พงษ์ศักดิ์ สัมภวคุปต์ เป็นคนอารมณ์ดี ดูจากภายนอกไม่มีอะไรสะดุดตา แต่คนที่ทำงานกับเขาทุกคนทราบว่า
พงษ์ศักดิ์เป็นคนเอาจริงเอาจังกับงานมาก เป็นคนตรง ไม่ชอบพูดอะไรอ้อมค้อม
วันนี้ พงษ์ศักดิ์นั่งอยู่ที่ "สำนักงาน" ของบริษัท บิสสิเนส
อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ อโศก คอร์ท ทำธุรกิจรับบริหารจัดการอาคารชุด ให้คำปรึกษาวิเคราะห์ปัญหา
และวางแผนงานให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ โครงการพัฒนาชุมชนและธุรกิจอื่น
ๆ
นอกจากนี้ ยังจัดระบบการตลาด จัดซื้อ รักษาความปลอดภัย รักษาความสะอาดให้กับเจ้าของโครงการหรือนิติบุคคลคอนโดมิเนียมด้วย
ฟัง ๆ ดูกิจการที่เขาทำอยู่ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าสนใจ แต่พงษ์ศักดิ์บอกว่า
"คอนโดมิเนียม" เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ต้องใช้ความสามารถทุกด้าน
หลังจากจบการศึกษาจากสปริงฟิลด์ สาขาบริหารธุรกิจ ในปี 2513 เข้าทำงานที่ปรึกษากฎหมายของครอบครัวอยู่ช่วงหนึ่ง
พอช่วงปี 2522 เมื่อมี พ.ร.บ.อาคารชุดออกมา พงษ์ศักดิ์ก็เริ่มหันมาสนใจธุรกิจนี้บ้าง
เขาคิดว่า นี่เป็น "ไลน์" เดียวกันกับการเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่เขาทำอยู่…คือ
"การให้บริการ"
"ผมเริ่มรับบริหารให้กับสยามเพ้นท์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นของน้องชายผม พงษ์พันธุ์
ทำไปก็ไม่ได้อะไร คือ เราไม่รวย แต่เห็นว่ามันน่าจะไปได้แล้วมันก็ไปได้…ยาวเสียด้วย"
พงษ์ศักดิ์ เท้าความให้ฟัง
เขาบอกว่า กิจการที่เขาทำอยู่นี้ ว่าไปแล้วค่อนข้างจะเกิดขึ้นด้วยความจำเป็น
เพราะการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมีการกระทบกระทั่งกันสูง มีความเกี่ยวพันกันสูง
ทุกคนต้องใช้ลิฟต์ตัวเดียวกัน ต้องใช้บันไดตัวเดียวกัน แล้วก็แก้ไขไม่ได้เพราะเป็นการบังคับ
จึงจำเป็นต้องหาคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแล
จากโครงการหลายโครงการที่เขาเข้าบริหารมา ตั้งแต่สยามเพ้นท์เฮ้าส์ และราชเทวีทาวเวอร์ที่เขาช่วยจัดระบบต่าง
ๆ ให้เฉพาะภายในปีแรก ประสานมิตร คอนโดมิเนียม บางเสร่คอนโดมิเนียม ปทุมวันเพลส
คอนโดมิเนียม สั่งสมประสบการณ์ที่แตกต่าง และนำมาปรับใช้ นานเข้าเขาก็ปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น
"บริษัทของผมจะเริ่มเข้าไปตั้งแต่โครงการนั้นเสร็จแล้ว มีผู้อยู่อาศัยแล้ว
เราจะดูแลฟังก์ชั่นของตัวอาคาร ซึ่งบริการเช่นนี้ มีสองประเภท คือ การดูแลรักษา
และการบริการให้ได้ความสะดวกมากขึ้นให้ได้ประโยชน์มากขึ้น" พงษ์ศักดิ์
อธิบาย "หลักการ" ที่เขาใช้ในการบริหารคอนโดฯ
เริ่มแรกทีเดียว พงษ์ศักดิ์ ไม่ได้มีบริษัท หรือเครือข่ายที่จะสามารถทำงานทุกอย่างเช่นปัจจุบัน
เขาเริ่มจากการรับงานจากเจ้าของโครงการแล้วไปทำ "ซับคอนแทรคท์"
กับบริษัทที่เขาคิดว่าเป็น "มืออาชีพ" ของแต่ละแขนงงาน
ไม่ว่าจะเป็น รักษาความสะอาด รักษาความปลอดภัย ซ่อมแซมบำรุงรักษา ช่างไฟฟ้าน้ำประปา
แต่เมื่อมีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้น ทำให้เขาตัดสินใจที่จะตั้งบริษัทในเครือทำงานพวกนี้เอง
"ในต่างประเทศ "มืออาชีพ" เหล่านี้เขารักษาชื่อเสียง เขารักษาลูกค้าของเขา
