รสชาติของความคิดที่ "create8"

รสชาติของความคิดที่ "create8"

โดย สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2551)

กลับสู่หน้าหลัก

หากคุณเป็นอีกคนที่เชื่อว่าดีไซน์ไม่ได้เป็นเพียงผลผลิตแห่งแรงบันดาลใจ แต่ยังเป็นเชื้อเพลิงหลอมหล่อแรงบันดาลใจที่หล่อเลี้ยงความคิดสร้างสรรค์และมีความลุ่มหลงในเรื่องของดีไซน์ เหมือนๆ กับหุ้นส่วนทั้ง 7 แห่ง ร้าน "create8" ร้านที่เป็นมากกว่าร้านหนังสือแห่งนี้อาจมี "แรงบันดาลใจ" บางอย่างที่คุณตามหารอให้มาเก็บเกี่ยวได้ที่นี่

โทนสีทึบทึมและความดิบของวัสดุอย่างอิฐปูนและไม้ บวกกับดีไซน์สไตล์กอธิค (Gothic style) และพนักงานในชุดเสื้อยืดลายไม้กางเขน ทำให้ร้าน create8 ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 3 ของเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ความรู้สึกราวกับโบสถ์เก่าในยุโรปสมัยศตวรรษที่ 12-16 โดยแฝงกลิ่นอายและดีไซน์ลอฟต์ (loft) สไตล์มหานครนิวยอร์กอยู่ด้วย

บรรยากาศที่ดูเคร่งขรึมแต่มีดีไซน์กลายเป็นเสน่ห์ของร้านที่ดึงดูดสายตาและเย้ายวนใจให้นักช้อปหลายคนต้องแวะเข้ามาภายในร้าน create8

โต๊ะเก้าอี้และครัวกึ่งบาร์ในพื้นที่ด้านหน้า มักทำให้หลายคนหลงคิดว่าที่นี่เป็นร้านอาหาร จนเมื่อเดินเข้ามาสำรวจจึงได้รู้ว่า ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร เพราะพื้นที่ด้านในของร้านยังเต็มไปด้วยหนังสือกว่า 5 พันเล่มให้เลือกซื้อหา โดยทั้งหมดเป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของดีไซน์ในแขนงต่างๆ และมากกว่าการเป็นร้านหนังสือที่ขายอาหาร ที่นี่ยังมีนิทรรศการศิลปะมาจัดแสดงให้ลูกค้าได้ดูอีกด้วย "เราไม่ได้มองว่าร้านนี้เป็นแค่ร้านหนังสือ แต่อยากให้ที่นี่เป็นร้านที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เป็นชุมชนของคนที่รักงานดีไซน์และศิลปะจะได้มา hang-out และได้รับแรงบันดาลใจกลับไป" วินัย ฉัยรักษ์พงศ์ ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่ง BUG Studio เป็นตัวแทนบอกเล่าเจตนารมณ์ของร้าน create8

ดีไซน์ที่เหล่าหุ้นส่วนต้องการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ที่แฝงอยู่ในไอเดียของร้าน อาจเริ่มต้นพิศดูได้ตั้งแต่ชื่อร้าน ชื่อ "create8" ไม่ได้หมายถึงว่าร้านนี้เกิดจากหุ้นส่วนที่ทำงานในแวดวง ดีไซน์และครีเอทีฟถึง 8 คน ทว่าร้านนี้เกิดจากหุ้นส่วนเพียง 7 คน แต่เหตุที่ใช้ เลข 8 ก็เพราะเสียงอ่านในภาษาอังกฤษที่คล้องจองกับ "create" บวกกับเลข 8 มีเชฟเหมือนสัญลักษณ์ infinity และไม่ใช่ว่าหุ้นส่วนทุกคนจะทำงานในสายดีไซน์หรือครีเอทีฟ บางคนมาจากสายการเงิน บ้างก็อยู่ในแวดวงการตลาด แต่สิ่งที่นำพาทั้งคน 7 คนมารู้จัก จนตกลงใจรวมตัวกันเปิดร้านหนังสือแห่งนี้นั่นก็คือ หัวใจที่รักและความหลงใหลในเรื่องดีไซน์และงานครีเอทีฟอย่างมากมายเหมือนๆ กัน "ถ้าดูตามอาชีพ พี่ไม่ได้ทำงานด้านดีไซน์ เพียงแต่เราชอบมัน พอมาทำร้านนี้ก็เหมือนว่าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ มันก็ทำให้เราสนุกตั้งแต่ วันแรกที่คุยงานกันจนมาถึงวันนี้ก็ยังสนุกที่ได้คิดสร้างสรรค์อะไรเรื่อยๆ มันเป็นการเติมเต็มอีกส่วนที่อยู่ลึกๆ ในตัวตนของเรา" พจน์ศิรินทร์ สุวรรณรัฐ หนึ่งในหุ้นส่วนที่มาจากสายการเงิน แต่เป็นตัวตั้งตัวตีและเป็น "ครูใหญ่" ประจำร้าน หนังสือแห่งนี้ ไม่เพียงการระดมสมองคิดหาคอนเซ็ปต์หลักในเรื่องดีไซน์ร้านร่วมกัน พจน์ศิรินทร์และหุ้นส่วนคนอื่นที่ไม่ได้ทำงานในแวดวงดีไซน์และครีเอทีฟ เลือกใช้ทักษะและความถนัดตามสายงานของตนบริหารร้าน ขณะเดียวกันก็สอดแทรก ไอเดียสร้างสรรค์ที่แตกยอดมาจากความลุ่มหลงในเรื่องดีไซน์ เป็นแรงบันดาลใจในงานตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ภายในร้าน

