|
ตลท.เล็งเชือดกลุ่มไมด้าจับตาราคาหุ้นพุ่งผิดปกติ
ผู้จัดการรายวัน(3 เมษายน 2551)
กลับสู่หน้าหลัก
หุ้นกลุ่มไมด้าฮอตสุดๆ ราคาบวกยกแพง ตลาดหลักทรัพย์ฯจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และเตรียมเชือดหากพบความผิดปกติ พร้อมเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนลงทุน ด้านผู้บริหาร "กมล เอี้ยวศิวิกูล" ปัดไม่รู้สาเหตุราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ ชี้ได้รับอานิสงส์จากข่าวเปิดเสรีเช่าซื้อ แต่แนะให้ขายทำกำไรหลังหุ้นพุ่งแรงผิดปกติ
วานนี้ (2 เม.ย.) ราคาหุ้นกลุ่มไมด้าได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง นำโดยใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ MIDA-W1 ราคาปิดที่ 0.41บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท คิดเป็น 70.83% มูลค่าซื้อขาย 116.12 ล้านบาท หุ้นสามัญของบริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ML ปิดที่ 0.48 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 29.73% มูลค่าซื้อขาย 68.07 ล้านบาท บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)หรือ MIDA ปิดที่ 1.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.31 บาท หรือ 29.52% มูลค่าซื้อขาย 228.18 ล้านบาท
บริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MME ปิดที่ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 18.92% มูลค่าซื้อขาย 211.37 ล้านบาท บริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือDISTAR ปิดที่ 0.79 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท หรือ 16.18% มูลค่าซื้อขาย 106.17 ล้านบาท บริษัท ดี อี แคปปิตอล หรือ DE ปิด 1.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 3.30% มูลค่าการซื้อขาย 140.93 ล้านบาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ DE-W1 ปิดปิดที่ 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 8.43% มูลค่าซื้อขาย 99.08 ล้านบาท
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังอยู่ระหว่างติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในกลุ่มตระกูลไมด้า ทั้ง MIDA, ML, MME และ DISTAR ว่ามีการปรับตัวขึ้นอย่างผิดปกติหรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์อาจจะต้องใช้มาตรการในการกำกับดูแลหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ คือการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) หรือสั่งให้ผู้บริหารชี้แจงข้อมูลหากตลาดหลักหลักทรัพย์ฯ ต้องการทราบข้อมูลเพิ่ม
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจจะเชิญผู้บริหาร หรือนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นที่ปรับตัวหวือหวา หากมีมูลเหตุ ซึ่งเหตุผลดังกล่าวก็ขึ้นอยู่กับว่าเข้าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่ และส่วนตัวเชื่อว่านักลงทุนดูแลตัวเองอยู่แล้ว ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เองก็คอยเตือนให้ระมัดระวัง แนะนำให้ศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้รอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาด้วย"
นางภัทรียา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังรอมาตรการกำกับดูแลใหม่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากปัจจุบันที่ใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่ ซึ่งถ้าหากพฤติกรรมไหนเข้าข่ายจะต้องมีการดำเนินการ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงกังวลว่าอาจจะถูกตำหนิจากนักลงทุนได้หลังประกาศใช้มาตรการลดความรอนแรงของหุ้นเก็งกำไร
นายกมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานกรรมการ บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ (ML) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มไมด้า ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นในกลุ่มไมด้า ปรับตัวขึ้นแรง โดยเฉพาะ ML ที่ขึ้นชนซิลลิ่ง 2 วันติดต่อกัน โดยในฐานะผู้บริหารต้องการทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดเท่านั้น
ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น ML ในช่วงที่ผ่านมาซื้อขายต่ำกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นค่อนข้างมาก ทั้งที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ที่ผลการดำเนินงานน่าจะดีขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีลูกหนี้ที่ยังไม่รับรู้อีก (ดอกเบี้ยรอเรียกเก็บ) 400-500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปีนี้ ขณะที่ไม่มีภาระต้องตั้งสำรองเพิ่มเหมือนปีก่อน ซึ่งในไตรมาส 1/51ที่ผ่านมาดี ผลการดำเนินงานในภาพรวมถือว่าดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสามารถปล่อยสินเชื่อได้อย่างสม่ำเสมอ ตามยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ตรงตามเวลา
"'ที่จริงหุ้น ML ราคาต้องอยู่ 2 หลักด้วยซ้ำ เพราะถ้าดูจากงบการเงินและอนาคตของธุรกิจจะเติบโตอีกมาก ส่วนหุ้นที่ขึ้นแรงช่วงนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าขึ้นเพราะอะไร ตลาดหลักทรัพย์เองก็ไม่ได้สอบถามมา เพราะหน้าที่ผู้บริหารไม่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น'นายกมล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ML ถือว่ามีข้อเสียที่ไม่มีบริษัทแม่เป็นเป็นสถาบันการเงิน ทำให้มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯมีการเจรจากับพันธมิตรสถาบันการเงินแต่ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนการเปิดเสรีลิสซิ่ง มองว่าจะทำให้ตลาดเปิดกว้างขึ้น แต่การแข่งขันก็จะสูงขึ้น
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวถึงราคาหุ้นกลุ่มตระกูลไมด้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ว่า เกิดจากแรงเก็งกำไรประเด็นที่กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจะอนุญาตให้เปิดเสรีธุรกิจเช่าซื้อ หรือลิสซิ่ง จึงหนุนในหุ้นในกลุ่มธุกิจที่ได้รับประโยชน์ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงผิดปกติ ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการลงทุน โดยแนะนำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไร
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานหุ้นกลุ่มไมด้ายังไม่เปลี่ยนแปลงในระยะสั้น โดยมองว่าในช่วงนี้นักลงทุนหันมาเล่นหุ้นขนาดเล็กที่ราคาไม่ถึง 1 บาท หรือราคา 1-2 บาท เนื่องจากหุ้นขนาดเล็กเข้าง่ายและออกง่าย
สำหรับหุ้น MIDA มีแนวรับที่ 1.27 บาท แนวต้านที่ 1.43 บาท แนะนำขายทำกำไร หุ้น MME แนวต้านที่ 2.66-2.80 บาท แนะนำขายทำกำไร และหุ้น ML แนวรับที่ 4 บาท แนวต้านที่ 5 บาท แนะนำให้ขายทำกำไรเช่นกัน
นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า นักลงทุนได้เข้ามาซื้อหุ้นเก็งกำไรกลุ่มไมด้า เพราะคาดว่าหลังจากทางการอนุมัติให้เปิดเสรีธุรกิจเช่าซื้อ ลิสซิ่ง ทำให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาดำเนินธุรกิจได้จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจขยายตัวได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งดีต่อกลุ่มไมด้าด้วย
ด้านทีมวิเคราะห์ทางเทคนิคและกลยุทธ์การลงทุน บล.ไอร่า กล่าวว่า ในทางเทคนิคหุ้นทั้ง 3 ตัว ได้แก่ MIDA , MME และ ML มีการสะสมหุ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ในลักษณะสัญญาณ MACD คลอเคลียใกล้เส้นศูนย์ของ MACD และมีการระเบิดขึ้นไปแล้วที่แนวต้านแรก โดยหุ้น MIDA ใกล้ทะลุแนวต้านแรกที่ 1.37 บาท โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1.96 บาท
ส่วนหุ้น MME ได้ทะลุแนวต้านแรกที่ 2.80 ไปแล้ว แม้ตอนปิดตลาดจะไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 3.40 บาท และหุ้น ML เคยสร้างราคาสูงสุดในอดีตไว้ที่ 5.20 บาท โดยก่อนหน้านนี้ราคาปรับลดลงไปอย่างมากลงไปอยู่แถวๆ 1.40 บาท แล้วเริ่มพุ่งขึ้นมาจน ขณะที่ราคาตอนนี้วิ่งมาใกล้ถึงจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำได้แล้ว ซึ่งหากราคาวิ่งทะลุ 5.20 บาทไปได้ การเทรดจำเป็นต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าไปลงทุนในหุ้นเหล่านี้ จำเป็นต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นได้ผ่านแนวต้านแรกมาแล้ว หรือใกล้ที่จะผ่านแนวต้านแรก ซึ่งการเข้าไปลงทุนในแนวต้านต่อไปต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง โดยหากหุ้นมีสัญญาณปรับตัวลงแนะนำให้ขายทำกำไรและออกให้เร็วที่สุด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|