จนลูกค้ายอมรับ ไม่ใช่มาแข่งกัน ตัดราคา เมืองไทยเราบางแห่งมีงบประมาณให้กับเครื่องแบบ
แต่ไม่มีงบประมาณให้กับสายตรวจ หรือตัดราคารับมาสองพันจ้างพันแปด ไม่มีเงินเหลือสำหรับความก้าวหน้าของลูกจ้างของเขา
พวกนี้ก็จะอยู่ไม่นาน" พงษ์ศักดิ์อธิบายให้ฟัง
พงษ์ศักดิ์บอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า ความยากลำบาก แต่ท้าทายของการบริหาร
เพื่อให้คนอยู่ร่วมกัน คือ ต้องกำหนดกติกาให้เป็นสภาพบังคับให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้
การที่คนร้อยพ่อพันแม่มาอาศัยอยู่ที่เดียวกัน ต้องใช้หลักการบริหารเข้ามาปรับใช้บ้าง
"หลักของเรา คือ หนึ่ง - พูดให้เขาเข้าใจในวิธีการของเรา สอง - ใช้หลักจิตวิทยา
โน้มน้าวให้เขาเข้าใจ และสาม - คือการพิสูจน์"
นับจากนั้นจนวันนี้ พงษ์ศักดิ์เริ่มที่จะขยับขยายกิจการของเขาออกไปอีกใน
"ไลน์" ของการบริหารการขาย เขาบอกว่า ระยะหลังเจ้าของโครงการให้ความเชื่อถือในตัวเขาและบริษัทของเขามากขึ้น
เขามีโอกาสได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบต่าง ๆ ของโครงการมากขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไปก้าวก่ายโดยเฉพาะรูปทรงทางสถาปัตย์ที่เจ้าของโครงการรังสรรค์ขึ้นมา
สิ่งที่เขาทำ คือ "ทำให้ง่ายที่สุด" เพื่อการดูแลรักษาในอนาคต
"เราช่วยงานขายเขาด้วยช่วยตั้งแต่ต้นเลย ผมรู้ว่าลูกค้าต้องการของดี
ของไม่ดีเขาไม่เอา ให้เขารู้วันนี้ ราคาเท่าไหร่ให้เขารู้ไป รู้ให้เขาเตรียมตัว
เมื่อก่อนนี้ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้ กลัวคนจะวุ่นวาย แต่ผมบอกว่ามันเป็นจุดขายเหมือนกัน
เพราะถ้าเก็บเงินไม่ได้จะทำอย่างไร" พงษ์ศักดิ์ชี้แจง
"ถ้าผมจะกิน ผมสั่งลูกน้องเลยว่าเราต้องชัดเจน กินก็ต้องกินตรง ๆ กินดื้อ
ๆ กินอย่างเด็ดเดี่ยว กินเร็วด้วย อย่างการขายเรามีความคิดอย่างนี้ สองสามเดือนก็ขายหมด"
พงษ์ศักดิ์บอกถึงวิธีที่เขาใช้ในการปฏิบัติ
พงษ์ศักดิ์หยุดการพูดคุยกับ "ผู้จัดการ" และหันไปรับโทรศัพท์จากลูกค้าที่ต้องการไปชมสวนเกษตรสันทราย
ที่เชียงใหม่หนึ่งในโครงการของเขาครู่หนึ่ง
"สวนเกษตร" ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของคอนโดฯ เราบริหารคอนโดฯ ทางสูงมามาก
นี่เป็นการพัฒนาที่ดินในแนวราบ" พงษ์ศักดิ์กล่าวถึงคอนเซ็ปต์ที่เขาใช้กับการจัดทำสวนเกษตร
กับพงษ์ศักดิ์ เขาถือว่าการพัฒนาระบบคอนโดฯ มีความสำคัญมาก เพราะเป็นระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ถูกที่สุด ได้มากที่สุด เป็นระบบการปกครองตัวเอง บริหารแบบรวมการบริหาร กระจายการจัดการ
พงษ์ศักดิ์ สัมภวคุปต์ กับบริษัทในเครือ บี.ไอ.ซี. ของเขากำลังเติบโตขึ้นเรื่อย
ๆ ธุรกิจรับบริการโครงการภายหลังการขายอาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่พงษ์ศักดิ์ก็ค่อนข้างพอใจกับงานของเขามาก
"ในส่วนตัวของงาน มันไม่มีแรงดึงดูดในการแสวงหากำไร ผมมองว่าในอนาคตมันจะต้องการสิ่งเหล่านี้มาก
เพราะประเทศเราจะต้องพัฒนา ต้องการความเป็นระเบียบ องค์กรนี้ต้องมีทุกอย่าง…
…มีการตลาด งานกฎหมาย เป็นวงจรของการดูแลชุมชนให้สงบสุข ต้องมีการจดทะเบียน
ต้องมีสำนักงานบุคคลใช้เทรนนิ่ง เพราะเราตั้งใจอย่างนั้น และเราต้องไปอย่างนั้นจริง
ๆ" พงษ์ศักดิ์สรุป