ธ.กรุงไทยเดินหน้าพัฒนาเอสเอ็มอี มั่นใจปีนี้ปล่อยกู้ตามเป้า2.6หมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(20 มิถุนายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ธนาคารกรุงไทย เผยยอดรวมสินเชื่อ SMEs ณ สิ้นเดือนเมษายนรวมกว่า 3.17 แสนล้านบาท ขณะที่ 5 เดือนแรก ปล่อยสินเชื่อ ไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท มั่นใจปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าเหมาย 2.9 หมื่น ล้านบาท พร้อมจับมือกับองค์กรเครือข่ายร่วมพัฒนา SMEs จัดสัมมนาเสริมสร้าง ความรู้เชิงวิชาการ และพัฒนาทักษะให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการที่สนใจ ด้านกระทรวงการคลัง ยันแบงก์รัฐลดอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อความอยู่รอดของธนาคาร

นายทินกร บุณยกะลิน ผู้อำนวยการฝ่ายและผู้บริหาร ฝ่ายส่งเสริมและพัฒนา SMEs บมจ. ธนาคาร กรุงไทย เปิดเผยว่า ยอดรวมสินเชื่อ SMEs ของธนาคาร ณ เดือนเมษายน อยู่ที่ 317,683 ล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนแรก ธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท โดยเน้นทั้งภาคการผลิต บริการ และค้าส่ง ค้าปลีก เป็นหลัก คาดว่าปีนี้จะปล่อย สินเชื่อได้ตามเป้า 2.9 หมื่นล้านบาท สำหรับแผนการดำเนินงานเพื่อขยายขอบเขตการสนับสนุนธุรกิจ SMEs นั้น นายทินกร กล่าวว่า ภายหลังการจัดโครงการ SMEs-KTB AWARD 45 เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารยังมีแผน การดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ ธนาคารได้ร่วมกับองค์กรเครือข่าย ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และหอการค้าจังหวัด จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการสัญจร เพื่อพัฒนาความรู้ และแนวคิดสร้างสรรค์ ในเชิงวิชาการ รวมทั้งเทคนิคต่างๆ ใน การบริหารจัดการที่ผู้ประกอบการควร รู้ โดยการจัดสัมมนาแต่ละครั้ง ธนาคารได้สำรวจความสนใจของลูกค้า เพื่อกำหนดหัวข้อ และจัดหลักสูตรของการสัมมนาให้ตรงกับความต้อง การของลูกค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการ ประกอบธุรกิจ และนำไปสู่ความพร้อมในการแข่งขัน

การจัดสัมมนาจะจัดขึ้น 9 ครั้ง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน เริ่มจากที่จังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี ระยอง ราชบุรี พิษณุโลก ลำปาง สุราษฎร์ธานี อำเภอ หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมสัมมนาครั้งละประมาณ 200 คน ซึ่งจะเป็นการเปิดเวทีพบปะระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริหารธนาคาร เพื่อให้ผู้ประกอบการรับทราบนโยบายและแนวทางการขอสินเชื่อได้ตรงตามวัตถุประสงค์ยิ่งขึ้น

คลังยันแบงก์กรุงไทยลดดอกเบี้ย

ตามกลไลตลาดเพื่อความอยู่รอด

ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึง กรณีการปรับลดดอกเบี้ยเงินของธนาคารกรุงไทยในฐานะที่เป็นธนาคารของรัฐบาล ว่าเป็นการปรับลดดอกเบี้ย ทั้งเงินกู้ และดอกเบี้ยเงินฝากในสัด ส่วน 0.75% เท่ากัน ซึ่งการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ ถือว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งธนาคารแต่ละ แห่งจะมีคณะกรรมการในการพิจารณา และดูแลเรื่องการลดดอกเบี้ยอยู่แล้ว

"แบงก์จำเป็นต้องลด เพราะหากธนาคารไม่ลดดอกเบี้ยลง ในขณะที่แบงก์อื่นแล้วนั้น แบงก์ก็อาจตายได้ เนื่องจากมีเงินฝากไหลเข้ามาในระบบมาก ดังนั้นจึงต้องให้เป็นไปตาม ลูกโซ่ ส่วนที่ ห่วงว่าประชาชนจะเดือด ร้อนนั้นก็ถือว่ารัฐได้พยายามทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว" ร.อ.สุชาติ กล่าว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.