กลุ่มฮาริเลร่า ทุ่มงบกว่า 400 ล้านบาท ปรับปรุงพร้อมเปลี่ยนชื่อโรงแรมคราวน์
พลาซ่า เป็นฮอลิเดย์ อินน์ สีลม อีกครั้ง ชี้ศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยขยายตัวสูง
เล็งซื้อกิจการโรงแรมพัทยา ภูเก็ต ขนาด 300 ห้อง เผยหลังซาร์สสงบ ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้น
คาดสิ้นปีอัตราเข้าพักอยู่ระดับ 65%
ดร.ฮาริ ฮาริเลร่า ประธานกลุ่มผู้บริหารกลุ่มโรงแรมฮาริเลร่า เจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์
อินน์ สีลม เปิดเผยว่า เมื่อเดือน เม.ย.ปีก่อน กลุ่มฮาริเลร่า ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน
โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ย่าน สีลม ในสัดส่วน 40% ได้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่เหลือ
และกลายเป็นผู้ถือหุ้น 100% หลังจากนั้นได้ปรับปรุงโรงแรมใหม่และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ
ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม อย่างเป็นทางการในวันนี้ (30 มิ.ย.) เป็นต้นไป ซึ่ง เป็นการกลับมาใช้ชื่อฮอลิเดย์
อินน์อีกครั้ง หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนเคยใช้ชื่อโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ คราวน์ พลาซ่ามาแล้ว
การปรับโฉมและเปลี่ยนชื่อใหม่ ในครั้งนี้ ได้ใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรือประมาณ 410 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องพัก 700 ห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ
ระบบเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกทุกห้อง ช่องรับสัญญาณทีวี 13 ช่อง บริการสปา
เป็นต้น
กลุ่มฮาริเลร่า เป็นผู้บุกเบิกนำ เชนบริหารโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เข้ามาในเอเชียเป็นรายแรก
โดย เป็นเจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ในภูมิภาคเอเชีย 4 แห่ง คือ ฮอลิเดย์ อินน์
โกลเด้น มาย ที่ฮ่องกง ,ฮอลิเดย์ อินน์ พาร์ค วิว ที่สิงคโปร์ ,ฮอลิเดย์ อินน์
รีสอร์ต ปีนัง และฮอลิเดย์ อินน์ สีลม กรุงเทพฯ และมีโรงแรมอยู่ในภูมิภาคอื่นอีกหลายแห่ง
เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทยกลุ่มฮาริเลร่า เพิ่งมีธุรกิจโรงแรมเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ
แต่ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงในอนาคต กลุ่มฮาริเลร่ามีความสนใจจะขยายธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
อีกในอนาคตอันใกล้นี้ โดยสนใจจะเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย
คือ ที่พัทยา ขนาด 350 ห้อง และที่ภูเก็ต ขนาด 300 ห้อง เนื่องจากทั้ง 2 จังหวัด
มีโรงแรมเปิดให้บริการจำนวนมาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปสร้างใหม่ แต่จะใช้ลักษณะการเข้าไปซื้อกิจการแทน
เพื่อเปิดดำเนินการได้เร็วขึ้น
นายจอห์น เจ รูสซ์มอนด์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีเชนโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ ในไทย 3 แห่ง คือ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต
ภูเก็ต, ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ต เกาะพีพี และที่ฮอลิเดย์ อินน์ สีลม ซึ่งการบริหารจะเชื่อมโยงเครือข่าย
การจองห้องพักโรงแรมจาก 16 จุดทั่วโลกร่วมกัน โดยเชื่อว่าประเทศไทยสามารถครองความเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวใน
ภูมิภาคเอเชียได้อีกนาน ซึ่งจะส่งผลดี ต่อธุรกิจโรงแรมด้วย
สำหรับเชนโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว เป็น หนึ่งในเชนโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนต็อลที่เป็นระดับ
5 ดาว การปรับโฉมฮอลิเดย์ อินน์ สีลม ครั้งนี้ได้ปรับปรุงห้องพักใหม่ 700 ห้อง
ทาสีอาคารใหม่ และเพิ่มพื้นที่ห้องประชุมสำหรับลูกค้าคนไทยมากขึ้น ซึ่งการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้
ไม่ได้ปรับราคาห้องพักเพิ่ม แต่จะมีความหลากหลายของห้องพักมากขึ้น
ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ามาพักในโรงแรม ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แบ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจ
20% นักท่องเที่ยวผ่าน เอเย่นต์ทัวร์ 30% ที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าสายการบิน และธุรกิจที่เกี่ยว
ข้อง และลูกค้าทั่วไป (วอล์ก อิน)
อย่างไรก็ตาม หลังจากสถาน การณ์โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ในภูมิภาคเอเชียจบลงแล้ว
คาดว่าอัตราการจองห้องพักในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ
65% ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 73% แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ไทยได้รับผลกระทบจากโรคซาร์ส
ที่อยู่ในระดับ 45% โดยขณะนี้พบว่านักท่องเที่ยวจากยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ยังถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มาก นัก เพราะอยู่ในช่วงโลว์ ซีซัน