|
น้ำมันทำขาดดุลปีนี้3แสนล้าน
ผู้จัดการรายวัน(26 พฤษภาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
น้ำมันสัปดาห์นี้เตรียมปรับขึ้นอีกระลอกโดยเฉพาะดีเซลจ่อทะลุ 38 บาทต่อลิตรหลังค่าการตลาดยังติดลบกว่า 2 บาท ด้านตลาดโลกยังผันผวนสูง ตลอดปีนี้หากราคาไม่ลดต่ำไปกว่านี้และสูงต่อเนื่องไทยเสี่ยงขาดดุลการค้าทั้งปีพุ่ง 3 แสนล้านบาท ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายเล็กอ่วม ปั๊ม PT เลิกขายส่งน้ำมัน และชะลอการขยายปั๊มเพิ่ม สาเหตุน้ำมันทุกลิตรที่ขายขาดทุน ทำให้ต้องหันมาบริหารจัดการองค์กรภายในโดยลดค่าใช้จ่ายและจัดหาน้ำมันให้เร็วขึ้นก่อนราคาขยับ หมักอุ้ม ปตท. ลั่นต้องเน้นกำไรเอาใจผู้ถือหุ้น
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาขายปลีกน้ำมันสัปดาห์นี้ยังมีทิศทางที่จะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกโดยเฉพาะดีเซลที่ยังมีค่าการตลาดติดลบเฉลี่ยกว่า 2 บาทต่อลิตรดังนั้นคงจะต้องติดตามมาตรการของภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงพลังงานที่จะได้ข้อสรุปจาก 4 โรงกลั่นในการช่วยลดค่าการกลั่นเพื่อนำมาดูแลปัญหาน้ำมันแพงวันนี้(26 พ.ค.)ว่าจะได้มากน้อยเพียงใดและจะนำมาจัดการด้วยการลดราคาน้ำมันเป็นการทั่วไปหรือเป็นการช่วยเฉพาะรายสาขา เช่น ประมง ขนส่ง อย่างไรก็ตามหากช่วยเฉพาะรายสาขาราคาน้ำมันดีเซลก็จะต้องปรับขึ้นอีกค่อนข้างแน่นอนแต่หากช่วยเป็นการลดราคาให้ทันทีก็จะชะลอการปรับขึ้นไปได้ช่วงสั้นๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงอยู่ในภาวะผันผวนในระดับสูงตามกระแสข่าวการเก็งกำไรจะมีการเทออกทำกำไรระยะสั้นๆ ก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาต่อเนื่องเพราะหลายฝ่ายต่างประเมินความต้องการยังสูงเมื่อเทียบกับการผลิต ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันแพงสิ่งที่น่ากังวลคือภาวะการขาดดุลการค้าของไทยที่ล่าสุด 4 เดือนแรกปีนี้ก็ขาดดุลกว่า 9 หมื่นล้านบาทที่ปัจจัยหลักมาจากการนำเข้าน้ำมันซึ่งหากราคาน้ำมันตลาดโลกยังอยู่ในระดับปัจจุบันและสูงไปกว่านี้ตลอดปีนี้ไทยอาจขาดดุลการค้าถึง 3 แสนล้านบาทได้หากไม่มีแนวทางและมาตรการในการลดการนำเข้าน้ำมันอย่างจริงจัง
นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.เอกรัฐวิศวกรรม กล่าวว่า การขาดดุลการค้าค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากจากปัญหาน้ำมันแพงภาครัฐต้องดูแลให้ดีทั้งการนำเข้าน้ำมันที่ยังคงสูงต่อเนื่องซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการที่จะทำอย่างไรให้เกิดการประหยัดและหาทางลดการพึ่งพิงด้วยการหันไปส่งเสริมพลังงานทดแทนมากขึ้นเช่น NGV โดยเห็นว่าการขับเคลื่อนยังช้าไป ขณะเดียวกันควรดูแลการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็นและหันมาใช้สินค้าในประเทศ
ผู้ค้าน้ำมันรายเล็กดิ้นหนีตาย
