สินเชื่อบุคคลครึ่งปีหลังแข่งเดือด 'เคทีซี-แคปปิตอล'หันลุยปล่อยกู้


ผู้จัดการรายวัน(12 พฤษภาคม 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

เคทีซีหวนเจาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อบุคคลรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 10,000 บาท โดยให้สินเชื่อแบบขั้นบันได ระบุผลสำรวจชี้ลูกค้ากลุ่มนี้มีการรักษาเครดิตที่ดี และอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 28% ครอบคลุมความเสี่ยงได้ ด้านแคปปิตอลโอเค รอจังหวะโหมสินเชื่อ หลังจัดการบริหารความเสี่ยงให้นิ่งก่อน คาดเดินหน้าธุรกิจได้ครึ่งหลังของปี ตั้งเป้า 2-3 ปี เห็นธุรกิจบัตรเครดิตเริ่มมีกำไร

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า การทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นทำตลาดสินเชื่อบุคคล โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับล่าง หรือมีรายได้ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะเป็นการปล่อยสินเชื่อเป็นแบบขึ้นบันได โดยเริ่มจาก 1.5 เท่าของรายได้ จนถึงไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ ซึ่งเป็นการเกณฑ์ที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดไว้

ทั้งนี้ การที่เคทีซีตัดสินใจลงมาปล่อยสินเชื่อบุคคลตลาดล่าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เคทีซีได้มีการว่างจ้างบริษัทเอซี นิวสัน จำกัด มาสำรวจข้อมูล ซึ่งผลจากการสำรวจพบว่า กลุ่มคนที่มีรายได้ต่อเดือน 8,000-10,000 บาท มีการรักษาเครดิตดี และมีความรู้เรื่องของเครดิตบูโร ประกอบกับคนรุ่นใหม่ที่เริ่มเข้าตลาดแรงงานอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย

"การที่ได้ลงมาเจาะลูกค้าในกลุ่มที่มีรายได้ 8,000-10,000 บาท ก็ต้องการให้คนรุ่นใหม่ ที่เริ่มเข้าตลาดแรงงาน สามารถใช้บริการสินเชื่อได้ ประกอบกับในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีความรู้เรื่องเครดิตบูโรเป็นอย่างดี ทำให้มีการรักษาเครดิต เพื่อใช้เป็นฐานในการกู้ซื้อบ้าน และกู้ซื้อรถต่อไป"

นายนิวัตต์ กล่าวอีกว่า จากการทดสอบตลาดพบว่าในแต่ละเดือนมีลูกค้าใบสมัครใช้สินเชื่อบุคคล 10,000 ราย โดยเคทีซีอนุมัติสินเชื่อเพียง 20-30 % ของใบสมัคร เนื่องจากลูกค้าในกลุ่มนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยวงเงินที่อนุมัติจะอยู่ที่ 1.5 เท่าของรายได้ ดังนั้นถ้าเกิดหนี้เสียจะเป็นจำนวนที่น้อย ประกอบกับลูกค้าในกลุ่มนี้เคทีซีคิดอัตราดอกเบี้ย 28% ต่อปี ซึ่งถือว่าครอบคลุมกับหนี้เสียที่เกิดขึ้น

สำหรับสินเชื่อบุคคลปัจจุบันเคทีซีมีพอร์ตอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อที่ปล่อยในกรุงเทพมหานครมีสัดส่วน 60% และอีก 40% เป็นสินเชื่อที่ปล่อยในต่างจังหวัด ขณะที่มีหนี้เสียของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ประมาณ 7% ของสินเชื่อ ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่รับได้ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะทรงๆ ตัว แต่บริษัทยังจำเป็นต้องทำตลาดทั้งสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตต่อไป เพราะหากไม่ทำตลาดก็จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลง

แคปปิตอลโอเครอโหมสินเชื่อช่วงครึ่งปีหลัง

ด้านนายศฤงคาร สุทัศน์ชูโต กรรมการบริหาร บริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP และกรรมการผู้จัดการ บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อใหม่ของบริษัทยังค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการจัดระบบการบริหารความเสี่ยงและการจัดเก็บหนี้ที่ได้ตัวเป็นหนี้สูญไปในช่วงที่บริษัทชะลอการดำเนินกิจการ และคาดว่ายอดสินเชื่อใหม่จะเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป เนื่องจากในช่วงเดือนมิถุนายนจะมีการสรุปแผนงานของบริษัทอย่างชัดเจนว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าในส่วนไหนและจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน 3 ผลิตภัณฑ์ คือ สินเชื่อหมุนเวียน สินเชื่อเงินสดพร้อมใช้และบัตรเครดิต จากเดิมก่อนที่ทาง ACAP จะเข้าถือหุ้นของบริษัท 51% และบริษัท ORIX Corporation ถือหุ้นอยู่ 49% นั้นทางบริษัทได้มีการให้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินผ่อนและสินเชื่อเช่าซื้อด้วย แต่ที่ผ่านมาได้มีการชะลอการให้บริการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปเนื่องจากยังไม่มีความเชี่ยวชาญ แต่ในขณะนี้ได้มีการทบทวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อเงินผ่อนโดยอยู่ระหว่างการศึกษาผลิตภัณฑ์ว่าจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่

"ในช่วง 3เดือนแรกทางเราจะเข้าไปช่วยพัฒนาการจัดเก็บหนี้ก่อน ส่วนในไตรมาส 2 นี้คงจะเห็นผลการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้น โดยทาง ACAP ได้เข้ามาถือหุ้นนี้ก็เพราะทางเทมาเส็กเขาต้องการจะขายออกเพราะเขาไม่ชำนาญ ส่วนสิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือเรื่องของการจัดการบริหารความเสี่ยงให้นิ่งก่อนจะเดินหน้าไปยังการจัดกระบวนการอื่น ๆ เพื่อรองรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่"

นายศฤงคาร กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดบัตรเครดิตอยู่ที่ 55,000 บัตร หนี้คงค้าง 850 ล้านบาท สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจคือ หากต้องการให้ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตมีกำไรจะต้องมีฐานบัตรอยู่ที่ 200,000-300,000 บัตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับพอร์ตสินเชื่อรวมก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และเป็นหนี้ที่ได้ตัดเป็นหนี้สูญไปแล้ว 5,200 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.