|
โอสถสภาบุกเคเบิลทีวีไลฟ์เปิดทางร่วมทุนเล็งลุยมีเดียเต็มสูบ
ผู้จัดการรายวัน(16 พฤษภาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
โอสถสภารุกสื่อเคเบิลทีวี เอื้อการโปรโมทสินค้า ร่วมทุนไลฟ์ อิน ผุดบริษัท เอฟแอลทีวี ดูแลช่องวาไรตี้วัน เผยไลฟ์ อิงค์ เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 230 ล้านบาท เตรียมรองรับการขยายธุรกิจใหม่ 3 ทาง ทั้งมีเดีย โฆษณา และสิ่งพิมพ์ มั่นใจสิ้นปียังเติบโตตามเป้า 15-20% จาก 400ล้านบาทในปีก่อน
นายศิวะพร ชมสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ร่วมทุนกับทางบริษัท โอสถสภา จำกัด จัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ เมื่อช่วงต้นปีนี้ ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ชื่อว่า “บริษัท เอฟแอลทีวี จำกัด” ซึ่งย่อมาจากฟิวเจอร์ไลฟ์ทีวี โดยทางไลฟ์ทีวีได้ถือหุ้น 55% และบริษัทฯในเครือโอสถสภาถือหุ้น 45%
ทั้งนี้บริษัทใหม่ดังกล่าวนี้จะเข้ามารับผิดชอบและกำกับดูแลช่องวาไรตี้วัน ซึ่งเดิมออกอากาศมาได้ปีกว่าแล้ว โดยช่องดังกล่าวจะมีคอนเท้นท์รายการที่หลากหลาย เหมือนฟรีทีวีเกือบทั้งหมด แค่เพียงไม่มีรายการข่าว เช่น บันเทิง กิน เที่ยว แฟชั่น ทั้งนี้ทางไลฟ์ทีวียังมีหน้าที่ในการจัดหาคอนเท้นต์ ส่วนบริษัทฯในเครือโอสถสภาจะเป็นผู้บริหารช่อง รวมถึงการหาสปอนเซอร์ ในลักษณะไทอินเข้ามายังรายการต่างๆ
“ผมมองว่าการที่ทางโอสถสภาเข้ามาถือหุ้นในเอฟแอลทีวีครั้งนี้ เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งของการโปรโมทสินค้า เพราะมองว่าเคเบิลทีวีกำลังได้รับความสนใจจากเอเจนซี่มากขึ้น ครอบคลุมทั่วประเทศ และราคาโฆษณาก็อยู่ในระดับวิทยุ ซึ่งการเข้ามาบริหารงานครั้งนี้ของทางบริษัทฯเครือโอสถสภา ยังคงเป็นลักษณะไทอิน ซึ่งมองว่าเป็นการทำธุรกิจแบบ วิน-วินทั้งคู่ เพราะทางไลฟ์เอง ก็มีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบซินเนอร์จี้พาร์ทเนอร์เช่นกัน” นายศิวะพรกล่าว
ล่าสุดปีนี้บริษัทฯได้ทำการเพิ่มทุนอีก 230 ล้านบาท จากเดิม 460 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการต่างๆ รวมถึงรองรับการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มในปีนี้ ซึ่งขณะนี้มองไว้อยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ด้านมีเดีย โฆษณา และสิ่งพิมพ์ โดยความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่นี้ จะมีทั้งร่วมทุน ทำขึ้นใหม่ หรือรูปแบบอื่นๆได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาในรายละเอียดต่างๆอยู่ คาดว่าสิ้นปีนี้จะเริ่มเห็นการลงทุนทำธุรกิจใหม่ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่พรบ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่เอื้อให้ธุรกิจเคเบิ้ลทีวีสามารถโฆษณาได้ 6 นาทีต่อชั่วโมงนั้น ส่งผลให้รายได้ของไลฟ์ทีวี ที่มาจากโฆษณามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมในปีก่อนอยู่ที่ 30% ปีนี้คาดว่าจะสูงถึง70% แทน ขณะที่รายได้หลักที่มาจากการขายคอนเท้นต์ให้เคเบิลโอปอเรเตอร์ท้องถิ่นที่มีสัดส่วนกว่า 70% กลับเหลือเพียง 30% ในปีนี้แทน
ทั้งนี้ตัวเลขของผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2551 ที่ผ่านมา พบว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯมีกำไรถึง 50 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ หลังจากที่บริษัทฯผ่านพ้นภาวะของการขาดทุนไม่นานมานี้ ซึ่งไลฟ์ทีวี ถือเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30%
สำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นอีก 30-40% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท รองลงมาคือรายได้ที่มาจาก ไลฟ์มีเดีย กรุ๊ป 20% ไลฟ์ เรดิโอ คลื่น 99.5 เอฟเอ็ม 20% แอคทีฟมีเดีย 20% รวมถึงโปรเจกต์ไลฟ์ฟิล์มอีกส่วนหนึ่งด้วย หรือทั้งปีบริษัทฯยังมั่นใจว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 10-15% จากรายได้รวม 400 ล้านบาทในปีก่อน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|