|
Powerhouse Museum
โดย
น้ำค้าง ไชยพุฒ
นิตยสารผู้จัดการ( พฤษภาคม 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
ลายผ้าตลอดช่วงอายุ 300 ปีที่ผ่านมา ข้าวของเครื่องใช้ในร้านค้ายุคเก่า รายชื่อหมู่ดาวบนท้องฟ้า และที่มาของรถไฟ ทุกอย่างที่กล่าวมาหาชมได้จากพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซิดนีย์
อะไรที่ทำให้ผู้คนต้องหยุดยืนอยู่หน้ากระจกแล้วก้มลงอ่านข้อความที่ปรากฏบนแผ่นพลาสติกสีขาวตรงหน้าใจความว่า "หูห่วงอะลูมิเนียมที่ใช้ดึงเปิดฝากระป๋องถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี 2503 อีกสิบปีให้หลัง Mike Debenham ก็ทำการคิดค้นหูห่วงแบบใหม่ที่ช่วยเปิดกระป๋องซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Presto pop-top can" เขาออกแบบให้ผู้ใช้กดปลายหูห่วงลงบนฝากระป๋อง ออกแบบให้ยุบตัวลงเป็นรูตามขนาดที่ต้องการ และปลดปล่อยความดันจากภายในสู่นอกกระป๋องและกลายเป็นสิทธิบัตรกระป๋องติดหูห่วงที่เขาเป็นเจ้าของจนถึงทุกวันนี้" เป็นข้อความที่สื่อให้เห็นถึงการพลิกโฉมหน้าการใช้ชีวิตของคนทั้งโลก เพียงเพราะการคิดค้นหูห่วงบนฝากระป๋องอะลูมิเนียมธรรมดา ทำให้ผู้คนไม่ต้องใช้ที่เปิดฝากระป๋องอีกต่อไป
การนำเสนอความเปลี่ยนแปลงในการดำรงชีวิตทุกรูปแบบถือเป็นเป้าหมายสำคัญในฐานะของการเป็นพิพิธภัณฑ์ของ "Powerhouse Museum" กระทั่งนวัตกรรมการกดน้ำในโถชักโครก เครื่องมือรักษาอาการนอนกรนสำหรับคนอ้วน หัวจักรรถไฟ หรือแม้แต่แนวคิดในการพัฒนาสัญญาณไฟจราจร Powerhouse Museum ก็บอกว่ามันเปลี่ยนโฉมหน้าการใช้ชีวิตของคนทั้งโลกได้อย่างไร
เมื่อพิศจากภายนอกของ Powerhouse Museum ซึ่งเป็นตึกปูนชั้นเดียว ไร้สีฉูดฉาดทาทับ และตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนคนละฝั่งกับตลาดนัดขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองซิดนีย์ มิอาจบ่งบอกหรือสื่อความหมายได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้พิเศษอะไรมากกว่าการเป็นตึกที่ออกแบบให้แตกต่างกับตึกที่อยู่รายล้อมเพียงเท่านั้น
แต่เป็นเวลากว่า 129 ปีแล้วที่ตึกสีปูนนี้ทำหน้าที่รับใช้สังคมออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกในฐานะของการเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้
Powerhouse Museum ก่อตั้งขึ้นในปี 2422 หลังจากเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง ก่อนมาลงตัวที่ชื่อ Powerhouse Museum เป็นส่วนหนึ่งของ Museum of Applied Arts and Sciences ในซิดนีย์ แต่คนส่วนใหญ่มักรู้จักและเรียกชื่อ Powerhouse Museum ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว Powerhouse Museum ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องราวทางด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมส่วนของการจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ การสื่อสาร การขนส่ง เครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ สิ่งพิมพ์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อวกาศ ไปจนถึงกลไกทำงานของเครื่องยนต์
แม้ขนาดพื้นที่ของ Powerhouse Museum จะไม่ใหญ่เท่าพิพิธภัณฑ์ดังๆ ในอีกหลายประเทศ แต่ความโดดเด่นและแตกต่างอย่างการเป็นศูนย์กลางขององค์ความรู้ มากกว่าการเป็นสถานที่เก็บรักษาของเก่าก็ทำให้ Powerhouse Museum น่าสนใจขึ้นมาทันที
ที่นี่มีฐานข้อมูลการออกแบบลายผ้าตลอดระยะเวลา 300 ปี ที่เคยเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งๆ ที่อายุของพิพิธภัณฑ์ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของลายผ้าที่เคยคิดค้นขึ้นมาและเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ทั้งการสัมผัสด้วยตนเองและให้บริการฐานข้อมูลบนเว็บไซต์
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงแบบถาวรหลากหลายประเภทแล้ว ยังมีนิทรรศการชั่วคราวหมุนเวียนมาใช้พื้นที่ในการนำเสนอความรู้ให้กับผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสตลอดทั้งปี โดยมากแล้วผู้นำชมแนะนำว่าการเดินชมพิพิธภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยข้อมูลและความรู้อย่าง Powerhouse Museum ไม่สามารถทำได้เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น เพื่อเก็บรายละเอียดที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน
ทุกๆ ก้าวใน Powerhouse Museum ผู้คนมักจะได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของมนุษยชาติตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และยังเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตในอนาคตด้วยในเวลาเดียวกัน
Powerhouse Museum จึงเป็นมากกว่าสถานที่เก็บรวบรวมของเก่า แต่สถานที่แห่งนี้กำลังทำหน้าที่เป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ อย่างน้อยก็สำหรับคนที่กำลังก้มลงอ่านข้อความหน้าตู้กระจกใส
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|