1 กรกฎาคมปีนี้ บริษัท ททบ.5 จำกัด เซ็นสัญญาเป็นผู้เช่าสัมปทานโทรทัศน์
ดาวเทียม TGN (TV 5 Global Network) เป็นเวลา 3 ปี (2 ปี+option 1 ปี) ภายใต้แรงกดดันที่ต้องเพิ่มทุน
บริษัท ททบ.5 จำกัด เป็น 1,100 ล้านบาทจากเดิม 250 ล้านบาท โดยเฟสแรก 660
ล้านบาท มาจากทุนเดิม 250 ล้านบาท+การแปลงสัญญาเป็นทุน 80 ล้าน+Private Placement
อีก 330 ล้านบาท ต่อจากนั้นในเฟสสองจึงระดมทุนจากการขาย "หุ้น ททบ.5" ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อีก 440 ล้านบาท
"เมื่อใดเราเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ เท่ากับเรามีสถานี 2 ช่องในมือ คือ สถานีช่อง
5 และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม TGN ซึ่งเป็นจุดแข็งของเรา" พล.ท.ธีระ บุญพิทักษ์ประธานกรรมการ
เครือบริษัท ททบ.5 เล่าให้ฟัง โดยตั้งเป้าช่อง 5 ไว้ที่ 1,200 ล้านบาทและเครือบริษัท
ททบ.5 อีก 520 ล้านบาท
เบื้องหลัง due diligence ของหุ้น "บริษัท ททบ.5 จำกัด" อยู่ที่มูลค่าเพิ่มในโครงการสถานีโทรทัศน์
TGN ที่มีเรตติ้งผู้ชมวันละ 3 ล้านคนจากฐานคนรับสัญญาณได้ 350 ล้านคน ใน
155 ประเทศ โดยผ่านสัญญาณดาวเทียมครอบคลุม 4 ทวีป ทั้งอเมริกา-ยุโรป-ออสเตรเลีย
และเอเชีย แต่ที่ผ่านมาโครงการนี้ขาดทุนตลอด 5 ปี เพราะจุดอ่อนเรื่องการบริหารซอฟต์แวร์รายการได้ละเลยความสามารถแข่งขันเชิงธุรกิจ
ไปมุ่งเน้นรายการเพื่อส่งเสริมนโยบายและกิจกรรมของรัฐมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ปีนี้เงินรายได้หลักของ TGN จะมาจากค่าโฆษณาที่ตั้งเป้า 50
ล้านบาท คิดค่าโฆษณานาทีละ 20,000 บาท และค่าเช่าเวลาซึ่งระยะแรกเก็บในอัตรา
60,000 บาทต่อชั่วโมง โดยมีจุดแข็งที่ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ในลักษณะ bilingual-trilingua
และกำหนด prime time แต่ละโซน เช่น เวลา 24.00-4.30 น. เป็นของโซนยุโรป ขณะที่เวลา
9.00-13.00 น. เป็นโซนอเมริกา และเวลา 15.00-23.00 น. เป็นโซนออสเตรเลียและเอเชีย
ซึ่งมีตลาดญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยช่วงเวลา prime time เหล่านี้จะมีรายการพิเศษเฉพาะ
และมี local dealer แต่ละโซนทำหน้าที่ดูแล marketing & customer service
การรับสัญญาณแก่ผู้ชมด้วย
ความพยายามปรับตัวเป็นธุรกิจมหาชนในนโยบาย "สามประสาน" ให้คล่องและมีผลกำไร
ดูได้จากการจ้างทีมที่ปรึกษามืออาชีพทั้งด้านการเงินอย่าง บล.กิมเอ็ง, กฎหมายอย่างอนุรักษ์และบริษัทตรวจสอบบัญชีอย่างธรรมนิติเข้ามา
วางแผนระบบการจัดการ และเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาเป็นสาย จปร.14 สายเดียวกันทั้งหมด
ได้แก่ "พล.ท.ณรงค์ เจริญฤทธิ์" เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ททบ.5 จำกัด
ที่ต้องรับผิดชอบให้ได้เป้า 190 ล้านบาท, "พล.ท.สาธิต นิมิตรกุล" กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ททบ.5 มาร์เก็ตติ้ง ต้องหาโฆษณาให้ได้ 320 ล้านบาท หลังจากที่เดือนมกราคมปีนี้เดือนเดียวทำได้
196 ล้านบาท, "พล.ท.นิรันดร์ เรือนแก้ว" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ททบ.5 เรดิโอ
เจ้าของคลื่น FM.94 Bangkok Radio ที่เครือเอไทม์มีสัญญาเช่าเหลืออีก 24
ล้านบาท และ "พล.ท.ชาญณรงค์ เจริญศุข" กรรมการ ผู้จัดการบริษัท ททบ.5 โปรดักชั่น
แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ครบวงจรทั้งห้องส่งทันสมัยระบบไฟดิจิตอลที่ลงทุนกว่า
250 ล้านบาท, ห้องตัดต่อ, รถโอบี ฯลฯ มีเป้ารายได้ปีนี้ 40 ล้านบาท
ทั้งหมดในโครงการเหล่านี้ อาจจะเป็นความภูมิใจของผู้บริหาร ททบ.5 กับมิติเครือข่ายใหม่
TGN ที่ครอบครองพื้นที่โลกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการโทรทัศน์ไทย