ฮิโรอากิ ยาหงิ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท แมนดอม คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย)
ซึ่งเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gatsby, Lucido, By
Mandom, Tancho และ Pucelle เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2510 ที่เมืองไอจิ
ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเนื่องจนถึงปัจจุบันเขามีอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น ซึ่งต้องถือว่าอ่อนวัยวุฒิมาก
เมื่อเทียบกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นรายอื่นๆ
เขาเริ่มทำงานกับบริษัท แมนดอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่อายุ
19 ปี โดยในปี 2529-2530 เขาดำรง ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกระจายสินค้า
หลังจากนั้น เขาได้รับมอบหมาย ให้รับผิดชอบงานขายในเขตภาคตะวันตกของญี่ปุ่น
ตั้งแต่ปี 2530-2535 ซึ่งผลงานด้านการขาย ของเขาส่งผลให้เขาถูกส่งตัวไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
บริษัท แมนดอม คอร์ปอเรชั่น (ประเทศมาเลเซีย) ระหว่างปี 2535-2539
หลังจากทำงานรับผิดชอบในมาเลเซียแล้ว ระหว่างปี 2539-2540 เขา ได้เดินทางกลับไปรับตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายขาย
บริษัท กีโน่ เจแปน ซึ่งเป็น บริษัทในเครือของแมนดอม ประเทศญี่ปุ่น ก่อน
ที่ในปี 2540 เขาจะได้รับมอบหมายให้มารับตำแหน่งผู้อำนวยการบริหาร บริษัท
แมนดอม คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จนถึงปัจจุบัน
เขานับเป็นผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนที่สาม ที่ถูกส่งตรงให้มาดูแลบริษัท แมน
ดอม คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่
1 กันยายน 2532 โดยเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัททราฟฟิค โฮลดิ้ง จำกัด
ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนชาวไทยในสัดส่วน 51% ขณะที่บริษัท แมนดอม คอร์ปอเรชั่น
จำกัด บริษัทแม่จากประเทศญี่ปุ่นร่วมลงทุนในสัดส่วน 35% ส่วน ที่เหลืออีก
14% เป็นการลงทุนของนักธุรกิจชาวไต้หวัน
บริษัท แมนดอม ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายรายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ผลิตภัณฑ์ของแมนดอม กว่า 70% จะเป็นสินค้าสำหรับผู้ชาย ขณะที่ประมาณ 30%
เป็นเครื่องสำอางสำหรับสตรี โดยในช่วงปีที่ผ่านมา แมนดอม มีส่วนแบ่งในตลาดเครื่องสำอางในประเทศญี่ปุ่น
ประมาณ 30% ของมูลค่าการตลาดรวม 120,000 ล้านเยน เป็นรอง เพียง Shiseido
แต่หากพิจารณาเฉพาะแบรนด์ผลิตภัณฑ์แล้ว Gatsby สามารถมียอดขายได้มากถึง 12,000
ล้านเยน หรือ 10% ของมูลค่าตลาดรวมเลยทีเดียว
สำหรับแผนการตลาดในประเทศไทยของแมนดอมในปีนี้อยู่ ที่การใช้ผลิตภัณฑ์ Gatsby
ดีโอสเปรย์เป็นสินค้า ตัวรุกอีกครั้งหนึ่ง หลังจาก ที่ Gatsby ได้เปิดตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทดีโอ
สเปรย์นี้เป็นรายแรกๆ ของประเทศ ไทยเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน และประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
"สิ่งที่แมนดอม กำหนดไว้เป็นนโยบายหลักด้านการตลาดในขณะนี้ ก็คือ ทำอย่างไร
ที่จะทำให้กลุ่มผู้บริโภคมี brand awareness ในผลิตภัณฑ์ของ Gatsby มากกว่า
ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน"
ทั้งนี้ ตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นชนิดโรลออน
หรือสติ๊ก และดีโอสเปรย์ กลายเป็นตลาดที่มีการขยายตัว และมีศักยภาพมากที่สุดตลาดหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดดีโอ สเปรย์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 500 ล้านบาทนั้น
เป็นตลาดที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง โดยแมนดอม ตั้งเป้า ที่จะครองส่วนแบ่งตลาดดีโอสเปรย์นี้ให้ได้ประมาณ
10%
ขณะที่ในภาพรวมนั้น แมนดอมมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ภายใต้ แบรนด์ Gatsby
ซึ่งมีหลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เจล โฟม แวกซ์ และสินค้าใหม่สำหรับใบหน้า
ทั้งแผ่นฟิล์มซับหน้ามัน และ ผลิตภัณฑ์สำหรับการโกนหนวด เพื่อ ที่จะครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
โดยมีเป้าหมายยอดการขายรวมประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
20%
"ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Gatsby จะเป็นสินค้าตัวรุกสำหรับตลาดในประเทศไทยเช่นเดียวกับ
ที่ครองใจวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่น โดยในไตรมาสแรกของปี 2543 ยอดขายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม
Gatsby เพิ่มขึ้นถึง 50% ซึ่งทำให้ เรามั่นใจในศักยภาพของตลาดมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ดี ภารกิจหน้าที่ในการผลักดันยอดจำหน่ายสินค้าไม่ว่าจะเป็น สเปรย์น้ำหอมระงับกลิ่นกาย
หรือเจลจัดแต่งทรงผม ภายใต้เครื่องหมายการค้า Gatsby, Lucido, By Mandom
และTancho ในประเทศไทยยังเป็นงาน ที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปว่า ฮิโรอากิ ยาหงิ
จะสามารถทำได้ดี และประสบความ สำเร็จเพียงใด