ส่วนหน้าที่ในการสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่สำคัญๆ ในร้านเป็นของวินัยที่มักต้องใช้ทักษะและความเป็นมืออาชีพในฐานะดีไซเนอร์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองและผองเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ตั้งใจให้ร้าน create8 เป็นร้านหนังสือ แต่โซนร้านหนังสือกลับถูกจัดให้อยู่ภายในโซนของร้านอาหาร แทนที่จะอยู่ด้านหน้าเพื่อให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เห็นอย่างชัดเจน ราวกับจะตัดขาดจากความวุ่นวายของห้างที่อยู่ด้านนอกและต้องการซ่อนตัวลูกค้าจากสายตาผู้คนที่เดินผ่าน พื้นที่ลึกสุดของร้านหนังสือมีโซฟาบุหนังสีน้ำตาลเข้มในมุมสงบจัดวางไว้สำหรับให้ลูกค้าได้ใช้เวลานั่งดูและเลือกหาหนังสือเล่มโปรดอย่างมีสมาธิ อารมณ์เดียวกับนักบวชนั่งอ่านคัมภีร์ในโบสถ์คริสต์ อันเป็นแรงบันดาลใจที่มาของสไตล์กอธิคในงานดีไซน์ร้าน ทั้งที่ตั้งใจเป็นร้านหนังสือ แต่แทนที่จะมีหนังสือทุกกลุ่มทุกประเภทให้มากที่สุด และจัดเรียงชั้นวางให้แน่นขนัดเต็มพื้นที่ ทว่าที่นี่กลับมีเฉพาะหนังสือว่าด้วยเรื่องของดีไซน์ในแขนงต่างๆ ที่น่าสนใจหรือน่ามีเก็บไว้สะสม ขณะที่พื้นที่กลางร้านกลับแขวนโมบายอะคริลิกใส สำหรับจัดแสดงหนังสือดีไซน์นำเข้าที่น่าสนใจและน่าเก็บสะสม ทำให้ วางหนังสือได้น้อยลงแต่ดูสวยงามและโล่งสบายตามากขึ้นราวกับงานจัดแสดงว่าด้วย "ดีไซน์"

ที่มาของดีไซน์ที่ผิดวิสัยร้านหนังสือทั่วไปเหล่านี้มาจากเหตุผล "อาร์ตๆ" ที่ว่าไม่อยากให้ร้านหนังสือแห่งนี้ดู "hard sale" มากเกินไป สำหรับวินัย ร้านหนังสือเฉพาะทางด้านดีไซน์ถือเป็นอีกความฝันของเขา โดยเขาฝันอยากเห็นร้านหนังสือ create8 เป็นร้านหนังสือที่ทุกคนยอมรับและเชื่อมั่นความเป็น "expert" ในการสรรหา คัดสรร และติดตามจัดหาหนังสือดีไซน์ใหม่ๆ ดีๆ น่าสนใจและน่าเก็บสะสมเข้ามาเสมอๆ

