STAแนวโน้มธุรกิจยางรุ่งดันกำไรโต


ผู้จัดการรายวัน(29 พฤษภาคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

"ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี" คาดกำไรปี51 พุ่งรับทิศทางราคายางพาราขาขึ้น ดันทั้งปีอาจเติบโตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 -15% ตามแนวโน้มธุรกิจที่ขยายตัว ด้านโบรกเกอร์แนะ "ซื้อเก็งกำไร" ที่ราคาเป้าหมาย 15.42 บาท

นายกิติชัย สินเจริญกุล กรรมการ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า บริษัทได้ประเมินว่าในปี 2551 บริษัทอาจจะมีผลกำไรมากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 10-15% เนื่องมาจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาทิศทางราคายางพารามีการเติบโตขึ้นมาค่อนข้างมาก แต่ในขณะเดียวกันยังคงมีความผันผวนอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้เนื่องจากเป็นไปตามคาดการณ์ที่มองไว้ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเติบโตถึง 210% ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มธุรกิจ ส่วนไตรมาส 2 นี้บริษัทยังคงทำดำเนินธุรกิจตามปกติ โดยโรงงานใหม่ได้มีการขยายโรงงานยางแท่งตามแผนงานที่กำหนดไว้แล้ว

โดยบมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรีได้แจ้งผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2551 ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 355.15 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 237.85 ล้านบาท ในขณะที่ผลงานปี 2550 นั้น บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 108.38 ล้านบาท ลดลงจาก 582.30 ล้านบาทในปี 2549 โดยมีรายได้จากการขายและบริการรวม 50,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% มีปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 721,483 ตัน

"ผลกำไรไตรมาส 1/51 ดีกว่าคาดการณ์ ส่วนทั้งปีจะเป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องบริหารให้ดีที่สุด แต่ความผันผวนของราคาก็ยังมีอยู่ตลอด หากจะบอกว่ามั่นใจว่าจะบริหารได้ 100% หรือไม่นั้นก็คงจะตอบไม่ได้ เพราะสภาวะของอุตสาหกรรมยางมีความผันผวนในระดับสูง"นายกิติชัย กล่าว

ทั้งนี้ปัจจุบันภาพรวมของอุตสาหกรรมยางพารายังอยู่ในระดับราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยถือว่าทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทำให้ราคายางผันผวนไปตามราคาน้ำมัน รวมทั้งมีกองทุนได้เข้ามาเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนกระตุ้นทำให้ราคายางสูงขึ้นอีกด้วย

"ถึงแม้ฝั่งผู้ซื้อจะบอกว่าราคาแพง แต่ปริมาณยางก็ออกมาก็สมดุลกันไม่ตึงตัวและไม่ขาด ราคายางยังอยู่ในระดับราคาที่สูง แนวโน้มจะเป็นยังไงก็ดูยากเหมือนราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ถามว่าจะสูงได้อีกหรือเปล่า ก็สูงได้ ถามว่าตกหรือเปล่า ก็เป็นไปได้เหมือนกัน ความผันผวนมีโอกาสที่จะเกิดได้สูง Volatility ค่อนข้างสูงมาก ซึ่งก็จะส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทด้วย" นายกิติชัย กล่าว

ขณะเดียวกันจากต้นปีถึงปัจจุบัน ราคายางพารามีการปรับตัวขึ้นกว่า 30% โดยปัจจุบันราคาในตลาดโลกปรับขึ้นไปที่ 3,100 กว่าเหรียญต่อตันจากไตรมาส 1/51 ที่ราคาอยู่ที่อยู่ที่ 2,400-2,800 เหรียญฯต่อตัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าราคาน่าจะยังคงเป็นขาขึ้น จึงเชื่อว่าจะสะท้อนไปในผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสต่อ ๆ ไปให้ดีขึ้นด้วย

ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทให้คำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 15.42 บาทต่อหุ้น เนื่องมาจากผลกำไรของบมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรีประจำไตรมาส 1 ปี 2551 ที่ดีกว่าการคาดการณ์ และประเมินว่าในไตรมาสต่อไป STA น่าจะสามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องตามทิศทางราคายางที่ยังเป็นขาขึ้นเพราะราคาน้ำมันประกอบกับเป็นฤดูกาลผลัดใบ

ขณะที่ ล่าสุดราคายางพารา อยู่ที่ 2,900-3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันสำหรับยางแท่งและยางแผ่นรมควันในตลาด SICOM อีกทั้งจากอุปสงค์ของการใช้ยางทั้งในและต่างประเทศที่ยังขยายตัวโดดเด่น จึงทำให้มีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับประมาณการยอดขายและกำไรสุทธิปี 2551 เพิ่มขึ้นจากในปัจจุบัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.