จีอีผนึก'ควิกแคช-เฟิร์ส ช้อยส์'สยายปีกรุกคืบตลาดบัตรเครดิต


ผู้จัดการรายวัน(12 มิถุนายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

จีอี มันนี่ ประกาศผนึกควิก แคชเข้ากับเฟิร์ส ช้อยส์ ระบุสนองแนวคิด"ตอบรับทุกความต้องการในบัตรเดียว" คาดเริ่มโอนลูกค้าควิชแคกที่เข้าเกณฑ์ให้เฟิร์ส ช้อย์ส์ปลายเดือนนี้ รับจากค่าครองชีพที่สูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น แต่มั่นใจทั้งปียังโตตามเป้าที่คาดไว้ 10% พร้อมรุกออกบัตรเครดิต "เฟิร์สช้อยส์ วีซ่าคาร์ด"เปิดตัวในเดือนกรกฎาคมนี้

นายฟิลิป แทน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการลาด บริษัทจีอี มันนี่ ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนี้ จีอี มันนี่จะรวมการบริหารแบรนด์และบริการด้านการเนของควิกแคชเข้ากับเฟิร์ส ช้อยส์ โดยที่ลูกค้ายังคงได้รับบริการทางด้านการเงินที่มีมาตรฐานสูงเช่นเดิม ภายใต้ทีมบริหารและโครงสร้างธุรกิจเดิม ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวคิดใหม่ของบริษัทที่ว่า "ตอบรับทุกความต้องการในบัตรเดียว"(One Card Fits All Needs)

"จากผลวิจัยล่าสุด ลูกค้าเฟิร์สช้อยส์และควิกแคชมีความต้องการและมองหาผลิตภัณฑ์การเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในบัตรเดียว เพราะการบริหารการเงินหลายๆบัญชี สร้างความยุ่งยากและความไม่คล่องตัวให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นที่มาของการรวมแบรนด์ดังกล่าว"นายฟิลิป แทนกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ "เฟิร์สช้อยส์ วีซ่าคาร์ด" ในรูปแบบ 3 in 1 ที่เพิ่มอำนาจในการใช้จ่ายให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรสามารถซื้อสินค้าผ่านบัตรได้ตามร้านค้าที่รับชำระด้วยบัตรวีซ่าทั่วโลก รวมถึงสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานสูงสุดถึง 60 เดือน โดยวงเงินสินเชื่อเงินสดและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระที่แยกต่างหากจากวงเงินบัตรเครดิต และผ่อนชำระขั้นต่ำเพียง 5%ในแต่ละเดือน ซึ่งคาดว่าจะเปิดบริการได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

นางสาวณญาณี เผือกขำ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด สายธุรกิจสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ จีอี มันนี่ ประเทศไทย กล่าวว่า ลูกค้าของควิกแคชที่เข้าเกณฑ์โอนมาเป็นผู้ถือบัตรเฟิร์สช้อยส์ทั้งนี้ ลูกค้าของควิกแคชที่เข้าเกณฑ์การถือบัตรเครดิตจะโอนมาเป็นผู้ถือบัตรเฟิร์สช้อยส์ วีซ่าคาร์ดแทน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป ส่วนลูกค้าที่ไม่เข้าเกณฑ์ก็ยังคงใช้บริการของควิกแคชอยู่ แต่ในท้ายที่สุดก็จะเหลือแบรนด์เฟิร์ส ช้อยส์เพียงอย่างเดียว และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเปลี่ยนจุดบริการของควิกแคชให้เป็นจุดบริการของเฟิร์ส ช้อยส์เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น

นายฟิลิป แทนกล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า จีอี มันนี่ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 10%หรือคิดเป็น 4,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทอยู่ที่ระดับ 200,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเงินสดคงค้าง 180,000 ล้านบาท สินเชื่อผ่อนชำระ 20,000 ล้านบาท และมียอดลูกค้า 1.9 ล้านราย เป็นลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทจำนวน 56% รายได้สูงกว่า 15,000 ล้านบาท 44% และบริษัทได้เพิ่มรายได้ขั้นต่ำในการขอสินเชื่อเป็นไม่ต่ำกว่า 7,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ต่างจังหวัดไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทต่อเดือน และกรุงเทพฯ 5,000 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ ในภาวะค่าครองชีพสูงและทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัวนั้น บริษัทก็ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะในกรณีของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งขณะนี้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ 3.4% จากเกณฑ์ที่ตั้งไว้ไม่ให้เกิน 3.5% และยังมีโครงการบรรเทาทุกข์ลูกค้าที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าที่มีปัญหาด้านการเงินหรือการผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยควบคุมจำนวนหนี้เอ็นพีแอลด้วย

"ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการปล่อยสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ ส่วนยอดการปล่อยสินเชื่อช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ สำหรับทั้งปีก็เช่นกัน แม้ว่าช่วงนี้อัตราการอนุมัติสินเชื่อจะลดลงบ้าง ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสินเชื่อเงินสดนั้น จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามภาวะต่างๆ อาทิ ช่วงเปิดเทอมก็จะมียอดสูงขึ้นบ้าง เป็นต้น"นายฟิลิป แทนกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.