ผ่านมาเป็นเวลาร่วม 7 เดือนนับตั้งแต่เปิดร้าน ทุกวันนั้นร้าน create8 กลายเป็นร้านหนังสือ ในดวงใจของใครหลายคน โดยเฉพาะแวดวงดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ และผู้คนที่รักในเรื่องดีไซน์ "ปกติแล้ว คนที่ทำงานในแวดวงดีไซน์และครีเอทีฟ พวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองอัพเดตช้ากว่าคนอื่น ไม่ได้ หนังสือถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยอัพเดตความคิด สร้างสรรค์ได้เร็วที่สุด เราจึงอยากให้ที่นี่เป็นแหล่งที่คนกลุ่มนี้จะเข้ามาอัพเดทความคิดสร้างสรรค์และก่อเกิดแรงบันดาลใจร่วมกัน" ลึกๆ แล้ววินัยอาจกล่าวจากความต้องการส่วนตัว ความพยายามเพื่อสร้าง "พื้นที่สังสรรค์" สำหรับกลุ่มคนในแวดวงดีไซน์ ครีเอทีฟ และคนที่มีใจรักเรื่องดีไซน์ ต่อยอดมาเป็นพื้นที่ร้านอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ "Rice Cafe & Tea Bar" ให้บริการของทานเล่น อาหารจานเดียว และเครื่องดื่ม ที่นำเมนูโปรดของหุ้นส่วนมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์เป็นเมนูเก๋ไก๋รสชาติแปลกใหม่ เช่น ข้าวแกงเหลืองปลาแซลมอน สปาเกตตีต้มยำกุ้ง ข้าวเหนียวไส้หมูย่างน้ำจิ้มแจ่ว ยำมะม่วงสุกดิบ และชาเชียวกลิ่นแอปเปิลผสมมะลิ หรือชากลิ่นพีชผสมมะลิเติมคอลลาเจน เป็นต้น "ร้านอาหารไม่ได้เพียงกวักเรียกลูกค้าเข้ามารู้จักร้านหนังสือ เท่าที่มีหลายครั้งที่ตอนแรกลูกค้าดูหนังสือแล้วคิดว่าจะยังไม่ซื้อ แต่พอออกมานั่งทานอาหารเสร็จก็กลับเข้าไปซื้อเลย ร้านอาหารก็เลยเป็นจุดดักลูกค้าได้ด้วย" ครูใหญ่ประจำร้านเล่าพร้อมเสียงหัวเราะ

นอกจากดีไซน์ของร้านและสรรพหนังสือเกี่ยวกับดีไซน์ทั้งหลาย นิทรรศการศิลปะเป็นอีกสื่อที่หุ้นส่วนของร้านนี้ตั้งใจมาเพิ่มเติมบรรยากาศแห่งแรงบันดาลใจให้อบอวลทั่วร้าน ซึ่งจะมีการจัดเปลี่ยนหมุนเวียนทุกๆ 2 เดือน ส่วนใหญ่จะเปิดให้เข้าชมฟรี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของร้านก็ได้ นิทรรศการปัจจุบันเป็นการจัดแสดงภาพเขียนสีอะคริลิกรูปหญิงสาวไว้ผมม้า ตาโต อันเป็นภาพสะท้อนตัวตนของผู้วาด ผลงานของศิลปินใหม่หน้าเก่าที่หลายคนรู้จักดีในนาม "โอ๋ Futon" มือเบสสาวเก๋ในวงดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเปลี่ยนเป็นนิทรรศการของศิลปินคนใหม่ในราวเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยศรัทธาในพลังดีไซน์ หุ้นส่วนแห่งร้าน create8 เชื่อว่า ที่นี่น่าจะมีหนังสือ ดีไซน์ดีๆ รอคุณอยู่บนชั้นหนังสือซึ่งอาจต้องแลกมาด้วยราคาหลักพัน ที่นี่น่าจะมีอาหารถูกปากเครื่องดื่มถูกลิ้นที่อาจต้องจ่ายด้วยเงินหลักร้อย สำหรับแรงบันดาลใจ ที่ประเมินค่าไม่ได้ ร้านแห่งนี้ไม่มีขาย แต่มีให้ลูกค้าเข้ามาซึมซับและเก็บเกี่ยวกลับไปฟรีๆ ไม่คิดราคา

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย