PHATRAโชว์งบQ1โต26%เหตุรายได้ค่านายหน้าขยับสูง


ผู้จัดการรายวัน(30 เมษายน 2551)



กลับสู่หน้าหลัก

PHATRA โชว์งบไตรมาสแรกปีนี้กำไรโตเกือบ 26% ผลจากรายได้ทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะรายได้ค่านายหน้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มไปถึง 69% เนื่องจากได้ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์กับเมอร์ริลลินช์เป็นแบบลักษณะคู่ค้า(Exclusive Partner) ตั้งแต่วัน3 ส.ค.50

นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) (PHATRA ) แจ้งผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ (ก่อนสอบทาน) ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 129.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 26.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.45% จากกำไรสุทธิจำนวน 103.62 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ซึ่งรายได้ค่ารวมไตรมาสแรกมี 389.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.54 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19.52% จากยอดรายได้รวมจำนวน 325.57 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี 50 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ทุกสายธุรกิจ

โดยรายได้ค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์กับเมอร์ริลลินช์เป็นแบบลักษณะคู่ค้า(Exclusive Partner) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์อนุญาตตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 50 การปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนรายได้ค่านายหน้าจากลูกค้าแต่ละประเภทในไตรมาสที่ 1 ของปี 51เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่แรกปี 50

ขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้น ผลจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันต่างประเทศและ 46.45 %มาจากนักลงทุนบุคคลรายใหญ่ และ มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับตลาดอนุพันธ์ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ 4.72% ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ สูงขึ้นจากปีก่อน เพราะรายได้ที่ปรึกษาทางการเงินและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการกองทุนรวมต่างๆ รวมทั้งกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และกำไรจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ขยับเพิ่มตามกัน สวนทางกับรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง

สำหรับค่าใช้จ่ายไตรมาสแรกนี้เพิ่มขึ้น 28.37 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 15.19 %จากค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 186.77 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 50 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากจำนวนเงินวางประกันเพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายลดลง เพราะบริษัทไม่มี ภาระผูกพันเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระภายใต้สัญญาการให้บริการทางธุรกิจกับเมอร์ริล ลินช์ ตั้งแต่ 10 กันยายน 50 รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่างขยับเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.