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันขายปลีกที่ต่ำกว่าราคาหน้าโรงกลั่นในช่วงนี้ ทำให้ผู้ค้าน้ำมันทุกค่ายประสบปัญหาการขาดทุนทุกลิตรที่จำหน่าย ซึ่งปั๊มน้ำมันPTเองก็หนีก็ประสบปัญหาการขาดทุน ดังนั้นบริษัทฯจึงตัดสินใจหยุดทำธุรกิจค้าส่งน้ำมันให้กับปั๊มไม่มีแบรนด์และโรงงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่คุ้มทุน แต่จะหันกลับมาทำธุรกิจขายส่งน้ำมันอีกครั้งถ้าสถานการณ์น้ำมันดีขึ้น
ส่วนแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์PTในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ปั๊มรวมเป็น 250 แห่งทั่วประเทศ ลดลงจากเดิมที่เคยมีแผนจะขยายปั๊มเพิ่มอีก 45 แห่ง เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้การบริโภคน้ำมันของประชาชนโดยรวมลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันทุกลิตรที่จำหน่ายไม่มีกำไร จึงได้ไม่เร่งรีบที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันในช่วงนี้
นายพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า การปรับตัวในฐานะเป็นผู้ค้าน้ำมันรายเล็กภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวน ทำให้เน้นด้านการบริหารจัดการโดยพยายามลดค่าใช้จ่าย และจัดหาน้ำมันให้เร็วก่อนที่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่างปตท.จะประกาศปรับขึ้นราคาขาย เพื่อลดการขาดทุนให้น้อยที่สุด โดยบริษัทฯมีคลังน้ำมันหลายแห่งกระจายทั่วประเทศ อาทิ คลังที่ลำปาง ขอนแก่น สระบุรี สมุทรสาคร ชุมพร และนครศรีธรรมราช เป็นต้น ทำให้ไม่มีปัญหาด้านการสต็อกน้ำมัน
ปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการอยู่เดือนละ 30 ล้านลิตร ลดลงประมาณ 5% ขณะที่ยอดขายส่งน้ำมันเดือนละ 10 ล้านลิตรได้เลิกไปชั่วคราวก่อน คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้น่าจะไม่ดี เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนในช่วง 5 เดือนแรกของปี อันเนื่องจากค่าการตลาดติดลบ
ทั้งนี้ ปั๊มPT ได้หันมาจำหน่ายพลังงานทดแทน เช่นแก๊สโซฮอล์ 95 หลังจากมีอัตราการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นทางเลือกในช่วงราคาน้ำมันแพง แต่ยังไม่มีแผนที่จะขายน้ำมันแก๊ซโซฮอล์อี 20 และดำเนินธุรกิจให้บริการก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)สำหรับยานยนต์ เนื่องจากเป็นการใช้ก๊าซฯผิดประเภท ทำให้ไทยต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศ เพราะต้องนำเข้าก๊าซหุงต้มในราคาสูงถึง 800 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน มาขายในราคาควบคุมที่ 320 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้ในภาคการขนส่ง
การเมือง สนทนาประสาสมัคร 25 พ.ค.51
หมักอุ้ม ปตท.เน้นกำไรเอาใจผู้ถือหุ้น
