จะนำมาสร้างสถานบริการต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงยิมเนเซียม รวมทั้งที่จอดรถ ที่พร้อมจะทำเป็นอาคารที่จอดรถโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าเมื่อปริมาณความต้องการที่จอดรถสูงขึ้น ในขณะที่อาคารสำนักงานต่างๆ จะถูกจัดสรรบริเวณและออกแบบ เพื่อความเหมาะสมทางการประกอบกิจการของลูกค้าโดยไม่ทำให้บรรยากาศของสำนักงานต้องเสียไปบนเนื้อที่อีก 9 ไร่ทีเหลือ

"ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มลูกค้าที่ดำเนินกิจการที่เรียกว่ามืออาชีพมีธุรกิจประเภทที่ต้องการบรรยากาศการทำงานที่ดี เพื่อการสร้างสรรค์งานอย่างบริษัทโฆษณาต่างๆ, สำนักงานทนายความ, คลินิก,หรือบริษัทที่ทำการค้าระหว่างประเทศ เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องการหน้าร้านติดถนนใหญ่" สำคัญแจกแจงกลุ่มเป้าหมายของโครงการแก่ "ผู้จัดการ" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการนำความรู้และประสบการณ์ทางการตลาดของสำคัญมาผสมผสานได้อย่างมีขั้นตอนต่อเนื่อง

ชัดเจน

บทสรุปของธุรกิจโครงการสำนักงานนั้นอยู่บนพื้นฐานของการเติบโตของเศรษฐกิจของบ้านเราที่บริษัทธุรกิจต่างพอใจกับความเติบโตนี้ สำนักงานจึงเป็นสิ่งที่ต้องการควบคู่กันขึ้นมา และโยกย้ายไปตามพื้นที่สำคัญของย่านธุรกิจ ดังจะเห็นได้จากการย้ายที่ทำงานสำนักงานใหญ่หลายๆ แห่งเช่นของบริษัทประกันภัยใหญ่ๆ ที่มีแนวโน้มมาสู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก กันมากขึ้น หรือแม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ของวงการคอนซูเมอร์โพรดักส์อย่างลีเวอร์ บราเธอร์ ก็เลือกลงหลักปักฐานที่มั่นในบริเวณถนนศรีนครินทร์ ห่างจากถนนรามคำแหงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

บนถนนรัชดาภิเษก เมื่อ 2 ปีก่อน วงการเรียลเอสเตทได้เคยฮือฮากับโครงการ "มินิออฟฟิศ รัชดาภิเษก"ของพงศกร ญาณเบญจวงศ์มาแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นการบัญญัติศัพท์

"มินิคอมเพล็กซ์" ขึ้นเป็นครั้งแรก มาคราวนี้ในปีแรกแห่งทศวรรษ1990 สำคัญ ศังขวณิช ได้นำโครงการ "OFFICE GARDEN" เข้าสู่วงการเรียลเอสเตทเมืองไทยด้วยการเลือกเข้าสู่ตลาดที่ว่างท่ามกลางแนวโน้มของการพัฒนาทัศนคติของผู้บริโภคทางด้าน HEALTH CARE ที่เริ่มเห็นความสำคัญของสุขภาพร่างกายและสภาพแวดล้อมกันมากขึ้น ถึงแม้ว่า "RAINTREE OFFICE GARDEN"จะเป็นโครงการแรกของบริษัทคอนซัลแตนซ์หน้าใหม่อย่างเซ็นเตอร์ 9 แต่น่าจะเป็นโครงการที่จะทำให้ชื่อ "สำคัญ ศังขวณิช" คนนี้ไม่ใช่ชื่อใหม่ที่ไม่คุ้นหูในวงการเรียลเอสเตทอีกต่อไป เมื่อเขาได้บุกเบิกธุรกิจอาคารสำนักงานแบบฉีกแนวจากความซ้ำซากจำเจ เหมือนกับที่ พงศกร ญาณเบญจวงศ์ ได้เคยทำมาแล้ว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.