อภิชัย ศักดิ์ชลาธร กรรมการผู้จัดการบริษัท นิวส์เน็ตเวิร์ค จำกัด ผู้บริหารเวลาโฆษณาช่วงข่าวของ
ททบ. 5 และรายการปกติทั้งสารคดี กีฬาภาพยนตร์ ฯลฯ ที่ออกอากาศทาง สทท. 11
รู้สึกสับสนมึนงงคนใกล้ชิดของเขาบอกว่า หลังจากวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมาความรู้สึกของเขาไม่ต่างจากสภาพของเคนจิ
มัตสุมูระ ผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น ผู้หาญท้าชิงแชมป์จากเขาทราย แกแล็คซี่ ในการชกที่
10 ที่กรุงโตเกียว
หรือถ้ายังมีใครจำได้ อภิชัยก็ไม่ต่างจาก พงษศิริ พ.ร่วมฤดี "แรมโบ้"
ยกที่ 2 เมื่อคราประหมัดกับ "กระทิงจากทุ่งรังสิต" พฤหัสเล็ก ศิษย์ชุนทอง
ในศึก "วันทรงชัย" เมื่อราว ๆ สามสี่เดือนที่แล้วมากนัก
ผลของมวยทั้งสองคู่ก็ไม่แตกต่างกัน นั่นคือเป็น "ผู้แพ้ในการแข่งขัน
ซึ่งอาจไม่แตกต่างจากสภาพของอภิชัยเลยแม้สักนิดเดียว
จะไม่ให้มึน งง ได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่คิดว่าอยู่ในมือซิง ๆ อย่างการจะได้รับอนุมัติเข้าบริหาช่วงเวลาโฆษณาช่วงข่าวที่ทำมาเป็นปี
ขาดทุนอยู่อีกก็ไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้าน หลุดมือไปเสียเฉย ๆ
คนภายนอกอาจไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่อภิชัยทราบดี และตัวเขาเองก็คงต้องเจ็บใจ
เสียดายไม่น้อย และคงไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเขาอีกในอนาคต
ตัวละครในเรื่องนี้มีค่อนข้างมาก ตั้งแต่อี.เอ็ม.นิวส์ ผู้มาทีหลังแต่ดังกว่า
แปซิฟค อินเตอร์ฯ ที่มีปีย์ มาลากุลเป็นประธาน ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมลเป็นกรรมการผู้จัดการ
ตัวประกอบฝ่ายพระเอกได้แก่ พี.เค. แอดเวอร์ไทซิ่ง ของ "เสี่ยติ่ง"
กิตติภัทร รุ่งธนเกียรติ เจ้าพ่อสถานีวิทยุภูมิภาค
สหวิริยา โอเอ กรุ๊ปของ "เจ้าแม่" ประภา วิริยะประไพกิจและซิตี้คอร์ป
ส่วนนิวส์เน็ตเวิร์คตามท้องเรื่องยังสรุปไม่ได้ว่าจะเล่นบทใด
ว่าความตามท้องเรื่อง เปิดฉากกันเมื่อแปซิฟิค อินเตอร์ฯ ที่มี ดร.สมเกียรติ
ร่วมทำข่าวจนข่าว 9 อ.ส.ม.ท. โด่งดังคับฟ้าถูก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
เบรกว่าทำสัญญาที่ทำให้อ.ส.ม.ท.เสียเปรียบจนทำให้ ดร.สมเกียรติต้องออกมาแสดงสปิริตในเบื้องต้นจนกว่าเรื่องจะเคลียร์ด้วยการงดอ่านข่าว
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีข่าวว่าสถาบันโทรทัศน์ที่ต้องการปรับปรุงรายการข่าวของตนตามจีนแปซิฟิคฯ
เป็นการใหญ่ ที่เห็นเป็นข่าวค่อนข้างจะเป็นชิ้นเป็นอันก็ได้แก่ช่อง 5 กับช่อง
11 ส่วนช่อง 7 สีในระยะแรกไม่มีปฏิกิริยาให้เห็นว่าจะสนใจหรือไม่
ประมาณเดือนตุลาคมแปซิฟิคฯ ประกาศรับพนักงานจำนวนมาก โดยตำแหน่งที่รับส่วนใหญ่เป็นผู้สื่อข่าว
ซึ่งทำให้วงการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่า แปซิฟิคฯรับพนักงานเข้าไปมากมายทำอะไรในเมื่อเพิ่งออกจากช่อง
9 มาหยก ๆ
กลางเดือนเดียวกัน นิวส์เน็ตเวริ์คยกเลิกข้อตกลงที่ให้พี.เคแอดเวอร์ไทซิ่ง
ผู้รับบริหารเวลาโฆษณา (ขายเวลา) ให้กับตน ซึ่งเป็นการร่วมหุ้นกันระหว่างบริษัททั้งสอง
ว่ากันว่างานนี้ พี.เค.แอดเวอร์ไทซิ่ง ซึ่งเพิ่งเข้ามาจับงานนี้ได้เพียงครึ่งปีกว่าขาดทุนไปหลายล้าน
แต่ทั้งสองบริษัทยังคงร่วมธุรกิจกันอยู่บางส่วนในสถานีส่วนภูมิภาคอีกระยะหนึ่ง
พอช่วงต้นปีก็มีข่าวออกมาว่านิวส์เน็ตเวิร์คทาบทามแปซิฟิคฯสำเร็จ ในการที่จะเข้ามาปรับปรุงรายการต่าง
ๆ ของช่อง 1 และมีแนวโน้มที่จะเข้ามาช่วยปรับปรุงข่าว ททบ. 5 ภายหลังการต่อสัญญาในปีต่อไปในขณะเดียวกันก็มีข่าวบางกระแสกล่าวว่าแปซิฟิคฯจับมือกับเทเลเพรส
ที่มีอลงกรณ์ พลบุตรเป็นหัวเรือใหญ่ จะช่วยกันพัฒนาข่าวภาคดึก และข่าวเช้าของ
ททบ. 5 แข่งกับ "ข่าวรับอรุณ" ของช่อง 9 อ.ส.ม.ท.
คนในวงการวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุนี้เองทำให้เพรสที่มุ่งหวังว่าจะเข้ามาบริหารเวลาช่วงข่าวทุ่มครึ่ง
และสองทุ่มขณะหนึ่งด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อมีแบ็คดีอย่างแปซิฟิคฯก็เลยหันไปตั้งใจจับงานในช่วงเวลาของตัวอย่างจริงจัง
ไม่สนใจการประมูลเวลาช่วงเดียวกับที่นิวส์เน็ตเวิร์คต้องการทำอีก
นิวส์เน็ตเวิร์คเวลานั้นก็ค่อนข้างฮึกเหิม กระหยิ่มอยู่ในใจเพราะเชื่อว่าถึงอย่างไรมีแปซิฟิคฯสนับสนุนเรื่องการทำข่าว
ปีต่อไปเรื่องการขายเวลาก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องวิตกกังวลกันอีกต่อไป
ก็เลยชักชวน "ประภา วิริยะประไพกิจ" เข้ามาร่วมทุน นอกจากนั้นยังกู้เงินจาก
"ซิตี้แบงก์" อีกหลายล้านบาทหวังขยายตัวเต็มที่
ความมั่นใจของนิวส์เน็ตเวิร์คตอนนั้นมีอยู่แค่ไหน ไม่ต้องบอกก็คงรู้ได้
หลังจากนั้นก็เกิดการพลิกความคาดหมายเล็ก ๆ กับการที่สมเกียรติเข้าไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของช่อง
7 สี แต่อยู่ไม่นานก็ลาออกมาอีกครั้งเนื่องจากไป "ล้ำเส้น" "เสาหลักประชาธิปไตย"
ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมชเข้า แต่ในขณะเดียวกันถ้าพิจารณาตามสภาพแล้วเากับแปซิฟิคฯเริ่มรุกเข้าไปในมีเดียตัวนี้เกือบครบแล้ว
ขาดแต่การลงหลักปักฐานอย่างจริงจังเท่านั้น
แต่ใครเลยจะรู้ว่าในที่สุดพระเจ้าก็เล่นตลกกับนิวส์เน็ตเวิร์คเข้าจนได้
ถึงแม้ว่าขณะที่ปิดต้นฉบับ (ปลายเดือนเมษายน) ไม่ทราบว่าอภิชัย และนิวส์เน็ตเวิร์คจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
แต่คนภายนอกรวมทั้งอภิชัยเองคงทราบแล้วว่าเรื่องนี้คง "ไม่ธรรมดา"
เสียแล้ว
วงการเอเยนซีเปิดเผยว่าหลังจากประกาศผลที่อี.เอ็ม.นิวส์ ชนะการประมูลไปไม่นาน
แปซิฟิคฯก็ออกหนังสือแจ้งอัตราค่าโฆษณาช่วงข่าวของททบ. 5 ในอัตราใหม่ โดยปรับราคาจากที่นิวส์เน็ตเวิร์คเคยขายนาทีละ
38,000 บาท ขึ้นมาเป็น 60,000 บาท ซึ่งไม่มีใครทราบว่าแปซิฟิคฯ ทำไมกล้าหาญชาญชัยถึงปานนั้นแต่ก็เท่ากับบอกว่า
แปซิฟิคฯเป็นผู้บริหารเวลาโฆษณาช่วงข่าวของช่อง 5 เต็มตัวตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
งานที่ใครได้ใครเสียคงไม่ต้องบอก อภิชัยตอนนี้ก็คงยังชีช้ำอยู่ไม่น้อย
และเขาคงจำชื่ออี.เอ็ม.นิวส์ไปอีกนาน พอ ๆ กับอีกหลายชื่อที่เขาเคยคิดว่า
"ฟ้าประทาน" มาโปรด
ส่วนเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ก็ขอเชิญท่านผู้อ่านทัศนากันเองตามอัธยาศัย