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตอบคำถามจากประชาชนทางบ้านในรายการสนทนประสาสมัครที่เรียกร้องให้ทุกปั๊มโชว์ต้นทุนให้ประชาชนดูด้วยเพื่อความโปร่งใส เพราะปีที่แล้ว ปตท.กำไรสูงมาก ปีนี้ควรจะช่วยชาติเพราะเดือดร้อน โดยนายสมัคร กล่าวว่า พูดอย่างนี้ง่ายๆ ดีกว่าว่า ใครจะทำมาหากินอย่างไร จะมาแสดงความสุจริตกันนั้น บางทีไม่ได้ทุจริตหรอก เขาก็กันไว้ เขากันไว้ที่เขาจะหากำไรในธุรกิจของเขา เขาเป็นบริษัทซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ ความโปร่งใสต้องมีอยู่ในตัวแล้ว แต่ว่าทำธุรกิจการค้าต้องให้โอกาสเขาบ้าง จะร้องทุกข์ว่าให้เอากำไรมาแบ่งหน่อยมาลดราคาหน่อยก็พอได้ แต่ว่าลองจะดูสิว่าในทางสากลนี้ เขาจะทำอย่างไรกันไหม
"คือแม้ ปตท. จะเอื้อเฟื้อมา ต่อไปก็หดหายกำไรหด คือไปทำอย่างนั้นเข้าปั๊บคนที่ถือหุ้นเขาบอกว่าอย่างนี้ได้อย่างไร ทำธุรกิจอย่างนี้ต้องมีกำไรบ้างอย่างนั้น ผมไม่ออกรับแทนเขาหรอกครับ แต่ว่าที่สิ่งบอกมานี้เขาคงเอื้อเฟื้อได้เป็นครั้งคราว พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ท่านก็พยายามเบี่ยงไปเอาโน่นเอานี่ คือถ้าหากสมัยก่อนไม่บ้าเลือดขนาดนี้ สมัยบาร์เรลลละ 50 เหรียญ 60 เหรียญก็ยังพอนั่นได้ มันเข้าไปหยุด มันหยุดอยู่กับที่ แล้วเขาก็นั่นไว้ เขาเก็บแพงแล้วก็หยุดตรงแพง เขาเก็บสะสมไว้ มันแพงขึ้นอีกเขาก็เอามาช่วย เดี๋ยวนี้ไม่ มันเดินตามวัน เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นเรื่องตลก" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ขอท่านทั้งหลายได้โปรดเถอะว่า ถ้าเราสู้มันไม่ได้ก็ต้องหาทางเบี่ยงบ่ายไปอย่างอื่น เวลานี้แอลกอฮอล์เข้าไป E80 เติม 20 เชื่อว่าไม่นานจะต้องได้ 30 – 40 คิดทางนี้ดีกว่า คิดทางดีเซลท่านจะทำอะไรต่าง ๆ ก็น่าจะคิดมากกว่า แต่ความบ้าของคนที่ขึ้นราคามันไม่มีเหตุผล ก็คิดสิบอกถ้าเกิน 100 ก็บ้าแล้ว แล้วมา 110 120 เมื่อวันที่น้ำมันดิบสุดท้าย 129 ป่านนี้ขึ้นไป 130 แล้วก็พูดกันแบบชนิดทำหน้าตาเยาะเย้ยถากถาง จะขึ้นไม่ถึง 150 จะขึ้นไม่ถึง 200
"ไอ้บ้าคนหนึ่งพูดเมื่อวานบอกว่าจะ 300 เหรียญ ถึงบ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องใช้กันแล้วครับ ต้องย้ายไปใช้ทางอื่นแล้ว ถึงขนาดนั้นกำลังนี้ราคานี้ไม่มีเหตุผล คือถ้าปั่นราคาทองยังพอได้บ้าง มันของมีค่าแล้วปั่นกันไปปั่นกันมา นี่ปั่นราคาแล้วเศรษฐกิจทั่วโลกปั่นป่วนหมด คนในโลกจะยอมให้เล่นอย่างนี้เท่าไรก็สุดแท้แต่" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า หัวโจกที่เที่ยวไปชี้แจงใครต่อใครต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็อยากจะดูสิว่าการปั่นนี้มันมาจากคนที่หุบปากไม่พูดอย่างไรหรือเปล่า น่าคิดนะ ไม่มีเหตุผล ราคาน้ำมันซึ่งขึ้นเอาๆ ไม่ใช่หมด ไม่ใช่ ยังมีอยู่ แต่ว่าปั่นราคากันตามใจชอบ แล้วอ้างว่าเพราะดอลลาร์อเมริกาตก มันจะตกอะไรหนักหนา มันสวนทางกับที่ขึ้น เหตุผลที่ฟังๆ ไม่ขึ้นหรอก การปั่นอย่างนี้ควรจะมีรับผิดชอบ ราคาข้าวขึ้นมาหน่อยเดียวเท่านั้นมีคนแว้กเข้ามาแล้ว แต่ราคาน้ำมันขึ้นพรวด ๆ ตนก็คำถามยังตอบไม่ตรงหรอก แต่ว่าเหมือนกับไปออกรับแทน ปตท.เขา เขาเป็นธุรกิจ เขาจะแบ่งปันกำไรมาให้นั่น ถ้าหมดตัวไปแล้วคนถือหุ้นเขาจะว่าอย่างไร ธุรกิจการค้าต้องพอสมควรแก่เหตุ เขาค้ามากเขาก็กำไรมาก เท่านั้นเอง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|