|
IECฟุ้งพอร์ตแตะพันล.
ผู้จัดการรายวัน(25 เมษายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
"ไออีซี" ขาประจำติดหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงของ ก.ล.ต ติดต่อ 8 สัปดาห์ ด้านราคาหุ้นวานนี้คึกคักปิด 3.42 บาท สูงสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน ขณะที่ผู้บริหารฟุ้งพอร์ตลงทุนหุ้นไตรมาสแรกโตแตะ 1 พันล้านบาท จากสิ้นปี 50 มีแค่ 302 ล้านบาท เหตุราคาหุ้นพุ่ง-ลงทุนเพิ่ม พร้อมเผยกลยุทธ์เล่นหุ้นเล็กฟันกำไร หลังเจ๊งหุ้นพื้นฐานดีอย่างปตท. เตรียมรุกธุรกิจไอที-พลังงานทดแทน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานข้อมูลปริมาณการซื้อขายหุ้นหมุนเวียนสูง (Turnover list) ประจำสัปดาห์ พบว่า หุ้นของบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC ติดโผหุ้นที่มี Turnover list สูงสุดนาน 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 22 กุมภาพันธ์ - 28 กุมภาพันธ์ 2551 จนถึงสัปดาห์วันที่ 11-17 เมษายน 2551
โดยในสัปดาห์ที่ 1 (22 -22 ก.พ.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 51.66% สัปดาห์ที่ 2 (29 ก.พ. - 6 มี.ค.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 107.62% สัปดาห์ที่ 3 (7 มี.ค. - 13 มีค.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 57.21%
สัปดาห์ที่ 4 (14 - 20 มี.ค.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 37.57% สัปดาห์ที่ 5 ( 21 - 27 มี.ค.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 28.86% สัปดาห์ที่ 6 ( 28 มี.ค.-3 เม.ย.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 51.81% สัปดาห์ที่ 7 (4-10 เม.ย.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 41.11% และสัปดาห์ที่ 8 (11-17 เม.ย.) หุ้น IEC มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นในรอบสัปดาห์สูง 25.36%
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IEC วานนี้ (24 เม.ย.) ปิดที่ 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.23% ปรับตัวสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 3.60 บาท และปรับตัวต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 3.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,149.06 ล้านบาท ซึ่งราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน และปริมาณการซื้อขายติดอันดับ 3 ของหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน
นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/51 มูลค่าพอร์ตการลงทุนหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2550 ที่มีมูลค่าพอร์ตจำนวน 302.41 ล้านบาท เนื่องจากราคาหุ้นที่บริษัทเข้าไปลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น และบริษัทได้มีการเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น เช่น บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN จำนวน 16.06 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 3.37%
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายลงทุนในหุ้นปีละประมาณ 10 บริษัท แต่ไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายว่าหุ้นที่จะเข้าไปลงทุนจะต้องได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจำนวนเท่าไร แต่ทุกบริษัทต้องมีกำไรจากการลงทุน โดยบริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการการลงทุนขึ้นมาทำหน้ากำหนดนโยบายการลงทุนต่างๆ
สำหรับเม็ดเงินที่บริษัทนำไปลงทุนในหุ้นนั้น จะมาจากกำไรที่บริษัทได้จากการลงทุนในหุ้น ซึ่งไม่ได้เป็นกระแสเงินสดของบริษัท โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับกำไรจากการขายหุ้นที่บริษัทเข้าไปลงทุนจำนวน 3 บริษัทได้กำไรจำนวน 52 ล้านบาท ซึ่งถือว่าพอร์ตหุ้นของบริษัทได้กำไรแก่บริษัทจำนวนมาก จากที่ธุรกิจด้านการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีที่ผ่านมาสร้างกำไรต่ำจากการแข่งขันที่สูง
"การลงทุนในหุ้นพื้นฐานไม่ได้แปลว่าจะมีกำไรจากการลงทุนเสมอไป โดยดูจากการเข้าไปลงทุนในบมจ.ปตท. ที่ยังขาดทุนอยู่ ตรงกันข้ามกับลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่ทำกำไรได้ง่ายกว่า โดยการที่บริษัทเข้าไปลงทุนในหุ้น GEN เพราะ GEN ได้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ตัดธุรกิจที่ไม่กำไรออกไป และสามารถสร้างขาดทุนสะสมได้ สอดคล้องกับแนวทางที่ IEC ทำ จึงมองว่ามีโอกาสเติบโตที่ดี ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรจากพอร์ตการลงทุนหุ้นจำนวนมาก สามารถที่เงินดังกล่าวเข้ามาสนับสนุนธุรกิจของบริษัท"นางสัณห์จุฑา กล่าว
สำหรับสิ้นปี 2550 IEC ลงทุนในหุ้นจำนวน 8 บริษัท คือ บริษัทอีเอ็มซี จำกัด (มหาชน)หรือ EMC และEMC-w1 บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ LIVE บริษัท อุตสาหกรรมพรมไทย จำกัด (มหาชน)บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)หรือ PTT บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)หรือ SCC และบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BBL จากที่ได้มีการขายหุ้น บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม บมจ. นวนคร บมจ.พาวเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่งออกไป
นางสัณห์จุฑา กล่าวว่า ถึงแม้ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีการแข่งขันที่สูงและมีกำไรต่ำ ทำให้งบเฉพาะกิจการของ IEC ยังคงขาดทุน 208 ล้านบาท แต่ก็ยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัทอยู่ แต่บริษัทจะมีการทำธุรกิจอื่นที่มีโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากขึ้น และเพิ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง โดยในเดือนมกราคม 2551 บริษัทได้เริ่มรุกธุรกิจไอที ซึ่งได้รับงานจาก กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มูลค่า 891 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในกลางปีนี้ และบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปประมูลงานเกี่ยวกับบริษัทรัฐวิสาหกิจ จำนวนหลายโครงการ
ขณะเดียวกัน บริษัทจะมีการทำธุรกิจพลังงานทดแทน และอุปกรณ์และระบบประหยัดพลังงาน โดยได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทจงหยวน กรุ๊ป ประเทศไต้หวัน โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมา โดย IEC จะถือหุ้นในสัดส่วน 50% ส่วนมูลค่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เพราะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
ด้านนายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ กล่าวว่า ราคาหุ้น IEC ปรับตัวแรงขึ้นจากการเก็งกำไรข่าวเรื่องการจับมือกับพันธมิตรจีนเริ่มธุรกิจพลังงานปีนี้ แต่ยังต้องติดตามรายละเอียดอีกครั้ง โดยในช่วงสั้นหากราคาหุ้นยืนเหนือ 3.30 บาท แนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 4.00 บาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|