กลุ่มทีซีซีแลนด์หวั่นพิษการเมืองกระทบการลงทุน


ผู้จัดการรายวัน(9 มิถุนายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มทีซีซีแลนด์ หวั่นปัญหาการเมืองกระทบแผนลงทุนในระยะ 2 ปีขึ้นไป คาดอีก 4-5 เดือนเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่จะส่งผลต่อโครงการโรงแรมของกลุ่ม แถมผลกระทบค่าก่อสร้างขึ้น 5%ส่งผลต้องขึ้นราคาห้องพัก พร้อมชะลอแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยจากเดิม 4 โครงการเหลือ 3 โครงการ ด้านการจัดตั้งกองทุน 3 กอง โรงแรม, ศูนย์การค้าและออฟฟิต ล่าสุดได้ที่ปรึกษาการเงินแล้ว

นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด ในกลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภัคดี กล่าวแสดงความเห็นกรณีความไม่สงบทางการเมืองว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นปัญหาที่น่ากังวลมากที่สุด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กล้าที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านยังโหมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศตนเอง ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นหันไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านของไทยแทน

ทั้งนี้ ยังไม่สามารถชีวัดได้ว่าความไม่สงบทางการเมืองจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนออกมาในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า แต่ขณะนี้ธุรกิจยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทั้งนี้หากในอีก 4-5 เดือนข้างหน้าตลาดไม่ได้รับผลกระทบก็จะเป็นเรื่องที่ดี

อย่างไรก็ตาม หากในอีก 3-4 เดือนเกิดผลกระทบขึ้นทั้งในเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง รวมไปถึงยอดขายโครงการที่อยู่อาศัย จะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนระยะ 2 ปีข้างหน้าของกลุ่ม ทีซีซี แลนด์ ต้องชะลอออกไป เนื่องจากแผนในระยะดังกล่าวยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท ในส่วนของโครงการที่ได้ลงทุนไปแล้วก็จะดำเนินการต่อเนื่องจนแล้วเสร็จ

สำหรับโครงการโรงแรมของบริษัท ทีซีซี แลนด์ นั้นปีนี้คาดว่าจะลงทุนเกือบ 7,000 ล้านบาท ในโรงแรม 8 แห่ง ได้แก่ โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ เชียงใหม่, สมุย 2 แห่ง, และสุขุมวิท 24 นอกจากนี้จะมี Budget Hotel โรงแรมราคาประหยัดในแบรนด์ อิม อีก 4 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่, สุขุมวิท 50, หัวหินและสมุย ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีโรงแรมจำนวน 35 แห่ง ในไทย 25 แห่ง ต่างประเทศ 10 แห่ง และในปี 2554 มีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มอีก 15 แห่ง ประมาณ 2,000 ห้อง โดยมีค่าเช่าต่อคืนตั้งแต่ระดับราคาไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลายหมื่นบาท

นอกจากผลกระทบจากปัญหาการเมืองแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากค่าวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาเหล็ก ซึ่งโดยรวมแล้วต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นประมาณ 5% /โครงการ ดังนั้นเชื่อว่าราคาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการตั้งราคาค่าเช่าของโรงแรมแต่ละแห่ง โดยเฉพาะ “อิม” ที่เป็นโรงแรมราคาประหยัด

ส่วนโครงการที่อยู่อาศัย อาจมีการชะลอแผนการลงทุนออกไปบ้าง แม้ว่าขณะนี้ยอดขายยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ดีเท่าใดนัก ทั้งนี้เดิม บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ ซึ่งเป้นบริษัทในเครือ มีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ จะเปิดเพียง 3 โครงการเท่านั้น

นายโสมพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการหาผู้ร่วมทุนในโครงการขนาดใหญ่ของบริษัทนั้น จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ และวิกฤตพลังงานนั้นของทั่วโลก รวมไปถึงปัญหาการเมืองของไทย อาจทำให้นักลงทุนไม่สนใจที่จะลงทุนเท่าที่ควร หรือชะลอการลงทุนออกไปก่อนได้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องมีการจัดทำแผนพัฒนาระยะยาว (มาสเตอร์แพลน) ซึ่งได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่ในอำเภอชะอำ จ.ประจวบคีรีขันค์ จำนวน 12,000 ไร่ ขณะนี้ได้ผู้ออกแบบมาสเตอร์แพลนเรียบร้อยแล้ว คือ EDAW จากสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะใช้เวลาออกแบบ 1 ปี โดยการออกแบบจะออกแบบโครงสร้างทั้งหมด วางระบบสาธารณูปโภคของทั้งโครงการ ส่วนโครงการย่อยนั้นจะออกแบบในรายละเอียดปลีกย่อยอีกครั้งขึ้นอยู่กับผู้ร่วมลงทุน ส่วนโครงการที่อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และโครงการเอเชีย ทีค แวร์เฮ้าส์ (สมุทรปราการ) ขณะนี้อยู่ระหว่างสรรหาผู้ออกแบบ นอกจากนี้ยังมีโครงการนวมินทร์ซิตี้และโครงการนอร์ธ พาร์ค อีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าของการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์จำนวน 3 กอง ได้แก่ โรงแรม, ออฟฟิตและ ศูนย์การค้านั้น ขณะนี้ได้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ เจพี มอร์แกนฯ, เมอร์ลิลินซ์ และภัทร โดยกองทุนออฟฟิตและศูนย์การค้าจะขายเฉพาะนักลงทุนภายในประเทศ ส่วนโรงแรมนั้นจะขายนักลงทุนต่างประเทศด้วย ส่วนมูลค่าหรือขนาดของกองทุนนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องให้ที่ปรึกษาประเมินทรัพย์สิน รวมถึงผลตอบแทนที่จะได้รับก่อนจึงจะสามารถกำหนดขนาดของกองทุนได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.